บทที่ 1 

คุณจะไม่ทิ้งลดาไปใช่ไหมคะ

ผมรักคุณมากนะลดา ผมไม่มีวันที่จะทิ้งคุณอย่างแน่นอน ที่ผมไปดูงานที่อังกฤษครั้งนี้ก็เพราะผมต้องการที่จะขอย้ายตัวเองมาประจำอยู่ที่ประเทศไทย และเมื่อผมกลับมาเราจะแต่งงานกัน

ร่างกายกำยำของหนุ่มผู้ดีอังกฤษตรงเข้าสวมกอดร่างงามระหงที่ยืนนิ่งมองออกไปยังนอกหน้าต่าง คำพูดของชายหนุ่มคนรักสร้างความมั่นใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก มือเรียวใหญ่โอบกอดรัดร่างงามเอาไว้แน่น ก่อนจะจับให้ร่างงามนั้นหันกลับมาเผชิญหน้าเขา ดวงตา

สีดำสนิทของเพชรลดาจ้องมองสบดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่มนิ่ง ความเศร้าในดวงตาเหมือนจะค่อยๆ คลายลงไป

มาคัสอยากจะปลอบประโลมหญิงคนรักให้หายกังวลยิ่งนัก ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูของอีกฝ่าย บรรจงจูบอย่างแผ่วเบา ร่างงามระหงที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มถูกริมฝีปากร้ายจูบซุกไซ้ไปทั่วอย่างเอาแต่ใจ ร่างกำยำจุดไฟรักให้หญิงสาวไปอย่างช้าๆ จนตอนนี้ร่างงามระหงของเพชรลดาล้มลงไปนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มขนาดใหญ่ในเวลาต่อมา

ชุดชั้นในสีหวานถูกมือเรียวใหญ่บรรจงถอดมันออกมาอย่างง่ายดาย เต้าทรวงของหญิงสาวทั้งสองข้างเผยออกให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้ดูดดึงมันอย่างหิวกระหาย ริมฝีปากร้ายของมาคัสหยอกเย้าปลายยอดถันสีชมพูของอีกฝ่าย ส่วนมือเรียวใหญ่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน ยังคงบีบเคล้นคลึงหยอกเย้าไม่ยอมหยุด

โอว...ฉันรักเธอ...เพชรลดา...เป็นของฉันเถอะนะ

มาคัสตอกย้ำคำพูดของตนเองอีกครั้งเพื่อให้หญิงสาวมั่นใจ เพราะเขาเองก็มั่นใจเช่นกันว่าตนเองนั้นรักหญิงสาวตรงหน้ามากไม่น้อยไปกว่าเธอ ไม่มีเสียงตอบใดๆ ลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มนอกจากการพยักหน้าให้เป็นการตอบรับในสิ่งที่เขาขอ

เรือนร่างกำยำขยับตัวเข้าหาร่างงามระหงอีกครั้ง ก่อนที่ริมฝีปากร้ายบรรจงมอบจูบให้กับหญิงสาวไล้เล็มชิมรสผิวขาวเนียนละเอียดเรื่อยลงมาตั้งแต่พวงแก้มเนียน ไล้ไปจนถึงลำคองามระหง ในขณะที่มือเรียวใหญ่ข้างหนึ่งบีบเคล้นปลายยอดถันสีชมพู ส่วนอีกข้างกำลังหยอกเย้าอยู่กับกลีบกุหลาบงาม และมันก็กำลังสร้างความเสียวซ่านให้กับเพชรลดายิ่งนัก

ร่างงามระหงของเพชรลดาบิดส่ายไปมาด้วยความเสียวซ่านในสิ่งที่ชายหนุ่มมอบให้ นิ้วเรียวใหญ่ของเขาเกลี่ยคลึงที่กลีบกุหลาบงามทั้งสองข้าง ในขณะที่ปลายลิ้นร้ายก็เฝ้าเย้าแหย่เม็ดทับทิมสีสวยที่ซุกซ่อนอยู่ท่ามกลางกลีบกุหลาบ เอวบางส่ายวนหนีลิ้นร้ายด้วยความเสียวซ่านยิ่งนัก ก่อนจะกระดกขึ้นลงเป็นจังหวะ พร้อมกับขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นหมายจะยึดเป็นหลักเพื่อช่วยลดความเสียวกระสันลงได้บ้าง

ลดา เธอชอบแบบนี้มั้ย

?”

มาคัสร้องถามพร้อมกับใช้นิ้วเรียวใหญ่สอดใส่เข้าไปในช่อกุหลาบที่ตอนนี้ภายในเกสรมีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มอยู่เต็มที่แล้ว ก่อนจะขยับเข้าออกภายในช่อกุหลาบของเธออย่างเร่าร้อนช่ำชอง ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นจนทำให้สะโพกสวยนั้นส่ายไหวเร่งรับจังหวะเข้าออกอย่างไม่ยอมน้อยหน้ากัน ก่อนที่เพชรลดาจะกรีดร้องออกมาเสียงดังก้องเมื่อชายหนุ่มพาเธอเดินทางมาส่งถึงปลายทางแล้วอีกครั้งหนึ่ง

ดวงตาสีดำสนิทของเพชรลดามองสบตาสีฟ้าของมาคัสนิ่งแล้วพูดออกไปว่า

ลดารักคุณ รักคุณคนเดียวนะคะ มาคัส

ฉันก็รักเธอคนเดียวเหมือนกัน

มาคัสตอบรักน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง เพชรลดามองร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายอย่างเต็มตา ใบหน้านวลเนียนแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ดวงตาคู่สวยมองจ้องไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ที่แก่นกายของชายหนุ่มที่ตอนนี้มันได้ผงาดออกมาอย่างเต็มที่ เพชรลดาถึงกับตาค้างรีบกระถดร่างถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก

ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่เจ็บ

มือเรียวใหญ่ลูบไล้ไปที่เรียวขานวลเนียนก่อนจะจับมันไว้มั่น เขาค่อยๆ แยกขาทั้งสองข้างออกกว้าง เพชรลดาโอนอ่อนอย่างว่าง่ายด้วยความรักที่หญิงสาวมีต่อชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เธอยอมเขาทุกอย่าง มาคัสค่อยๆ สอดแทรกแก่นกายอันใหญ่โตเข้าหาช่อกุหลาบงามของหญิงสาวอย่างช้าๆ

โอย...เจ็บ...เจ็บ

เพชรลดาถึงกับน้ำตาไหลริน หญิงสาวบอกชายหนุ่มเสียงเครือ นั้นยิ่งทำให้มาคัสต้องใจเย็นให้มากขึ้นเป็นเท่าตัว เขาได้แต่ค่อยๆ เคลื่อนกายเข้าไปอย่างช้าๆ เพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวต้องเจ็บมากไปเพราะเขาเป็นต้นเหตุ

เจ็บมากมั้ยลดา

มาคัสถามพร้อมกับจูบไปที่หน้าผากโหนกนูนเบาๆ

ทนเจ็บอีกนิดนะ

เขาจูบย้ำไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วมือเรียวใหญ่ก็จับเรียวขางามให้แยกออกมากกว่าเดิม ก่อนจะดันสะโพกสอบเข้าหาช่อกุหลาบงามอีกครั้งหนึ่ง เสียงกรีดร้องของเพชรลดาตามมาในทันทีที่แก่นกายของชายหนุ่มได้เข้าไปฝั่งร่างอยู่ภายในช่อกุหลาบงามของหญิงสาวได้เป็นผลสำเร็จ

มาคัสหยุดนิ่งเพียงครู่ เพื่อที่จะให้หญิงสาวได้ปรับสภาพรับกับสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายในกายเธอให้ได้ ก่อนจะเริ่มขยับร่างกำยำอย่างช้าๆ และเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มตอบสนองเพิ่มมากขึ้น เขาก็เริ่มควบกระหน่ำเข้าใส่ร่างงามระหงอย่างฮึกเหิมในทันที

อา...มาคัส...

เพชรลดาครางเรียกชื่อของชายคนรักออกมาด้วยความเสียวซ่านยามเมื่อถูกลิ้นร้ายของเขารุกเร้าไม่ยอมหยุดจนเธอแทบจะตั้งรับไม่ไหว ด้านบนริมฝีปากร้ายของมาคัสนั้นทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม และมีหรือที่ด้านล่างจะยอมน้อยหน้ากัน เขาละจากริมฝีปากอวบอิ่มแล้วหันมาจับที่สะโพกสวยของหญิงสาวเอาไว้มั่น ก่อนจะขยับกายกำยำให้แรงและเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ร่างงามระหงของเพชรลดาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนจะกรีดร้องออกมาเมื่อไม่สามารถอดกลั้นกับความเสียวกระสันที่ชายหนุ่มมอบให้เอาไว้ได้

กรี๊ดดดดดด

สิ้นเสียงร้องของเพชรลดา มือเรียวบางก็ปาดป่ายไปทั่วร่างกายกำยำของมาคัสที่เพิ่งมอบความเสียวซ่านให้เธอ มือเรียวสวยขยำเข้ากับผ้าปูที่นอนแน่นในขณะที่เอวบางบิดส่ายไปมาด้วยความทรมาน

ทนอีกนิดนะ...โอว

เสียงมาคัสพูดออกมาพร้อมกับครางในลำคอ ร่างงามระหงของเพชรลดาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ก่อนที่มาคัสจะจับร่างของหญิงสาวให้พลิกหันหลังและให้คุกเข่า ทั้งๆ ที่ร่างกายของคนทั้งคู่ยังเชื่อมติดกัน แล้วคว้าจับแขนทั้งสองข้างของเพชรลดาเอาไว้ให้มั่นเหมือนอย่างกับจับบังเหียนขี่ม้า ก่อนจะโจนจ้วงส่งแรงอัดเข้าโหมใส่ร่างงามระหงอย่างไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบกันดังเร่งเร้าให้ชายหนุ่มออกแรงซอยถี่ยิ่งขึ้น จนร่างของหญิงสาวเกร็งกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องของเพชรลดาและเสียงครางกระหึ่มของมาคัสก็ดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน

มาคัสทิ้งกายกำยำลงบนเตียงข้างๆ กายของหญิงสาว อ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดร่างงามระหงของเพชรลดาเอาไว้แน่น ก่อนจะเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบขึ้นมา

ฉันจะแต่งงานกับเธอ...ลดา”

“โอ้...มาคัส คุณจะแต่งงานกับลดาจริงๆ เหรอคะ

เราจะแต่งงานกันทันทีที่ฉันกลับมา

ริมฝีปากของมาคัสจูบลงบนหน้าผากโหนกนูนของหญิงสาวดั่งเป็นการให้สัญญา

น้ำตาเม็ดใสไหลรินรดแก้มเนียนของหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่า และมันคือเหตุการณ์ที่ทำให้เพชรลดาไม่อาจที่จะลืมหรือแม้แต่จะลบมันออกไปจากความทรงจำได้เลยแม้แต่น้อย มาคัสบอกกับเธอว่าจะไปดูงานเพียงแค่หนึ่งเดือน และเมื่อกลับมาเธอกับเขาจะแต่งงานกัน

เหตุการณ์ในวันนั้นที่เพชรลดายอมทอดกายให้เขาเชยชมตามคำขอของชายคนรัก เพราะหลงเชื่อคำสัญญาว่าเขาจะกลับมาขอเธอแต่งงาน และมันก็เพียงแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นที่มีอะไรกับมาคัส แต่มันก็ส่งผลให้เธอต้องตั้งท้องชีวิตน้อยๆ ก่อเกิดขึ้นมาในท้องของเธอได้ ชีวิตน้อยๆ ที่เกิดจากความรักของเธอที่มีต่อเขา หนำซ้ำสิ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องตัดสินใจออกจากงานในที่สุดนั่นก็คือ มารดาของมาคัส มาดามแคทเธอลีนนั่นเอง นางบินตรงมาประเทศไทยทันทีที่รู้ว่ามาคัสขอย้ายมาประจำที่ประเทศไทย และต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ

เพชรลดาถูกตามตัวให้เข้าไปพบกับท่านประธานในทันที หญิงสาวถูกต่อว่าด้วยคำพูดดูถูกดูแคลนจากมาดามแคทเธอลีนเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะได้วางตัวคู่หมั้นคู่หมายให้กับลูกชายเอาไว้แล้ว และนางไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการลูกสะใภ้ที่เป็นพนักงานภายในบริษัทฯ ของตน หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเพชรลดาก็ลาออกจากงานที่ทำ ด้วยข่าวที่หญิงสาวเข้าไปพบกับท่านประธานได้หลุดออกมา ซึ่งเป็นฝีมือการปล่อยข่าวของมาดามแคทเธอลีน ทำให้เธอไม่อาจทนแรงกดดันจากสายตารอบข้างของเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานได้ ที่กล่าวหาว่าเธอเอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะจับผู้บริหารระดับสูง นั่นก็คือ มาคัส

และก่อนที่หญิงสาวจะดำดิ่งจมลงไปกับเหตุการณ์ที่ผ่านมามากไปกว่านี้ เสียงร้องไห้จ้าของหนูน้อยวัยขวบเศษก็เรียกสติของคนเป็นแม่กลับมาได้อีกครั้ง

ร่างงามระหงของหญิงสาวคนหนึ่งที่วิ่งออกมาจากห้องครัวของบ้านหลังเล็กชั้นเดียวด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ด้วยเพราะเสียงแผดร้องของหนูน้อยวัยขวบเศษที่เปล่งเสียงร้องออกมาไม่ยอมหยุด จนทำให้เธอต้องรีบวิ่งออกมาดูอาการของผู้เป็นลูกชาย

“น้องเพชร เป็นอะไรลูก?”

เพชรลดาร้องถามลูกชาย ก่อนจะยกหนูน้อยขึ้นอุ้มเอาไว้ในวงแขน แล้วพาเดินไปรอบๆ บ้านเพื่อปลอบโยนให้หนูน้อยได้หยุดร้อง

“หนูลดา พาน้องเพชรไปหาหมอหรือยังล่ะ ป้าเห็นน้องเพชรไม่สบายมาหลายวันแล้วนะ”

ป้าแมวพูดถามเพชรลดาขึ้นด้วยความเป็นห่วงหนูน้อย

หญิงสาวหันกลับมามองหญิงสูงวัยที่พักอาศัยอยู่บ้านเช่าหลังติดกัน และยังเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกของตนในยามที่เธอต้องออกไปทำงาน

“ลดาพาไปมาแล้วป้าแมว หมอบอกว่าน้องเพชรเป็นไข้หวัดแล้วก็มีน้ำมูกน่ะจ้ะ เขาให้ยากลับมากินที่บ้านไม่กี่วันก็หาย น้องเพชรคงจะหายใจไม่ออกน่ะจ้ะป้าก็เลยงอแง โอ๋ๆ อย่าร้องลูก”

“ถ้าพาไปหาหมอแล้วป้าก็ค่อยหายห่วงหน่อย หมู่นี้ฝนฟ้ามันเอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้ นึกอยากจะตกก็ตก บางทีก็ตกเอาแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยนะแต่ก็เป็นบางวันน่ะ แล้วนี่จะออกไปทำงานไม่ใช่เหรอ รีบไปสิ เดี๋ยวป้าดูน้องเพชรให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

พูดจบป้าแมวก็เดินเข้ามาอุ้มน้องเพชรออกไปจากอ้อมกอดของคนเป็นแม่อย่างเบามือ ก่อนพูดต่ออีกว่า

“เดี๋ยวยังไงลดาก็อย่าลืมเอายาที่จะให้น้องเพชรกินน่ะมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวด้วยนะ ป้าจะได้เอายาให้น้องกินตามเวลา”

“ลดาเอามาวางไว้ที่โต๊ะแล้วจ้ะ เดี๋ยวลดาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับยาของน้องเพชรให้ป้าแมวฟังก่อนแล้วลดาค่อยไปทำงาน ลดาโทรไปบอกหัวหน้างานแล้วล่ะว่าวันนี้ลดาจะเข้างานช้าหน่อย”

พูดจบเพชรลดาก็อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับยาให้ป้าแมวฟังทันที ก่อนจะก้มลงหอมแก้มยุ้ยของลูกชายที่ตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึงสุกอย่างแสนรัก แล้วเดินออกไปจากบ้านเพื่อไปทำงานเหมือนอย่างเช่นทุกวัน

เพชรลดาเดินออกมาจากซอยแคบๆ เลาะเลียบมาตามถนนเรื่อยๆ ถนนหนทางในซอยนี้คับแคบนัก แต่มันก็เป็นสถานที่ที่มีบ้านเช่าราคาถูกที่หญิงสาวพอมีกำลังสามารถหาอยู่ได้กันสองคนแม่ลูก ด้วยเพราะเพชรลดาจะต้องประหยัดและเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่น้องเพชรจะเข้าเรียนอนุบาลได้ และที่สำคัญเพื่อไม่ให้มาคัสตามหาตัวเธอเจอ ซึ่งข้อนี้หญิงสาวก็ไม่อาจรู้ได้ว่าหากเมื่อวันใดวันหนึ่งเธอและเขาได้มาพบกันอีกอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ เพชรลดาเดินไปก็คิดเรื่องลูกและตัวเองไปและมันก็ทำให้หญิงสาวหวนคิดถึงวันที่มาดามแคทเธอลีนเรียกให้เธอเข้าไปพบเมื่อครั้งนั้น

ก๊อก

!

ก๊อก! ก๊อก!

