“อวดดี!” เสียงแหบห้าวดังกัมปนาทจนคนตัวน้อยสะดุ้ง!!
“ฉันอ้อนวอนนายดีๆ นะ” สาวน้อยที่มีดวงตากลมสวยจับจ้องคนตรงหน้าไม่วาง
“ถอดชุด!และกางขาออก!!”
“ไอ่..ไอ้มาเฟียเย็นชา ไอ่หื่นกาม ไร้มนุษยธรรม!!!”
“คนไร้มนุษยธรรมอย่างฉัน..จะทำให้เธอสำลักจนตัวตาย คำสั่งฉัน..ถอดชุดเดียวนี้!”
“ไม่ถอด” คนตัวน้อยกว่าแหงนหน้าตอกกลับเป็นการประกาศกร้าวว่าไม่มีวันยอมเขาเด็ดขาด
“แมงเม่าอย่างเธอคิดจะอวดดีกับฉันงั้นเหรอ?” คิรัณกระตุกยิ้มเหยียด
“ฉันเป็นเพศแม่นายนะ!” หญิงสาวตะโกนหน้าดำหน้าแดง สายตาแทะโลมที่จงใจไม่ปิดบังของคิรัณทำให้เธออยากจะโดถีบยอดหน้าเขาเสียเดี๋ยวนี้ บ้าบอ!
“แล้วไง” ฝ่ามือหนาดันไหล่บางจนกระทบเข้ากับผนังห้องนอนอย่างป่าเถื่อน ความรวดร้าวแทรกซึมจนหญิงสาวขมวดคิ้วมองคนอำมหิต “อย่าคิดว่าผู้หญิงอย่างเธอฉันจะออมมือให้”
“ไม่ได้คิดจะให้นายมาสมเพชเวทนาอยู่แล้ว” เธอยังคงถือดีโต้เถียงเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งที่ภัยอันตรายกำลังจะมาเยือนอีกไม่กี่เสี้ยววินาที “ถ้านายกล้าทำร้ายเพศแม่ของตัวเองได้ ก็ลองดู!”
“ฉันเลวได้มากกว่าที่เธอคิด”
แควก!!!
สิ้นคำประกาศิต...ชุดเดรสเนื้อดีขาดสะบั้นติดมือใหญ่ออกทันที!!
“กรี๊ด!นายมันเถื่อนถ่อย..ไอ้สารเลว!”
“เถื่อนงั้นเหรอ?” คิรัณจงใจบดเบียดกายส่วนล่างที่แข็งขืนเข้ากับจุดใจกลางสาวนุ่มหยุ่น “เดี๋ยวได้รู้ว่าจะเถื่อนหรือจะถ่อย”
“ไหนนายบอกว่าจะทำตามที่รับปาก” พราวมุกกับปลายผ้าห่มเข้าหาตัวแน่น ดวงตากลมตวัดมองชายที่ยืนสวมเสื้อเชิ้ตด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
เหมือนกับเมื่อคืนเขาไม่ได้กระทำใดๆ กับเธอเลย!
“ฉันบอกว่า..ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ” คิรัณกรีดยิ้มเย็นยะเยือก ก่อนจะสืบเท้าเดินมาหาร่างน้อยเปลือยเปล่าที่นั่งนิ่งอยู่กลางเตียงเนื่องด้วยส่วนล่างยังร้าวระบมจากกิจกรรมบนเตียง
“แต่นั่นมันครั้งแรก..” หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความคับแค้นใจ เธอไม่น่าเชื่อใจคนอย่างเขาเลย
“ฮึ!” ชายหนุ่มท้าวแขนลงบนเตียงนุ่มโน้มลำตัวไปทางสาวน้อยจนคนอยู่บนเตียงจำต้องเอนไปด้านหลังเพื่อหลบหนี “เธอมันก็แค่..อนุบาล ไร้รสนิยม”
“นี่นาย!!” หญิงสาวยกมือด้านขวาตวัดเข้าแก้มสากอย่างเต็มแรงฉับพลัน
เพี๊ยะ!!!!!
ไวเท่าความเร็วแสง คิรัณขยับขึ้นคร่อมคนตัวน้อยไว้ใต้อาณัติ ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ราวกับเสือเตรียมพร้อมจะออกล่าเหยื่อ ฝ่ามือหนาบีบเค้นไหล่บางจนเธอเจ็บร้าวไปทั้งแขน
“ถ้าอยากได้รับคำชมก็ทำให้มันเต็มที่หน่อย ไม่ใช่นอนนิ่งเป็นขอนไม้แข็งทื่อแบบเมื่อคืน” เสียงแหบห้าวกดต่ำจนคนฟังขนลุกซู่
“ฉันเจ็บ!”
