คำโปรย
เขาและเธอซึ่งอยู่กันคนละภพเป็นเส้นขนานกลับมาบรรจบกัน
สิ่งที่เธอต้องการต้องแลกกับพรหมจรรย์ / สิ่งที่เขาต้องการแลกกับหัวใจ
“ทุกอย่างอยู่ในพิธีกรรมฉันไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ ” เสียงทุ้มหนาเย้ยหยันพร้อมกับแววตาสีน้ำเงินเข้มวาวโรจน์อย่างท้าทาย
“นายทำลายพรมจรรย์ของฉันเพียงเพราะพิธีกรรมบ้าบอไร้สาระเนี๊ยนะ” สาวน้อยสั่นเทิ้มยามตะโกนสาดเสียเทเสียออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อคืนเธอทั้งอ้อนวอนและร้องขอเขาแทบขาดใจ แต่คนใจอำมหิตกลับขืนใจเธออย่างเลือดเย็น!!!
“พิธีบูชามณีไม่ใช่พิธีไร้สาระ สมองกลวงๆ อย่างเธอคงยากที่จะเข้าใจ”
“สมองนายคงกลวงกว่า..เพราะถ้าพิธีบ้านั่นสำคัญจริง ต้องใช้กำลังขืนใจผู้หญิงลากมาทำพิธีแบบเมื่อคืนเหรอ”
“ขืนใจ ? ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ “เมื่อคืนเธอ ‘สมยอม’ ทุกครั้งและทุกท่า มีท่าไหนที่เธอไม่ถึงจุดสุดยอดมั้ย ? ”
“นะ นาย!!!! ”
“ก็ไม่ ฮึ! ” คนตัวสูงใหญ่ขยับขึ้นกักกันร่างน้อยไว้ใต้อาณัติ “ความจริงคือเธอยอมตกเป็นของฉัน คลั่งฉันจนแทบขาดใจต่างหาก”
“ฉันต้องการสิ่งที่อยู่บนคอนาย” นิ้วเรียวเล็กชี้ไปยังจี้มณีเจ็ดแสงที่สะท้อนวิบวับเด่นตระหง่านบนลำคอหนา “ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรฉันก็ยอม”
“ของที่เธอต้องการมีค่ามหาศาล แม้แต่ชีวิตก็แลกไม่ได้” มุมปากหนายกหยักอย่างเย้ยหยัน ตัวแค่นี้ริอาจจะมาต่อรองกับคนอย่างเขา!
“ฉันจะต้องได้มันมา” ดวงตาสีมรกตจับจ้องที่ยังมณีอย่างไม่ลดละ “นายจะให้ฉันทำอะไรก็ว่ามา”
“พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเธอควรค่าที่จะได้ครอบครองมณี” อุ้งมือร้อนจัดบีบกรามเล็กแน่น
“ได้! ”
“เงื่อนไขมีอยู่ข้อเดียวคือ..ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเธอ ย่อมทำเลวระยำอะไรกับเธอก็ได้ เคลียร์มั้ย ?! ”
ฝ่ามือหนากรีดเลือดออกจากมุมปากรูปกระจับ สายตาคมไล่มองผิวนวลอมชมพูอย่างหลงใหล ชาวเมืองอนันต์ญมณีจะมีสีผิวโทนเหลือง..นั่นชัดเจนอยู่แล้วว่าหญิงสาวร่างเล็กคนนี้ไม่ใช่คนของที่นี่
“คุณไม่ควรเอาตัวไปยุ่งกับสามสาวนั่น พวกนั้นค่อนข้างกุมอิทธิพลของหญิงวัยรุ่นในเมืองเกือบทั้งหมด” เสียงนุ่มพูดปลอบประโลมคนตัวน้อยอย่างอ่อนโยน “อยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง”
“บ่อนคาสิโนของท้าชน” สายรุ้งตอบกลับเสียงอ้อมแอ้ม “ฉันทำงานอยู่ที่นั่น”
ฟึ่บบ
สูทเนื้อดีถูกตวัดคลุมไหล่เปลือยเปล่านิ้วเรียวยาวขยับสูทให้กระชับจนมิดเรือนร่างงดงาม แววตาสีนิลแสนอบอุ่นชโลมวาบลงถึงหัวใจดวงน้อย “ผมขออุ้มนะ ดูท่าคงเดินไม่ไหว”
จบคำขอเหมือนพูดเป็นพิธีนั้น..ร่างบอบบางก็ถูกตวัดขึ้นอ้อมแขนแข็งแกร่งอย่างนุ่มนวล
“ผมชื่อแซม’ เป็นเจ้าเมืองทางทิศเหนือ” เสียงนุ่มแนะนำตัวระหว่างพาสาวน้อยเดินไปยังลานจอดรถ ชายหนุ่มวางร่างบางลงบนเบาะข้างคนขับอย่างแผ่วเบา ก่อนจะควักนามบัตรในกระเป๋าใส่มือสาวน้อยเอาไว้ “นี่นามบัตรของผม ทุกครั้งที่มีใครมาทำร้ายหรือกลั่นแกล้งโทรหาผมได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ต่อให้อยู่ห่างคุณสุดขอบฟ้า..ผมก็จะมาหา”
สาวน้อยร่างสูงโปรงขยับนั่งบนหน้าตักแกร่งยกสองแขนบางคล้องลำคอหนา ก่อนจะจรดริมฝีปากที่แต่งแต้มลิปสติกสีแดงสดประทับผิวเนื้อสีแทนจนเกิดร่องรอย
“กุลไม่เข้าใจเลยค่ะ คุณจะซีเรียสอะไรกับนังเด็กเมื่อวานซืน”
“อย่าจุ้นหน่า”
“ชนคะ ทำไมคุณไม่ปล่อยให้นังเด็กนั่นตกเป็นของเสี่ยสักคน เธอจะได้ไปพ้นๆ จากชีวิตคุณไงคะ” สาวน้อยแนบแก้มลงบนอกแกร่งอย่างออดอ้อน “กุลไม่สบายใจเลยที่นังเด็กกะโปโลมาวนเวียนอยู่ในชีวิตของคุณทุกวี่ทุกวัน ถ้าวันหนึ่งคุณเกิดหลงปันใจ...”