เพชรลดาเคาะประตูห้องท่านประธานก่อนเพื่อเป็นการขออนุญาต ก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปภายในห้อง เธอพบกับร่างของสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ตอนนี้ยืนหลังตรงตั้งอย่างสง่าหันหลังให้กับเธอเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปใกล้

มาดามแคทเธอลีนหันกลับมามองสบตากับเพชรลดานิ่ง ก่อนจะนั่งลงยังเก้าอี้ประจำตำแหน่ง หญิงสาวมองสบตากับมารดาของชายคนรัก มาคัสช่างมีใบหน้าเหมือนกับมาดามแคทเธอลีนยิ่งนัก

สวัสดีค่ะ ท่านประธานเรียกให้ดิฉันมาพบต้องการให้ดิฉันรับใช้เรื่องอะไรคะ

เพชรลดาเปิดฉากสนทนาทันที ภาษาของหญิงสาวอยู่ในขั้นดีเยี่ยมไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาของรองประธานบริษัทอย่างมาคัสได้ และเพราะความใกล้ชิดจึงทำให้ทั้งคู่รักกัน และมันก็นำพาความยุ่งยากมาถึงเธอในวันนี้ได้ หญิงสาวไม่ชอบสายตาดูหมิ่นดูแคลนของมารดาคนรักเอาเสียเลย

มาดามแคทเธอลีนเหยียดยิ้มที่มุมปากออกมาพลางนึกในใจว่า

สำเนียงดีไม่แพ้เจ้าของภาษาเลย ดี

!

จะได้พูดอะไรแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ หน่อย

แล้วพูดขึ้นว่า

ดี ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมล่ะนะ ฉันต้องการให้เธอเลิกยุ่ง เลิกติดต่อกับลูกชายของฉัน

คำพูดของมาดามแคทเธอลีนทำให้ใบหน้าสวยซึ้งของเพชรลดาจ้องมองหน้าคนพูดตาค้าง ดวงตาของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่อยู่ๆ ถูกเรียกมาเพื่อที่จะให้เธอเลิกกับมาคัส ริมฝีปากอวบอิ่มเอ่ยถามหาเหตุผลออกไปทันที

ดิฉันขอเหตุผลที่ท่านประธานจะให้ดิฉันเลิกยุ่งเลิกติดต่อกับคุณมาคัสด้วยได้หรือเปล่าคะ”

“เหตุผลน่ะเหรอ ได้สิ ข้อแรกก็คือ มาคัสเขาเป็นนายจ้าง ส่วนเธอเป็นแค่ลูกจ้างไม่มีอะไรที่เหมาะสมหรือว่าคู่ควรกับลูกชายของฉันได้เลย ข้อสอง ภรรยาของมาคัสจะต้องเป็นผู้หญิงที่ฉันเลือกให้เท่านั้น และคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉันก็จะต้องประกอบไปด้วย ชาติตระกูล การศึกษา และเงินทอง ที่มันเทียมหน้าเทียมตากัน ไม่ได้ยากจนทำงานเป็นลูกจ้างเขาเหมือนอย่างเธอ และข้อสามซึ่งข้อนี้สำคัญที่สุดคือฉันไม่ต้องการได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ของฉันเข้าใจหรือยังล่ะ

!

คิดอยากจะรวยทางลัดล่ะสิถึงได้เอาตัวเข้าแลก ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้อย่านึกว่าฉันจะไม่รู้ทันเธอนะเพชรลดา เธอเองก็ทำงานดีมาโดยตลอดจากแฟ้มประวัติการทำงานที่ระบุไว้ รูปร่างหน้าตาก็สะสวยไม่น่าคิดสั้นแบบนี้เลยนะ”

มาดามแคทเธอลีนมองหน้าเพชรลดาตลอดเวลาที่พูด นางนึกเสียดายหญิงสาวคนนี้ยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นความสวยหรือว่าความฉลาด ยิ่งได้มาเห็นหน้าตาชัดๆ ใกล้ๆ แบบนี้แล้วต้องยอมรับว่าเพชรลดาเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยซึ้งคนหนึ่งเลยทีเดียว มิน่าล่ะ มาคัสถึงร่ำร้องขอย้ายตัวเองมาประจำที่ประเทศไทย และที่หนักไปกว่านั้นก็คือบอกว่ากลับมาเมืองไทยเที่ยวนี้จะมาแต่งงานกับคนรักที่เป็นสาวไทยอีกด้วย นั่นถึงกับทำให้มาดามแคทเธอลีนนั่งเก้าอี้ไม่ติด ต้องอ้างกับคารอสผู้เป็นสามีและมาคัสลูกชายสุดรักสุดหวงว่าจะมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ฮ่องกง แล้วโฉบมาที่ประเทศไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

เพชรลดาเบิกตากว้างขึ้นทันทีที่ได้ยินเหตุผลทั้งสามข้อของมาดามแคทเธอลีน หญิงสาวนึกถึงเหตุผลข้อที่สามของหญิงสูงวัยตรงหน้าแล้วอยากจะพูดออกไปดังๆ เหลือเกินว่าไม่จำเป็นจะต้องยกเหตุผลข้อที่หนึ่งและสองมากล่าวอ้างให้เสียเวลาไปทำไม สู้บอกออกมาตรงๆ เลยก็ได้ว่าไม่ต้องการได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ พูดง่ายๆ แค่นี้เธอก็รับรู้แล้ว ใบหน้าสวยซึ้งเริ่มซีดลงแถมดวงตากลมโตยังเริ่มคลอขังไปด้วยน้ำตา

ดวงตาของมาดามแคทเธอลีนจิกมองใบหน้าสวยซึ้งที่เริ่มซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มแห่งชัยชนะผุดขึ้นมาบนใบหน้าของหญิงสูงวัยในทันที แล้วรีบพูดต่ออีกว่า

เหตุผลที่ฉันบอกเธอทั้งสามข้อมันคือความจริงที่เธอจะต้องรับรู้ ชีวิตคู่ไม่ได้มีเพียงแค่เธอกับมาคัสเท่านั้น แต่มันยังมีครอบครัวของมาคัส และครอบครัวของเธอด้วย แล้วฉันก็จ้างนักสืบให้สืบประวัติของเธอและครอบครัวแล้ว พ่อแม่ของเธอตายหมดแล้ว เธออยู่กับพี่ชายที่เปิดร้านอาหารเล็กๆ เท่านั้น แต่ว่าครอบครัวของเธอฉันไม่สนใจหรอก ฉันสนใจแต่ครอบครัวของฉันเท่านั้น”

เสียงของมาดามแคทเธอลีนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพชรลดาเอาแต่นิ่งเงียบ ก่อนจะพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว

ถึงดิฉันจะเป็นลูกจ้าง ไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ดูแล้วก็ไม่มีอะไรเทียบกับท่านได้ แต่ดิฉันก็รักลูกชายของท่านด้วยหัวใจที่แท้จริง ดิฉันรักมาคัสไม่ได้คิดที่จะมาหลอกลวงหรือว่าต้องการยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นเลยแม้แต่น้อย

คุณมาคัส

!