“ปากดีให้มันถึงที่สุด พราวมุก” คนตัวสูงใหญ่สะบัดผ้าห่มจนกระเด็นไปกองอยู่ปลายเตียง
“กรี๊ด!อย่านะ” หญิงสาวกรีดร้องตกใจหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ร่างสูงใหญ่กับแทรกตัวลงหว่างขาและจับเรียวขางามกระชากกางออกจากกัน “ไอ้บ้า ไอ้เถื่อน ไอ้เลว ปล่อยยย”
“...” คิรัณกรีดยิ้มเหยียดอย่างเลือดเย็น นิ้วเรียวยาวกรีดไปตามร่องสวาทหนักจนสาวน้อยสะดุ้งเฮือกใหญ่ จังหวะที่คนตัวน้อยยังไม่ทันตั้งตัวนิ้วเรียวยาวขยับสอดลึกเข้าในโพรงฉ่ำหวานจนสุดโคนอย่างรวดเร็ว
พรวด!
“กรี๊ดดด อื้อ!” พราวมุกน้ำตาเล็ดด้วยความแสบ นิ้วที่คาอยู่ในช่องทางรัดนุ่มทั้งที่ยังไม่มีน้ำล่อลื่นออกมานั้น ทั้งเจ็บทั้งแสบจนเธอหวาดหวั่น “อึก คำว่าเลวระยำยังน้อยไปสำหรับนาย!!”
“เธอตบ ฉันจูบ” คิรัณเอ่ยเสียงแหบพร่าทว่าเยือกเย็น “แต่อยู่ที่ว่าฉันจะจูบปากบน..หรือปากล่าง ฮึ!”
“ไอ้มาเฟียหน้าเลือด!!”
“ปล่อยพราวมุก” เสียงแหบห้าวต่ำจนสั่นเครือด้วยแรงโทสะ ดวงตาดุจเสือจับจ้องไปยังมือของเรียวกิที่โอบอุ้มร่างไร้สติของพราวมุกไว้ในอ้อมแขน “อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ท่าทางยัยนี่จะสำคัญกับนายมาก พ่อมาเฟียเลือดเย็น” เรียวกิตวัดปลายกระบอกปืนจ่อที่กลางหน้าผากของคิรัณนิ่ง “คนไร้หัวใจอย่างแกจะไปสร้างความสุขสมให้ใครได้ ฮะ!”
“...” ไร้การโต้กลับใดๆ จากผู้โดนกล่าวหาว่า ‘เลือดเย็น’ นิ้วเรียวยาวของคิรัณแตะที่ปุ่มโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง
“มันต้องฉันนี่ ฉันเท่านั้นที่จะทำให้พราวมุกมีความสุข” เรียวกิกระตุกยิ้มอย่างสาแก่ใจเมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนกำหมดตัวสั่นเทา “รับปากและรับรองไว้กับนายเลยนะ คิรัณ..ฉันจะพาพราวมุกขึ้นถึงจุดสูงสุดของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลย!”
“ระวังปากเน่าๆ ของแกเอาไว้” นัยน์ตาสีเทาเข้มลุกโชนราวกับไฟบรรลัยกัลป์ที่พร้อมจะแผดเผาเรียวกิให้มอดไหม้เป็นจุณ!!
“ถามจริงเถอะ แกก็รู้ว่าฉันเป็นนักล่า โดยเฉพาะสาวพรหมจรรย์..ของหวานๆ แบบนี้แกก็รู้ว่าฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่” เรียวกิเลิกคิ้วข้างหนึ่งเป็นเชิงถามอย่างสงสัย “แล้วปกติเราก็ไม่เคยล้ำเส้นกันนิหว่า วันนี้เป็นวันแดงเดือดหรือไงวะ?”
“ฮึ”
หมับ!!
ฟึ่บ!
“เฮ้ยยย” เรียวกิร้องเสียงหลง
เมื่อคิรัณก้าวเท้าประชิดและชิงตัวพราวมุกออกจากอ้อมแขนเขาเพียงเสี้ยววินาที! โดยที่เขายังตั้งตัวไม่ทันเลยด้วยซ้ำ การที่เรียวกิไม่เคยปะทะกับคิรัณเลยทำให้ประมาทในตัวคนตรงหน้าและชะล่าใจจนเกินไป
เมื่อคิรัณได้ตัวพราวมุกมาไว้ในอ้อมกอดของตัวเองและมั่นใจว่าเธอปลอดภัย นิ้วเรียวยาวเลื่อนกดปุ่มสั่งการให้มือขวาทำงาน ‘ตามแผน’ ทันที
ตู้มมมมมมม
ตู้ม! ตู้มมม!!!!
คฤหาสน์หลังใหญ่ค่อยๆ พังถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว..เรียวกิหันกลับไปมองบ้านของตัวเองอย่างตกใจ คฤหาสน์ที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดสมบัติที่ถูกถ่ายทอดมารุ่นต่อรุ่นพังถล่มยับลงภายในพริบตา!!
“ไอ้คิรัณ!! นี่มันเรื่องระยำอะไรวะ” เรียวกิที่กำลังตรงเข้ามาจะปล่อยหมัดใส่คิรัณด้วยความแค้น แต่กลับถูกลูกน้องของคิรัณกันเอาไว้จนไม่สามารถเข้าถึงตัวคิรัณได้เลย “กะอีแค่ฉันจับยัยนี่มา มันถึงขั้นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอไง!!!”
“งั้นฉันจะบอกให้แกหายโง่” เสียงแหบห้าวเอ่ยอย่างราบเรียบทว่าเยือกเย็น “ยัยนี่..เมียฉัน!”
“พี่รัณ!” สาวน้อยรูปร่างสูงโปร่งถลาเข้ากอดแขนล่ำของคิรัณอย่างออดอ้อน พวงแก้มเนียนใสคลอเคลียไหล่กว้าง “คุณพ่อให้ชวนไปทานข้าวเย็นนี้ ห้ามปฏิเสธนะคะ”
“คิรัณไม่ว่าง” พราวมุกลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สองเท้าเรียวงามก้าวเข้าไปหาฟากฟ้าทีละก้าวอย่างหนักแน่น “หมอนี่ยังคุย ‘งาน’ กับฉันไม่จบ และดูท่าว่าจะคุยต่ออีกทั้งคืน”
“กรี๊ด หยาบคาย” ฟากฟ้าให้นิ้วชี้เรียวยาวหันไปทางพราวมุกอย่างสุดจะทน
“มุก” เสียงปรามของคิรัณดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะนั่นยิ่งทำให้พราวมุกรู้สึกสะใจมากกว่าครั้งไหนที่สามารถเอาคืนเขาได้
“เมื่อคืนคุณไม่เรียกฉันน้ำเสียงแบบนี้นิคะ” ดวงตากลมโตช้อนมองคิรัณอย่างเรียกคะแนนความสงสาร ที่ชาวบ้านทั่วไปขนานกันสั้นๆ ว่า ‘อ่อย’ นั่นแหละ!
"เฮ้อ! " ชายหนุ่มสายหน้าเบาๆ อย่างหนักใจ เพราะรู้ดีว่านั้นคือการแสดงที่พราวมุกจงใจปั่นประสาทเขาเล่น
“พี่รัณต้องจัดการให้ฟ้านะคะ ผู้หญิงอะไรไร้ยางอาย”
“อ๋อ คุณฟ้าว่าฉันเหรอคะ?” พราวมุกชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพรางทำสีหน้าตกใจแบบเวอร์วังที่เด็กอนุบาลดูก็รู้ว่ากำลังเสแสร้ง ก่อนจะชี้นิ้วไปทางมือเรียวเล็กที่เกาะแขนล่ำเอาไว้แน่น “แล้วนั้นเรียกว่ามียางอายแล้วเหรอคะ ไม่บอกไม่รู้นะเนี๊ยะ!”
เพิ่มเลเวลการยั่วโทสะด้วยการตวัดหางเสียงท้ายประโยคสูงราวกับเหลือเชื่อซะเต็มประดา แต่เพียงเท่านั้นก็ทำเอาสาวเจ้าดิ้นพล่านอย่างขัดใจตามประสาลูกคุณหนู และทำให้คิรัณแอบกุมขมับอย่างปวดหัวหนักอีกด้วย
ข้อหลังทำให้พราวมุกกระหยิ่มยิ้ม!
แต่นั่นยังไม่พอ..เธอมีแผนเด็ดกว่านี้!!!
พราวมุกก้าวเร็วตรงเข้าไปสะบัดแขนของฟากฟ้าจนพ้นตัวคิรัณ เธอทำในสิ่งที่ชายหนุ่มไม่คาดคิด..หญิงสาวโน้มลำคอหนาลงต่ำก่อนจะจรดริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกแดงสดแนบลงบนปากหยักลึกบดคลึงขยี้หนักหน่วง ปลายลิ้นน้อยปาดเลียกลีบปากหนาอย่างยั่วยวน ก่อนจะกลั้นใจผละออกมาสบกับนัยน์ตาสีเทาเข้ม
คิรัณยังคงยืนเงียบจับจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตนิ่งไร้ความรู้สึกใด พราวมุกรีบหลบสายตาคมดุจพญาเสือเสไปทางฟากฟ้าที่ยืนกำหมัดตัวเองแน่นด้วยแรงโทสะ ก่อนจะกรีดยิ้มหวานออกมาอย่างสาแก่ใจไม่น้อย “อย่างนี้สิถึงจะเรียก ‘ไร้ยางอาย’ ของจริง!”
“ก็เห็นๆ อยู่ว่าเธอชอบฉัน” ฝ่ามือหนาดันร่างบอบบางให้พิงกับผนังห้องเย็นเฉียบ กายสูงใหญ่ทาบทับตามลงมาจนแนบชิด “ชอบมานานแล้วไม่ใช่เหรอ? ”
“ดะ เดี๋ยวก่อนวา” ฝ่ามือบางดันอกแกร่งเมื่อมือหนาลูบไล้ไปตามเอวเล็กคอดกิ่วเน้นหนัก
“มาถึงขนาดนี้...” เสียงทุ้มแหบพร่า ริมฝีปากหนาโน้มลงพรมจูบลำคอระหงแผ่วเบาอย่างรักใคร่ “ห้ามกันตอนนี้ก็จะใจร้ายเกินไป”
“ตะ แต่ว่าเรายังไม่ได้คบกันเป็นแฟนเลยนะ” พราวมุกปฏิเสธอย่างลังเลใจ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน..เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เธอมั่นใจและกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่ารักทิวาเพียงคนเดียว แต่มาตอนนี้...วาบ!
จู่ๆ ภาพของคิรัณก็ซ้อนทับชายหนุ่มตรงหน้าจนเธอตะลึงงัน เสียงแหบห้าวที่แสนจะดุดันยังตามมาหลอกหลอนอีกด้วย!
‘คิดจะตีตัวห่างจากฉัน..คิดดีแล้วเหรอ! ’
“ไม่! ” เสียงหวานตะโกนออกมาดังลั่นจนทิวาขยับท่อนแขนโอบรัดเอวบางแนบแน่น
“เกิดอะไรขึ้น? ”
“ไม่นะ วา” หญิงสาวผลักดันท่อนแขนแกร่งให้ออกห่าง แต่ทว่าคนตรงหน้ากลับนิ่งราวกับโดนปักมุดไว้ “ฉันอยากกลับแล้ว”
“วันนี้วันเกิดฉัน” ริมฝีปากร้อนลากไปตามพวงแก้มเนียนใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..เขาจะไม่ยอมปล่อยพราวมุกออกจากอกอีกครั้งเด็ดขาด!“ช่วยมอบของขวัญที่แสนมีค่าให้ฉันทีนะ พราวมุก”
ความแสบสันเกินเบอร์ของนางเอกที่เห็นคือระดับเรียกน้ำย่อยเท่านั้นนน
สำหรับพราวมุก แรงมาแรงกลับ ร้ายมาร้ายกลับ จูบมาจูบกลับ! นะเออ!!!! #ไม่โกง
เรื่องนี้รับประกันความแซ่บ! ความเถื่อน!
ใครมาในสาย #ตบจูบ จัดหนักจัดเต็มกันที่นี่เลยจ้าาาา
ถ้าอยากอ่านไวๆ เม้นให้กานเยอะๆ นะคะ..กานจะได้มีกำลังใจแต่งและอัพบ่อยๆ เน้อออ
จุฟๆๆๆ
กานตั้งเพจเฟซบุ๊คแล้วนะคะ
ไปเม้น ไปจอยด้วยกันน้าาา เนื่องจากบ้างครั้งอัพนิยายไปเหมือนไม่แจ้งเตือนกันเลยอ่าา
กดไลค์ + กดติดตาม มาเม้าท์ด้วยกันนะค่าา