ผลงานที่เคยลงออนไลน์และตีพิมพ์หนังสือแล้ว นำมาลงใหม่
ตัวละครในเรื่อง
1 นายแพทย์ เมฆา หมอเมฆ (ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลเดียวกับคุณหมอมิกซ์)
2 กอหญ้า ลูกสาวคนเล็กของแก๊ปกับมินตา (แก๊ปพระเอกจากเรื่อง Bad Guy นายตัวแสบ)
3 กราฟ พี่ชายของกอหญ้า (พระเอกจากเรื่อง Bad Guy คว้าหัวใจนายดิบเถื่อน)
4 หมอมิกซ์ (พระเอกจากเรื่อง Bad guy คุณหมอพ่อลูกอ่อน)
ตัวอย่างในเรื่อง
[Part : เมฆา]
“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ” ผมบอกคนไข้ก่อนจะเปิดดูแผลผ่าตัดที่หน้าอกของคนไข้ หลังจากตรวจแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางพยาบาลหันกลับไปเก็บเครื่องมือ คนไข้ก็กระตุกแขนเสื้อกาวน์ของผม
“ครับ?” ผมหันไปเลิกคิ้วถาม
“คือว่ามีนางพยาบาลมือหนักมากเลย ป้าเจ็บตอนเขามาทำแผลให้” คนไข้แอบเหล่มองนางพยาบาลคนที่ว่าเพื่อบอกให้ผมรู้ ผมหันไปมองนางพยาบาลคนนั้นเล็กน้อย
“เดี๋ยวหมอเตือนเขาให้ครับ ป้าพักผ่อนเถอะ ไม่สบายตรงไหนหรือเจ็บแผล บอกหมอได้เลยนะครับ” ผมดึงผ้าห่มมาห่มให้ป้าแล้วเดินออกจากห้องตรวจ นางพยาบาลตามมาติด ๆ
“เดี๋ยวคุณไปทำแผลให้คนไข้แล้วช่วยเบามือหน่อยนะ คนไข้บ่นว่าเจ็บ” ผมหันไปเตือนนางพยาบาล อีกฝ่ายพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปในห้องตรวจอีกห้อง ผมยกมือกุมขมับตัวเองเล็กน้อย รู้สึกว่าช่วงนี้นอนไม่พอเลย
ผมกลับมาที่ห้องพักแพทย์ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ต้องชะงัก ม่านตาขยายออกด้วยความตกใจเมื่อบนโต๊ะทำงานของผมตอนนี้มันไม่ได้ว่างเปล่า ถ้าผมไม่ใช่หมอที่ไม่กลัวผี ผมคงตกใจตายไปแล้ว บ้าชะมัด!!
“เธอ!!” ผมขมวดคิ้วมองยัยแมวที่นั่งหมุนเก้าอี้เล่นสบายใจเฉิบ เข้าห้องพักแพทย์ได้ยังไงหน้าตาเฉย
“กว่าจะมานะหมอ รอจนเหงือกแห้งหมดแล้ว” ยัยแมวกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วหนีไปยืนห่างจากผมแทบจะคนละมุมห้อง
“มาทำไม?” ผมหรี่ตาถาม รู้สึกหมั่นไส้กับไอ้ท่าทีเหมือนรังเกียจผมยังไงพิกล แค่จูบครั้งเดียว ทำเหมือนผมเป็นตัวเชื้อโรคไปได้
“มาตกลงกับหมอเป็นการส่วนตัว”
“ตกลงอะไร?” ผมเดินไปวางหูฟังลงบนโต๊ะ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง มองหน้ายัยแมวอย่างรอคอยคำตอบ
“เรื่องหมั้นไง แล้วก็จะมาขอโทษที่พ่อต่อยหมอจนคิ้วแตกด้วย พ่อมือตีนหนักน่ะ” ยัยแมวกลอกตาไปมาแล้วทำปากยื่น แต่กลับไม่สบตาผมตรง ๆ ดูยังไงก็มองออกว่ากำลังเขินสุดฤทธิ์
เด็กนี่เติบโตมาจากที่ไหน คำพูดคำจานี่ต้องถอนหายใจ แต่ก็แปลกดี ดูไม่เหมือนสาว ๆ ที่ผมเคยเจอ เรียกว่าไร้เดียงสาของแท้เลยล่ะมั้ง พ่อโหดขนาดนั้น คงยากที่จะออกไปเผชิญโลกกว้างน่ะ
“อื้อหึ! แต่ฉันเปลี่ยนใจล่ะ ฉันจะหมั้นกับเธอ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก แล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ไม่ได้นะ!!” ยัยแมวแหกปากดังลั่นทันทีที่ผมพูดจบ ผมต้องแหย่หู ผมไม่ถูกโรคกับเสียงดัง ๆ เหมือนกับหมอมิกซ์นั่นแหละ
“ทำไม?”
“ก็ฉันไม่อยากหมั้นกับหมอน่ะสิ ถามได้ หมออยากได้อะไรที่จะมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนมั้ย? ฉันไม่อยากหมั้นนี่ ไหว้ล่ะ! นะๆ” ยัยแมวยกมือขึ้นมาพนมแล้วไหว้ผมผงก ๆ พลางยื่นข้อเสนอมาให้
“มี” ผมตอบรับสั้น ๆ เห็นท่าทางไหว้ของยัยนั่นก็ต้องเบนหน้าหนีแล้วกระแอมในลำคอเพื่อไม่ให้หลุดขำ ไม่บ่อยนักหรอกที่จะมีใครมาทำให้ผมอยากจะหัวเราะได้เนี่ย
“อะไรเหรอ? ถ้าหมอจะเอาเงิน ฉันมีเงินเก็บไม่เยอะหรอกนะ”
ยัยนี่! คิดว่าผมเป็นใครกัน ผมหรี่ตาไม่ชอบใจก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกให้เข้ามาใกล้ ๆ
“ทำไมต้องเข้าไปหาด้วย”
“เธอไม่อยากรู้เหรอว่าข้อแลกเปลี่ยนของฉันคืออะไร” ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงอีกรอบ ยกมือกอดอกแล้วยิ้มมุมปาก
“บอกตรงนี้ก็ได้ยิน” ยัยแมวทำหน้าลังเลและไม่ไว้ใจ ท่าทางแบบนั้นเหมือนเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย ให้ตายสิ! จะติดคุกหัวโตไหมเนี่ย
“ก็ตามใจนะ ถ้าเธอไม่มาก็เชิญออกไปทางประตูได้เลย ฉันจะทำงาน” ผมยักไหล่ ขยับนั่งตัวตรงแล้วหยิบแฟ้มมาเปิด
“ก็ได้ ๆ” ยัยแมวรีบขยับมาใกล้ผมทีละนิด จนกระทั่งมาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงาน ดวงตากลมโตคอยเหลือบมองผมอยู่ตลอดเวลาและพร้อมจะกระโดดหนีทุกเมื่อ ถ้าผมขยับตัว
“ก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ สิ” ผมแกล้งทำหน้าขึงขัง ทำเสียงดุใส่ ยัยแมวกะพริบตาปริบ ๆ แต่ก็ยอมก้มหน้าลงมาใกล้ตามคำสั่ง ว่าง่ายดีจริง ๆ
“ใกล้พอหรือยัง?” ดวงตากลมโตลอยอยู่ตรงหน้าผม ปลายจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว ยัยนี่ไม่รู้จริง ๆ น่ะเหรอว่าใกล้พอหรือยังน่ะ มันใกล้มากเกินไปแล้ว
“ใกล้กว่านี้ จะโดนมากกว่าจูบ” ผมกระซิบลอดไรฟัน แล้วเอียงหน้าจูบปากเล็กอีกครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมถึงห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที ปากนี่มีอะไรดีนักนะ!
แผลเก่ายังไม่หาย สงสัยแผลใหม่จะมาอีกแล้ว