เธอจะต้องเรียกลูกชายของฉันว่าคุณมาคัส

!

เพราะว่าเขาเป็นนายจ้างของเธอ ไม่ใช่คนที่เธอจะมาเอ่ยเรียกชื่อเฉยๆ แบบนี้ได้ ตราบใดที่เธอยังทำงานกินเงินเดือนของฉันอยู่ และถ้าหากเธอยังดื้อดึงที่จะคบกับลูกชายของฉันอยู่ละก็ไม่เพียงแต่เธอจะเดือดร้อน พี่ชายของเธอก็จะเดือดร้อนด้วย ฉันจะไม่ยอมทนนั่งนิ่งมองดูผู้หญิงที่ไม่มีอะไรคู่ควรเลยแม้แต่นิดเดียวมาเป็นภรรยาของลูกชายฉันได้หรอก หรือเธอจะลองต่อกรดูกับฉันก็ได้นะฉันไม่ว่า แต่เธอจะได้ไม่คุ้มเสียซะละมากกว่า”

มาดามแคทเธอลีนพูดน้ำเสียงเกรี้ยวกราดใส่อารมณ์เต็มที่ ความรักความหวงในตัวลูกชายคนเดียวนั้นมีมากมายนัก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมาดามแคทเธอลีนเป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่เคยคิดร้ายหรือว่าดูถูกเหยียดหยามคนที่มีฐานะด้อยกว่าตนเลย แต่ที่เป็นไปได้ถึงเพียงนี้คงเป็นเพราะว่าความรักและหวงลูกชายคนเดียวมากเกินไปนั่นเอง ที่สำคัญ

!

มาคัสไปพูดอะไรกับคนเป็นแม่ถึงการขอย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองไทยและการแต่งงานกับหญิงสาวคนรักกันแน่ ถึงได้กำลังตกเป็นคู่กรณีอยู่กับมาดามแคทเธอลีนอยู่ในขณะนี้

เพชรลดาพูดไม่ออก หญิงสาวเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่ง ลำคอตีบตันไปหมด นี่คือความจริงที่หญิงสาวกำลังเผชิญกับมันอยู่ ความไม่เหมาะสม ไม่คู่ควร นายจ้าง ลูกจ้าง สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ หรือนี่ เพชรลดาเฝ้าถามกับตัวเอง

มาดามแคทเธอลีนเห็นอาการของหญิงสาวที่แสดงออกมานั้นก็รีบพูดตอกย้ำเข้าไปอีก

เห็นมั้ยล่ะว่าสิ่งที่ฉันพูดน่ะมันเป็นความจริง เธอกับลูกชายฉันไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลยแม้แต่นิดเดียว แถมเธอยังจะนำความเดือดร้อนมาสู่พี่ชายของเธอที่เป็นคนค้าขายอีกด้วย แต่เพื่อไม่ให้เธอหาว่าฉันใจไม้ไส้ระกำ และถือซะว่าฉันให้เธอไปตั้งต้นชีวิตใหม่ เอ้า เอาเงินก้อนนี้ไปซะ”

มาดามแคทเธอลีนเปิดลิ้นชักหยิบเช็คเงินสดที่กรอกตัวเลขเอาไว้แล้วยื่นส่งให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้านาง

เพชรลดาหลุบตามองเช็คเงินสดที่กรอกจำนวนตัวเลขสูงถึงเจ็ดหลักที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับเจ้าของเช็ค มาดามแคทเธอลีนต้องการให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายของนางมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงขนาดยอมสั่งจ่ายเช็คเงินสดเป็นตัวเลขถึงเจ็ดหลักให้กับเธอ เพชรลดาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลรินออกมา หญิงสาวหันหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะหันกลับมามองหน้ามาดามแคทเธอลีนอีกครั้งแล้วพูดขึ้น

“ดิฉันรักคุณมาคัสด้วยหัวใจที่แท้จริง ไม่ว่าท่านจะให้ดิฉันมากกว่านี้อีกกี่เท่าดิฉันก็ไม่ขาย เก็บเงินของท่านกลับไปเถอะค่ะ ดิฉันรับปากท่านว่าจะเลิกยุ่งเลิกติดต่อกับคุณมาคัส แค่นี้ใช่มั้ยคะที่ท่านต้องการจะพูดกับดิฉัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อน”

ร่างงามระหงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปที่ประตู ทว่าเสียงของมาดามแคทเธอลีนก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

“จองหอง

!

อย่าลืมคำพูดของเธอก็แล้วกันเพชรลดา แต่ถ้าเธอยังอยู่ที่เดิมลูกชายของฉันก็คงจะตามเธอเจอแน่นอน จะไปก็ช่วยไปอยู่ที่ที่มาคัสเขาจะตามหาเธอไม่เจอด้วยก็แล้วกัน ที่ฉันให้เงินเธอก็เพราะฉันรู้ว่ามาคัสเขาต้องตามหาตัวเธออย่างแน่นอน ฉันก็แค่อยากจะช่วยให้เธอไม่ต้องลำบากมากนักก็เท่านั้น แต่ในเมื่อเธอไม่รับเงินจากฉันก็ตามใจเธอ”

ขอบคุณค่ะที่ท่านคิดจะช่วย

พูดจบเพชรลดาก็เปิดประตูก้าวออกมาจากห้องท่านประธานในทันที และนั่นก็เป็นที่มาว่าเพราะเหตุใดหญิงสาวถึงต้องมาพักอยู่ในที่ชุมชนแออัดเช่นนี้

ลอนดอน ประเทศอังกฤษ 

โครม!...โธ่โว้ย!!

มาคัสผลักโต๊ะทำงานจนล้มโครม ตามมาด้วยเสียงสบถที่เปล่งออกมาอย่างดัง เพื่อเป็นการระบายอารมณ์โกรธเกรี้ยวของตัวเองออกมา เมื่อการเดินทางมาประชุมที่บริษัทแม่เสร็จสิ้นลง และเขาก็บอกกับมาดามแคทเธอลีนผู้เป็นแม่และคารอสผู้เป็นพ่อของเขาตั้งแต่วันที่มาถึงอังกฤษแล้วว่าจะขอย้ายไปประจำที่ประเทศไทยอย่างถาวรทันทีที่การประชุมครั้งนี้เสร็จสิ้น และก็จะแต่งงานกับหญิงสาวชาวไทยคนรักของเขา ซึ่งคารอสผู้เป็นพ่อนั้นไม่มีปัญหา แต่แม่ของเขานั้นหาเห็นด้วยไม่ เพียงแต่ไม่พูดอะไรกับเขาในเรื่องนี้อีกเลย

และหลังจากนั้นอีกสองอาทิตย์มาดามแคทเธอลีนก็เข้ามาเอาพาสปอร์ตของเขาไปเก็บไว้เอง โดยที่ไม่ยอมให้เหตุผลใดๆ กับคนเป็นลูกเลยแม้แต่นิดเดียว และเขาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรเช่นกัน นั่นเพราะชายหนุ่มเองก็กำลังยุ่งอยู่กับการประชุมใหญ่ที่บริษัทฯ จึงไม่คิดสนใจในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่

!

เขาต้องการพาสปอร์ต

!

เขาต้องการกลับประเทศไทย

!

และต้องเร็วที่สุดด้วย

!

เหตุเพราะว่าตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มก็ไม่สามารถติดต่อกับหญิงคนรักได้ ยิ่งร้ายไปกว่านั้นเมื่อเขาโทรฯ เข้าบริษัทฯ และให้ต่อสายไปยังเพชรลดากลับได้รับคำตอบว่าหญิงสาวได้ขอลาออกไปแล้ว ทำให้มาคัสเหมือนโดนค้อนปอนด์ทุบเข้าที่หัวอย่างจัง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเพชรลดาในระหว่างที่เขาไม่อยู่กันเนี่ย ทางเดียวที่จะทำให้เขารู้ถึงสาเหตุทั้งหมดได้นั่นก็คือ เขาต้องรีบบินกลับประเทศไทย แต่เขาก็ต้องมาเจออุปสรรค และมันก็เป็นอุปสรรคที่หนักหนาสาหัสสำหรับเขามากมายนัก เพราะมันเกี่ยวข้องกับมาดามแคทเธอลีนโดยตรงเสียด้วย

“นี่มันอะไรกันเนี่ยมาคัส

!

เสียงคารอสผู้เป็นบิดาเอ่ยถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนน้ำเสียงเชิงตำหนิที่ชายหนุ่มทำลายข้าวของจนพังเสียหาย

ผมโกรธมัม ทำไมมัมต้องทำแบบนี้ เพชรลดาเป็นผู้หญิงที่ผมรัก เธอเป็นคนดี

มาคัสพูดเสียงดังค่อนข้างห้วนบ่งบอกความไม่พอใจอย่างชัดเจน

“มัมเขาก็บอกแล้วยังไงล่ะ ว่าขอดูคนรักของแกหน่อยว่าจะมีความอดทนมากแค่ไหน ถ้าหากแกจากเธอมานานๆ แล้วเธอจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า”

คารอสเดินเข้ามาเอามือตบลงที่บ่ากว้างของลูกชายเบาๆ อย่างเตือนสติและให้กำลังใจ

แต่ผมเป็นห่วงเธอครับแด๊ด ตอนนี้เพชรลดาลาออกจากบริษัทฯ ไปแล้ว ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ อยู่ๆ ก็ติดต่อไม่ได้ขึ้นมาเป็นเดือนๆ ผมร้อนใจอยากจะกลับเมืองไทย แด๊ดช่วยพูดให้กับมัมให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ”

มาคัสพูดขอร้องต่อคนเป็นพ่อให้ช่วยตนอีกแรงหนึ่ง แววตาทอประกายด้วยความหวัง

คารอสเองเมื่อเห็นลูกชายเป็นทุกข์ก็ให้รู้สึกแย่ไปด้วยเช่นกัน เรื่องของความรักนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ แต่จะให้เขาไปช่วยพูดกับแคทเธอลีนให้ตัวเขาเองก็หนักใจ ด้วยตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาคารอสเองก็ไม่เคยขัดใจเมียรักเลยแม้แต่ครั้งเดียว และก่อนที่คารอสจะได้พูดอะไรออกไป ร่างสวยสมวัยของมาดามแคทเธอลีนก็ก้าวเข้ามาภายในห้องทำงานของลูกชายพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ถ้ามาคัสรักผู้หญิงไทยคนนั้นมากถึงขนาดนี้มัมก็คงต้องยอมแพ้กับความรักของลูกใช่มั้ย” มาดามแคทเธอลีนพูดเสียงเรียบ

มาคัสถึงกับฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาจากที่เคร่งขรึมพลันสดใสขึ้นมาอย่างทันตา ร่างกำยำของมาคัสโผเข้ามากอดมารดาเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ

มัมยอมให้ผมกับลดาแต่งงานกันแล้วใช่มั้ยครับ มัมพูดจริงๆ นะครับ

ชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

จริงสิ เพราะถึงยังไงสักวันหนึ่งลูกชายของมัมก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเองอยู่แล้ว จะช้าจะเร็วยังไงวันนี้มันก็คงต้องมา เพียงแต่ว่าผู้หญิงที่ลูกรักไม่ใช่ผู้หญิงที่มัมเลือกให้ก็เท่านั้น

มาดามแคทเธอลีนไม่วายพูดเหน็บอย่างน้อยใจ และมาคัสเองก็สัมผัสได้กับคำพูดแอบน้อยใจเล็กๆ ของมารดา

“มัมอย่าน้อยใจไปเลยนะครับ ความรักของผมที่มีต่อแด๊ดและมัมมันยิ่งใหญ่ไม่มีอะไรมาเทียบได้เลยนะครับ” มาคัสไม่วายปากหวานพูดอ้อนอย่างเอาใจ

“เชอะ ไม่ต้องมาทำปากหวานกับมัมเลย จะไปเมืองไทยก็ไปเถอะ เอ้านี่พาสปอร์ตของลูกมัมคืนให้ก็ได้รับไปสิ แล้วนี่ก็ตั๋วเครื่องบินมัมเตรียมไว้ให้แล้วด้วยเหมือนกัน”

พูดพร้อมกับยื่นส่งพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินให้กับลูกชายสุดที่รัก

มาคัสรับพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินมาถือไว้ในมือ พลางฉุกคิดขึ้นมาอย่างสงสัย อยู่ๆ ทำไมมัมของเขาถึงได้ใจดีขึ้นมาซะอย่างนั้น ในเมื่อตลอดเวลาที่เขาประชุมเสร็จสิ้นและร้องขอหรืออ้อนวอนเพื่อที่จะกลับเมืองไทยอย่างไรมัมก็ไม่เคยรับฟังหรือยอมใจอ่อนให้เลยแม้แต่น้อย ก่อนจะพูดถามคนเป็นแม่ออกไปว่า

มัมทำแบบนี้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าครับ

มาคัสซักอย่างสงสัย พลางสังเกตสีหน้าของคนเป็นแม่ว่ามีอะไรผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ แต่ก็ไม่พบพิรุธอะไรแอบแฝงเลยแม้แต่นิดเดียว

ทำไม แค่มัมคืนพาสปอร์ตและซื้อตั๋วเครื่องบินให้ลูกชายตัวเองบินกลับไปหาคนรักนี่มันผิดอะไรมากนักเหรอ

น้ำเสียงของมาดามแคทเธอลีนที่เปล่งออกมาเชิงน้อยใจ ทำให้มาคัสตกใจ รีบเข้าไปโอบกอดรอบเอวของมัมเอาไว้อย่างเอาใจเป็นการด่วน เพราะกลัวว่าคนเป็นแม่จะเปลี่ยนใจไม่ยอมให้เขากลับไปหาคนรักเข้าเดี๋ยวจะเรื่องใหญ่

ผมขอโทษที่ถามมัมออกไปแบบนั้น ผมคงจะคิดมากไปเอง มัมอย่าโกรธผมเลยนะครับ

มาคัสเอ่ยเสียงอ่อย รู้สึกผิดกับคำถามของตนเองที่เอ่ยถามคนเป็นแม่ออกไปเช่นนั้น ก่อนจะหันไปหาคนเป็นพ่อที่ยืนยิ้มแป้นด้วยความดีใจแทนลูกชาย

“มัมเขารักลูกมาก อย่าระแวงกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้เลยมาคัส”

คารอสพูดย้ำอีกครั้งเพื่อให้มาคัสคลายความหวาดระแวง

ครับแด๊ด มัม ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปเก็บของก่อนนะครับ

ไม่ต้องรีบนักก็ได้นะ

มาดามแคทเธอลีนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่มันช่างต่างกับใบหน้าและดวงตาที่กำลังทอดมองตามหลังลูกชายสุดที่รักอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ รอยยิ้มร้ายที่ผุดขึ้นมาให้ได้เห็นบนใบหน้า เพราะนางแน่ใจแล้วว่าเพชรลดาจะไม่มีทางย้อนกลับมาหามาคัสลูกชายของนางอย่างแน่นอน เพราะนางได้จ้างนักสืบให้เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของหญิงสาวมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม และอยู่ๆ นักสืบก็แจ้งกลับมายังนางว่าอยู่ๆ หญิงสาวก็ย้ายออกจากที่พักใหม่ที่ย้ายออกจากที่เดิม และตอนนี้ก็ไม่สามารถตามหาตัวหญิงสาวมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เหลือแต่ต้องยอมให้ลูกชายของนางได้ไปเผชิญกับความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวดในครั้งนี้ และนางสัญญาว่านางจะไม่ทำแบบนี้กับมาคัสให้เจ็บปวดเช่นนี้อีกเลย

สายฝนที่กำลังสาดซัดกระหน่ำลงมาบนท้องถนนในเวลานี้ทำให้เกิดการจราจรที่ติดขัดยิ่งนัก รถยนต์คันงามที่กำลังแล่นทำความเร็วอยู่นั้นกำลังเร่งเครื่องยนต์ให้เร็วยิ่งขึ้นเพราะกลัวว่าจะไปขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา

ขับให้เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ นี่มันใกล้เวลาเครื่องบินจะขึ้นอยู่แล้วนะเจสัน!

