ใบหน้าถมึงทึงดวงตาดุกร้าวทำให้ร่างบางใจสั่น จากที่หน้าซีดอยู่แล้วกลับยิ่งซีดเผือดลงไปอีกเท่าตัวเมื่อเห็นสิ่งที่ร่างหนาถืออยู่ในมือมันคือแส้หนังเส้นยาวที่เขาม้วนเอาไว้และปล่อยปลายลงมาแค่พอแกว่งเล่นได้
“จะทำอะไร!” ร่างบางถามเสียงสั่น
ร่างหนาไม่ตอบแต่แค่นยิ้มเหี้ยมแลดูดุดัน ขณะที่ดวงตาคู่คมจ้องคนที่ถูกมัดแขนไม่ละสายตา
“ม้าพยศ ยังต้องปราบด้วยแส้...” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็นเยียบ
“คราวนี้มาเจอภรรยาพยศที่คิดสังหารเอาชีวิตสามีเช่นเจ้า ข้าก็จะปราบด้วยวิธีเดียวกัน! ทีแรกข้าตั้งใจว่าจะเฆี่ยนเจ้าแค่สามที แต่ท่าทางเจ้าจะไม่ได้สำนึกหรือรู้สึกผิดที่ทำร้ายข้า ฉะนั้น...ข้าจะเฆี่ยนจนกว่าเข้าจะยอมรับผิดและยอมรับปากว่าจะไม่อวดดี ไม่คิดทำร้าย แล้วก็ไม่พยศกับข้าอีก”
แรงสะอื้นทำให้ไหล่บอบบางสะท้านเล็กน้อย เขามิใช่บุรุษที่ชื่นชอบความรุนแรง มิได้มีความนิยมทำร้ายสตรี หรือเห็นความเจ็บปวดเป็นเรื่องสนุกตื่นเต้น แต่ที่ต้องทำเพราะถ้าวันนี้เขาปราบนางมิได้ วันหน้าตราบเท่าที่นางยังเป็นที่พึ่งใจเขา เขาก็จะต้องปวดหัวกับการต่อต้านแบบไม่รู้จักจบจักสิ้น
“ถามครั้งสุดท้าย เจ้า! ยอม...หรือไม่ยอม”
“สารเลว! กรี๊ดดดด!!!!”
สิ้นคำด่าทอ ความปวดแสบปวดร้อนก็ฟาดลงมากลางแผ่นหลังบอบบาง ทะลุผ่านชุดนอนสีขาวบางจนหญิงสาวสะท้านไปทั่วร่าง