สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดหวีดหวิว พาสายลมหนาวแทรกเข้าไปตามรอยแตกของตำหนักไม้เก่าซอมซ่อหลังหนึ่ง ที่ถูกทอดร้างไว้ในบริเวณหลังสุดของวังหลวง ที่นั่นใครๆ ก็เรียกขานมันเรียกว่าตำหนักเย็น
หญิงสาวผู้มีสารรูปทรุดโทรมคนหนึ่งสวมใส่เสื้อคลุมชั้นในสีขาวแค่ชั้นเดียว กำลังยื่นประจันหน้ากับตำหนักรกร้างที่กำลังถูกเปลวไฟแผดเผาท่ามกลางท้องฟ้ามืดทมึนในยามราตรี นางใช้เลือดและน้ำตาของตัวเองอาบย้อมเสื้อคลุมสีขาวจนกลายเป็นสีแดงสด
หลังจากลั่นวาจาว่าจะจองล้างจองผลาญศัตรูด้วยความอาฆาตพยาบาท นางก็กระโจนเข้ากองไฟที่กำลังลุกไหม้กลืนกินตำหนักที่คุมขังตัวเอง ตั้งใจเผาตัวตายหวังจะให้วิญญาณของตนกลายเป็นวิญญาณพยาบาท เพื่อจะได้หวนกลับมาแก้แค้น
นางวิงวอนต่อดวงวิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ใต้ผืนพิภพ ขอแลกเปลี่ยนสามจิตเจ็ดวิญญาณของตอนเพื่อให้ได้หวนกลับมาแก้แค้น
ชาตินี้นางคือผู้พ่ายแพ้จึงไม่ขอแลกเปลี่ยนชีวิตของตัวเองกับทวยเทพบนสวรรค์ เป็นคนดีแล้วได้อะไรตอบแทนนอกจากสูญเสียทุกอย่าง เสียร่างกายให้ชายอื่นย่ำยียังไม่พอยังเสียแก้วตาดวงใจทั้งคู่ไปอีกด้วย
บุตรสาวถูกส่งให้ไปตายที่ดินแดนทะเลทรายห่างไกล บุตรชายถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายต่อหน้าบัลลังก์ของบิดาผู้ที่เด็กหนุ่มยึดมั่นให้ความภักดีหมดหัวใจ สุดท้ายร่างกายของนางกลายเป็นขั้นบันไดให้ผู้ชายใจดำคนนั้นพาผู้หญิงน้องสาวต่างแม่ขึ้นไปนั่งเคียงข้างกับเขา
ตอนที่กำลังทุนรทุรายอยู่ในเปลวไฟ ร่างเงาของบุรุษผู้หนึ่งได้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า เขายื่นมือเข้ามาปิดดวงตามืดบอดของนางแล้วจึงเอ่ยคำพูดแลกตามที่นางร้องขอ
"ข้าหมิงเยี่ยต้าตี้รับฟังคำวิงวอนของเจ้า จงย้อนกลับไปยังอดีตเมื่อครั้งที่ตัวเจ้ายังไม่ได้แปดเปื้อนมลทินใดๆ ข้าจะให้โอกาสโฉมสะคราญได้หวนกลับคืน สิ่งแลกเปลี่ยนคือแผ่นดินเฮยหลงของคนสกุลเซี่ย...รวมถึงร่างกาย หัวใจ และจิตวิญญาณของเจ้า"
"ข้ายินดีแลกเปลี่ยนกับท่านด้วยความเต็มใจ" นางกระซิบตอบในใจก่อนที่สติสัมปชัญญะจะถูกความมืดกลืนกินไปจนหมดสิ้น เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง การล้างแค้นของโฉมสะคราญจึงได้เริ่มต้นขึ้น