มาคัสไม่วายเสียงดังใส่คนขับรถที่คนเป็นแม่ส่งมาขับรถให้กับเขา

เจสันคนขับรถประจำตัวของมาดามแคทเธอลีนถึงกับสะดุ้งกับเสียงของเจ้านายหนุ่ม จึงรีบเหยียบคันเร่งฝ่าสายฝนที่ยังคงกระหน่ำลงมาไม่ยอมหยุดเพื่อมุ่งตรงไปยังสนามบิน

“ขับเร็วๆ เจสัน ฉันจะตกเครื่องอยู่แล้ว” มาคัสร้องบอกเสียงดังอีกครั้ง

“ขับเร็วมากกว่านี้จะเกิดอุบัติเหตุได้นะครับคุณมาคัส อีกอย่างฝนก็ตกหนักด้วย” เจสันบอกอย่างใจเย็น

“แต่ฉันรีบ ได้ยินมั้ยว่าฉันรีบ เร่งเครื่องอีกเดี๋ยวฉันตกเครื่อง”

มาคัสตะคอกเสียงดังใส่ไม่ยอมหยุดและนั้นทำให้เจสันถึงกับลนลานทำตามคำสั่งเจ้านายหนุ่มในทันทีและในจังหวะที่เจสันกำลังเร่งความเร็วเพื่อที่จะแซงรถคันหน้าอยู่นั้น รถที่ขับเร่งความเร็วทางเลนขวาก็ทำความเร็วขึ้นมาเช่นกัน และเพราะสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างลืมหูลืมตามทำให้ทัศนวิสัยในการมองเกิดการคลาดเคลื่อน รถของมาคัสเกิดเฉี่ยวชนกับรถอีกคันเป็นผลให้รถของชายหนุ่มเสียหลักพลิกคว่ำในทันที

เอี๊ยดดดดดดดด!!!!

โครม!!

!!!

โรงพยาบาลเอกชน ณ กรุงลอนดอน 

มาคัสนั่งนิ่งอยู่บนเตียงนอนภายในห้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน จักษุแพทย์กำลังทำการเปิดแผลให้ชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เอาผ้าก๊อซที่พันอยู่รอบๆ ดวงตาออกหมดแล้วนั้นมาคัสก็ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ โดยมีคารอสและมาดามแคทเธอลีนมายืนรอดูผลการรักษาในครั้งนี้อยู่ไม่ห่าง

ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพูดขึ้นว่า

แด๊ด... มัม...

มาคัสเรียกพ่อกับแม่ของตนเบาๆ ทั้งคู่รีบเดินเข้ามาหาลูกชายที่เตียงทันทีพร้อมกับรอยยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนที่รอยยิ้มของคนทั้งคู่จะจางหายไปเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของลูกชายที่พูดออกมาว่า

ทำไมผมถึงมองไม่เห็นอะไรเลย

คนเป็นพ่อเป็นแม่ใจหายวาบ มาดามแคทเธอลีนถึงกับร้องไห้โฮออกมาทันทีที่ลูกรักพูดออกมาเช่นนั้น ทำให้คารอสต้องโอบกอดร่างสวยสมวัยเอาไว้เพื่อเป็นการปลอบโยน

“มัม

!

แด๊ด

!

ทำไมถึงไม่มีใครตอบผมเลย หมอ

!

หมออยู่ไหน

!

มาคัสไขว่คว้ามือสะเปะสะปะไปทั่วเตียง ก่อนที่คุณหมอในชุดกาวน์สีขาวจึงยื่นมือไปจับมือของชายหนุ่มเอาไว้

“ตรงนี้ครับ หมออยู่ตรงนี้”

นี่ผมตาบอดเหรอหมอ ทำไมผมถึงมองไม่เห็น ตอบผมสิหมอ!

ใจเย็นๆ ก่อนนะครับคุณมาคัส ดวงตาของคุณไม่ได้บอกเสียที่เดียวหรอกครับ เพียงแค่สูญเสียการมองเห็นแค่เพียงชั่วคราว ซึ่งเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุที่ค่อนข้างรุนแรง คุณมาคัสยังมีโอกาสจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้งหากว่าคุณเข้ารับการผ่าตัดรักษาดวงตา” หมอหนุ่มอธิบายให้คนไข้ฟังอย่างใจเย็น

ยังมีโอกาสถ้าหากผมผ่าตัดดวงตา หมอหมายความว่ายังไง

?

ถ้าผมไม่ผ่าตัดผมก็จะกลายเป็นคนตาบอดใช่มั้ยหมอ!

มาคัสถามย้ำด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

มาคัส

!

มาคัสลูก...

มาดามแคทเธอลีนรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดลูกชายเอาไว้แน่น นางไม่อยากให้มาคัสโวยวายใส่อารมณ์กับคุณหมอที่พยายามช่วยรักษาอาการของลูกชายของนางอย่างสุดความสามารถ

“มาคัส

!

อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก ยังไงลูกของแม่ก็ต้องหายจริงมั้ยคะคารอส ลูกต้องหายใช่มั้ยคะ หมอสมัยนี้เก่งมากเลยนะ เชื่อแม่สิว่าลูกของแม่ต้องหาย ลูกของแม่ต้องกลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง แม่มั่นใจ”

มาดามแคทเธอลีนปลอบเสียงสะอื้น มาคัสเองก็มีอาการสงบลงอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มน้ำตาคลออย่างสะเทือนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง และยิ่งได้ยินเสียงแม่ของตนนั้นร้องไห้ปิ่มจะขาดใจมาคัสก็ยิ่งใจเสีย

คารอสเองทำได้เพียงเดินเข้าไปขอโทษคุณหมอเจ้าของไข้ และบอกให้หมอช่วยออกไปก่อนแล้วเดินกลับมาหาลูกชายที่เตียงพลางตบเบาๆ ลงบนบ่ากว้างของลูกชายพร้อมกับพูดเบาๆ แต่หนักแน่นว่า

“มาคัส ลูกจะต้องเข้ารับการผ่าตัดดวงตา พ่อจะหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาลูกของพ่อ ลูกของพ่อต้องหาย อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ลูกต้องได้กลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง พ่อให้สัญญา”

มาคัสนิ่งงันไปกับคำพูดของคนเป็นพ่อ แต่ก็แสนเจ็บปวดกับคำว่า

 

สัญญา 

 

คำคำนี้เขาเองก็พูดเอาไว้กับเพชรลดาหญิงคนรักเหมือนกัน เขาสัญญาไว้ว่าจะกลับไปหาเธอ จะกลับไปแต่งงานกับเธอ แล้วเขามาเป็นซะแบบนี้เขาจะไปตามหาเธอได้อย่างไรกัน คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาของลูกผู้ชายก็ให้หลั่งรินไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ที่โชคชะตาทำให้เขาต้องมาเป็นเช่นนี้

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว