ข้าเป็นวิญญาณเร่ร่อนมาหลายล้านปี ระหว่างที่ข้าวนเวียนอยู่ในโลกแห่งวิญญาณนั้น ข้าพบเจอเรื่องราวพันหมื่นเรื่อง ไม่ว่าวิญญาณพวกนั้นจะดิ้นรนกลับไปหรือดิ้นรนให้หลุดพ้นจากกรรมที่ได้ทำไว้ก่อนเสียชีวิต พวกมันหนีไม่พ้นกรรมที่ก่อไว้สักรายเลย…
ข้าจำไม่ได้ว่าข้าอดีตข้าเป็นใคร ทำไมถึงตาย แล้วทำไมถึงไม่ไปเกิดเสียที อาจเป็นเพราะข้าอยู่ในโลกวิญญาณมานาน จนลืมเรื่องราวของตัวเอง รู้เพียงแต่ว่า มนุษย์ทุกคนเสียชีวิตแล้ว ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง เพราะในโลกหลังความตาย ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะสูงส่งแค่ไหน พอวิญญาณหลุดจากร่างยศฐานบรรดาศักดิ์กลายเป็นสิ่งร้ายค่าทันที
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ ท่านแม่ฟื้นแล้วขอรับ”
“งื้อออ…พี่ใหญ่ ท่านแม่ฟื้นแล้วจริง ๆ ด้วย ท่านพ่อ รีบเอาข้าวต้มมาให้ท่านแม่เร็ว ๆ เจ้าค่ะ”
“เฟินเอ๋อร์ สวรรค์มีตา ขอบคุณที่เจ้ายังไม่ทิ้งพี่กับลูก ๆ ไป มา ๆ พี่จะประคองเจ้าขึ้นมา เจ้าต้องกินโจ๊ก จะได้มีแรง”
ข้าลืมตาขึ้นมาเห็นเด็กน้อยชายหญิงสองคน ผอมแห้ง จับมือข้าคนละข้างไว้ สีหน้าท่าทางพวกเขาดีใจยิ่ง ไม่นานมีบุรุษตัวสูงใหญ่ผอมแห้ง ผิวขาวเหลือง รีบนำถ้วยข้าวมาวาง แล้วประคองข้าให้นั่งพิงผนังบ้านที่เก่าทรุดโทรม ทำจากไม้ไผ่ ดูแล้วมิเหมือนบ้านเท่าไร
แม้ท่านโหร่งบอกว่าพวกเขาเคยเป็นครอบครัวข้ามาก่อน แต่หัวใจและร่างกายของข้ากลับรู้สึกเฉย ๆ …หรือเพราะข้าเป็นวิญญาณมาเนิ่นนานเกินไป
“พี่รู้ว่าเจ้ายังงอนพี่อยู่ แต่มิเป็นไร พี่พร้อมที่ตามง้อเจ้าทุกวัน…ฟู่…โจ๊กเช้านี้หอมกว่าทุก ๆ เช้า” แล้วข้าจะทำอย่างไรกับคนหน้ามึน…ที่เข้าใจว่าข้างอนเขา…เห้อออ…
คำชี้แจง)
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ชื่อสถานที่ หรือฉากประกอบในเนื้อเรื่อง เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ในเนื้อหาอาจมีคำพูด หรือการกระทำของตัวละคร ที่อาจส่อเจตนาในแง่ลบ ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ เพื่อความบันเทิงเท่านั้น ห้ามนำเนื้อหาไปเผยแพร่ หรือคัดลอกเนื้อหาโดนที่ไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด**
**** “สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงเนื้อหา หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไม่ว่าจะในรูปแบบใด ๆ ก็ตามที่เป็นการเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร”