คืนหนึ่งท้องฟ้ากลางเมืองหลวงเต็มไปด้วยแสงจันทร์ลางเลือน
ท่ามกลางบ้านเรือนไทยเก่าแก่ที่เงียบสงัดอยู่ในซอยลึกของกรุงเทพฯ ราวกับถูกเวลาทิ้งร้างไว้กลางกาลเวลา
ณ บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เล่าขานกันว่ามีตำนานลึกลับเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สูญหายที่ไม่สามารถอธิบายได้
ฝนโปรยปรายอย่างเบาบาง เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของหญิงสาวในชุดสไบขาวแว่วมาในความเงียบ บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของอดีตอันเย็นยะเยือก จนทำให้เจ้าของบ้านยุคปัจจุบันยังไม่กล้าเข้าไปใช้ชีวิตในนั้น
"คุณเคยได้ยินเรื่องบ้านหลังนี้ไหม?" นัททิยา หญิงสาวนักโบราณคดี ผู้หลงใหลในอดีตเอ่ยถามกับเพื่อนสนิทอย่างรุจินทร์ ที่ยืนอยู่หน้าบ้านหลังเก่าด้วยความไม่แน่ใจ
"บ้านหลังนี้ไม่มีใครกล้าเข้าไปนานแล้ว นัท" รุจินทร์ตอบเสียงเบา ภาพบ้านที่ทรุดโทรมแต่ยังคงสวยงามในแบบคลาสสิกยุคปลายรัชกาลที่ 6 ทำให้เขาขนลุก
นัททิยาใช้แสงไฟฉายสำรวจบ้านหลังนี้ช้า ๆ ท่ามกลางเงาและความมืดที่ครอบคลุมไปทั่วทุกมุมห้อง เหมือนมีบางสิ่งรอการค้นพบอยู่ลึก ๆ ใต้ฝ้าเพดานหรือในตู้เก็บสมบัติ
ทันใดนั้น เสียงแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบจากอดีตดังก้องอยู่ในหูของนัททิยา “ช่วยด้วย...ฉันถูกขังอยู่ที่นี่”
ความลึกลับเริ่มแผ่ซ่านทั่วบ้านหลังเก่า แสงไฟฉายในมือของนัททิยาสะท้อนภาพเงาที่ขยับไหวอยู่ในความมืด ทว่าไม่มีวี่แววของใคร
“ใคร... ใครอยู่ที่นี่?” นัททิยาถามเสียงสั่น แต่วิญญาณเงานั้นกลับเงียบลง ราวกับถูกพลังบางอย่างขังเอาไว้
และแล้ว ความลับของบ้านร้างหลังนี้ก็เริ่มต้นเปิดเผย—ความลับที่เชื่อมโยงกับโศกนาฏกรรมและการสืบสวนที่ไม่สิ้นสุด