“ฉันรู้ดีว่ากำลังทำอะไร ธุระของเธอมีเท่านี้ใช่มั้ย ? ” ท้าชนจับแขนบางออกจากลำคอก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้ร่างบางต้องถลาลุกขึ้นยืนตามอย่างทุลักทุเล
“คืนนี้กุลไปหาคุณได้มั้ยคะ ? ”
“ฉันไม่ว่าง” ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนตัดบทสนทนาโดยการก้าวเท้าออกจากห้องทำงานโดยไม่แม้แต่จะเหลียวแลสาวน้อยที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ด้านหลังแม้แต่น้อย
“หนอย นังสายรุ้ง! อย่างเธอต้องเจอฉัน”
“ท่าน หรือจะเกิดอะไรขึ้น ? ” และเป็นอัคคีที่ทนความอึดอัดไม่ไหวเอ่ยถามท่านโหราศาตร์อย่างไม่เข้าใจ
“พิธีสำเร็จไปได้ด้วยดี” ท่านโหราศาสตร์แหงนมองท้องฟ้าที่มีแสงจากอัญมณีเจ็ดแสงสว่างเรืองรองไปทั่วเมืองอนันต์ญมณี “ช่างสวยงามเหลือเกิน เกินความคาดหมายเสียจริง”
“แล้วทำไมท่านท้าชนยังไม่ออกมาจากห้องพิธี” สมุนมือขวาเอ่ยอย่างร้อนลน “ฉันจะเข้าไปดูสักหน่อย เผื่อเกิดผิดพลาดอะไรแล้วท่านท้าชนเป็นอันตราย...”
“ไม่ต้อง! ” เสียงแหบชรารีบเอ่ยดักชายหนุ่มเอาไว้ “ท่านท้าชนไม่เป็นอะไร เชื่อข้า”
“ไม่เป็นอะไรแล้วทำไมไม่ออกมาอีกล่ะ ท่าน! ”
นำเสนอ
“เธอไม่ใช่คนของเมืองอนันต์ญมณี” ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเย็นเฉียบและก้าวเท้าเข้ามาชิดเตียงนอน เขาทรุดตัวนั่งลงบนเตียงข้างกายบอบบาง “บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าเธอมาจากไหนกันแน่?! ”
“ทะ ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย”
“เพราะฉันเป็นคนปกครองเมืองนี้และจำเป็นต้องรู้ว่า ‘คนแปลกหน้า’ ที่ย่ำกรายเข้ามาที่ผืนแผ่นดินนี้มาด้วยจุดประสงค์อะไร” เสียงทุ้มห้าวเอ่ยต่อด้วยประโยคที่คนฟังขนลุกไปทั่วทุกอณูผิว “เพราะถ้าเธอไม่หวังดีกับเมืองอนันต์ญมณี ฉันจำเป็นต้องกำจัดทิ้ง!! ”
“...”
หมับ!
เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงแน่นิ่งและรูดซิบปากเงียบ ท่อนแขนแกร่งตวัดคว้าเอวบางยกคนตัวน้อยมาวางบนตักกว้าง ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามเรียวขาอ่อนที่โผล่พ้นชุดนอนบางเบา
“ถึงเธอจะไม่ยอมตอบตอนนี้ฉันก็มีวิธีคาดคั้น” นิ้วเรียวไต่ขึ้นสูงอย่างน่าใจหายจนสาวเจ้าเกร็งสะท้าน “ว่ายังไง เธอมาจากที่ไหน? ”
“อย่า! ” คนตัวน้อยร้องเสียงหลงเมื่อนิ้วเรียวแตะที่กิ่งกลางสาวแสนบวมช้ำ “ฉัน..ยังระบมอยู่ ไม่เอานะ”
“ไม่ต้องมาบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสาร เพราะฉันไม่เคยปรานีใครหน้าไหนทั้งนั้น” ท้าชนเอ่ยน้ำเสียงเข้มจัดก่อนจะย้ำถามคำเดิม “มาจากไหน สายรุ้ง! ”
เรื่องนี้จะติดเหรียญหลังอัพนิยายจนจบเหมือนเดิม ^^
และจะมีทำนิยายในรูปแบบของ E-book ด้วยน้าา ฝากติดตามและให้กำลังใจกานด้วยนะคะ
ถ้าอยากอ่านไวๆ อยากให้กานอัพไวๆ
ขอเม้นรีดเดอร์ที่รออ่านเรื่องนี้หน่อยนะค่าาา
X บุคคลในภาพไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเนื้อหาในนิยาย
เป็นเพียงภาพประกอบเพื่ออรรถรสของการอ่านนิยายเท่านั้นค่ะ X