“ฉันยังไม่อยากเข้าคุก” ตุลย์เอ่ยออกมาเสียงเครียด
“จะเข้าทำไมคะคุก ก็แค่ซื้อตัวมาเป็นคนงานที่บ้าน ทีนักฟุตบอลเขายังซื้อตัวกันเลย แล้วคนรับใช้หรือคนงานที่บ้านจะซื้อตัวเหมือนกันไม่ได้เหรอ” ใบบุญเถียงคอเป็นเอ็นขึ้นมาทันที แต่คำพูดของเธอที่พูดออกมาเล่นเอาตุลย์หลุดขำทันที
“นักฟุตบอลเขาซื้อตัวกันอยู่แล้ว แต่คนรับใช้ คนงาน หรือแม่บ้าน ไม่มีใครเขาซื้อตัวกันหรอก ติดป้ายรับสมัครวันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้เลย หรือถ้าไม่มีก็แค่หาบริษัทเอ้าท์ซอสท์หาคนให้ แค่นี้ก็ได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิดที่จะต้องเสียเงินซื้อตัวเธอมา” ตุลย์เอ่ยไปหัวเราะไป ความคิดของใบบุญมันก็คือเด็กหญิงคนหนึ่งที่ต้องการทางรอดเท่านั้น แต่เธอไม่ได้คิดเลยว่าในชีวิตจริง มีใครเขาทำแบบนั้นกันบ้างเถอะ
“งั้นถ้าไม่มีใครซื้อ คุณตุลย์ก็ซื้อสิคะ สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้กับวงการแม่บ้านค่ะ” ใบบุญเอ่ยสิ่งเธอคิดขึ้นได้ โดยไม่ได้ทบทวนเลยสักนิดว่าเขาจะได้อะไรจากสิ่งนี้
“ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะ กลับไปเถอะ ฉันยังไม่อยากติดคุก” ตุลย์พยายามที่จะแข็งใจไล่ใบบุญอีกครั้ง เขาสงสารเธอ แต่เขายังไม่รู้ว่าถ้าเขาช่วยเธอ เขาจะถูกมองยังไง เขามีธุรกิจที่ต้องดูแล ถ้าความลับเรื่องนี้เปิดเผย มันไม่เป็นผลดีกับเขาแน่ๆ
“หนูจะไม่ไปไหน จนกว่าคุณตุลย์จะช่วยหนู” ใบบุญเอ่ยจริงจัง เธอจะไม่ยอมกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก แส้ที่ป้าแดงตีเธอเมื่อคืน ความเจ็บนี้ไม่ได้เจ็บแค่ที่กาย แต่เจ็บที่ใจมากกว่า การถูกดูถูกว่าเป็นภาระสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ยินมันมาตั้งแต่เด็กจนโต มันทำให้เธอไม่เหลือแม้แต่ความรู้สึกดีๆ ให้กับป้าของตนเอง
“ทำไมถึงดื้อขนาดนี้ล่ะใบบุญ ฉันก็บอกแล้วว่าฉันช่วยเธอไม่ได้” ตุลย์เอ่ยออกมาเสียงเครียด ดูท่าแล้วว่าใบบุญจะไม่ไปไหนจริงๆ เธอเจออะไรมาเยอะ เธอคงต้องพยายามหาทางให้เขาช่วย แล้วก็ตามตื้อเขาอยู่แบบนี้ เขากำลังคิดหาวิธีว่าจะช่วยเธออย่างไรดี