สะดุดรักคุณ CEO
“นายจะไปจริงๆ นะหรอ”
“ฉันจะไปจริงๆ”
“นายไม่ห่วงฉันสักนิดเลยหรอ”
“ยุนโฮนายอย่าพูดแบบนั้นซิฉันลำบากใจนะ”
“ฮีชอลนายอย่าไปเลยนะฉันขอร้อง”
“ยุนโฮ”
“ฮีชอล”
‘ผัวะ!!!’
“โอ๊ย!! ฮีชอลนายตบหัวฉันทำไม? เดี๋ยวความรู้ฉันก็ไหลออกจากหัวหมดหรอก”
“ออกได้จะดีมาก”
“ความรู้นะหรอ”
“ความตอแหลความหื่นของนายไงยุนโฮ”
“ตลกแหละ ตอแหลตรงไหน? หื่นยังไง? ฉันชองยุนโฮ CEO แห่งสายการบิน JUNG AIR ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเกาหลีเนี่ยนะจะมีพฤติกรรมแบบนั้น”
“ดูปากฮีชอลนะ จะตอแหลใส่ใครก็ใส่ได้แต่จะมาตอแหลใส่ฉันที่รู้จักนายมายี่สิบกว่าปีเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้!!!”
“ไม่คุยด้วยและว่าแต่นายจะไปจริงๆ นะหรอที่จีนอะไรเนี่ย”
“เปลี่ยนเรื่องกะทันหันก็เป็นงานถนัดของแกอีกอย่างหนึ่งนะยุนโฮ” ฮีชอลเบ้ปากมองไปอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพูดต่อ “ก็ผัวฉันต้องกลับไปบ้านเกิดที่จีนกลับแล้วกลับเลยเพราะแม่ผัวฉันป่วยอยู่ ผัวฉันก็ต้องกลับไปดูแลแม่ดูแลกิจการร้านซาลาเปา ฉันเป็นเมียฉันก็ต้องตามกลับไปด้วยมันก็ถูกแล้วปะ”
“แต่ฉันเป็นเพื่อนรักนายนะนายจะทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวได้ยังไง?”
“แต่นั้นก็ผัวฉันนะ”
“เห็นผัวดีกว่าเพื่อน!!!”
“อ้าว!!! แล้วใครจะเห็นเพื่อนดีกว่าผัววะเอาดีๆ เพื่อนก็แค่เพื่อนปะ แต่ผัวเนี่ยเป็นมากกว่าเพื่อนเป็นแม่งทุกอย่างเป็นแม้กระทั้งตู้ ATM เคลื่อนที่ ฮาๆๆๆๆๆๆๆ”
ยุนโฮได้แต่กรอกตาไปมาอย่างอ่อนใจสงสารก็แต่ฮันกยองที่ดันได้ฮีชอลเป็นเมีย สวย แสบ ไม่ยอมคน คือฉายาประจำตัวของฮีชอลที่ยุนโฮตั้งให้กับเพื่อนรักของตนเอง
ฮีชอลมองไปยังเพื่อนรักที่หันหลังของเก้าอี้หันหนีไปทางหน้ากระจกแทนอย่างขำๆ ทำมาเป็นงอน
“ไม่ต้องมาสร้างภาพทำตัวแสนงอนเลยนะยุนโฮ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าตอนนี้นายกำลังจีบทนายหนุ่มคนใหม่ที่มาแทนคนเก่าที่ลาออกไปอยู่นะ”
“นายรู้ได้ไงฮีชอล” ยุนโฮหมุนเก้าอี้ที่นั่งอยู่กลับมาทันทีที่ได้ยิน
“มีอะไรบ้างที่ฉันจะไม่รู้ ถึงฉันไม่อยู่นายก็ไม่เหงานี่มีคนใหม่มาให้นายเล่น”
“อย่าพูดแบบนี้นะคนนี้ฉันเอาจริงไม่ได้เล่นๆ แบบทุกที”
“คนอย่างนายเนี่ยนะจะเอาใครจริง? เห็นผู้หญิงแต่ละคนที่เข้ามานายเล่นแป๊บๆ ก็เลิก”
“ผู้หญิงพวกนั้นฉันก็แค่เล่นสนุกๆ ปะก็ Win Win ทั้งสองฝ่ายปะวะ ต่างฝ่ายก็ต่างได้ น้ำแตกแล้วแยกทางแต่แตกในถุงนะกันไว้ก่อน”
“กับผู้หญิงแค่เล่นๆ กับผู้ชายกลับจริงจังเนี่ยนะ? นึกอะไรขึ้นมาคนที่ไม่ชอบผูกมัดกับใครหรือถูกใครมัดอยู่ๆ เกิดจะอยากจะถูกมัดขึ้นมา”
“ไม่รู้ซิแค่เห็นหน้าครั้งแรกใจฉันนี้เต้นตึกๆ ขึ้นมาเลยนะโว้ยกับคนอื่นก็ไม่เคยเป็นเลยนะ ยิ่งเวลาปากสีชมพูเล็กๆ นั้นขยับนะโคตรน่าจับมาจูบมากเลยวะ หน้าก็สวยผิวก็ขาวตัวก็เล็กนิดเดียว เห็นแล้วอยากจะทะนุถนอมไว้ในอ้อมกอดกดอยู่บนเตียงไม่ให้ไปไหน คนอื่นน่ะฉันน้ำแตกในถุงแต่คนนี้ฉันอยากน้ำแตกข้างในตัวเลยนะจะบอกให้”
“เกือบจะดีอยู่แล้วเชียวถ้าไม่ติดตรงกดอยู่บนเตียงกับน้ำแตกข้างในตัวนี่แหละ” ฮีชอลเอ่ยออกมาอย่างอ่อนใจกับเพื่อนรักตัวเองก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินเพื่อนรักของตัวเองพูดต่อ
“เอาดีๆ นะคนนี้ฉันแม่งอยากจ่ายค่าสินสอดมากเลยนะ”
“ห๊ะ!!?? อะไรนะ??!! สินสอด??!! นี่ชอบขนาดอยากจะขอเขาแต่งงานเลยเร๊อะ!!”
“เออดิ นายไม่เคยได้ยินหรอ ก่อนจะสอดต้องจ่ายสินก่อน”
“หือ? อะไรคือ ก่อนจะสอดต้องจ่ายสินก่อน? ไม่เคยได้ยินอ่ะ เคยได้ยินแต่สินสอดแล้วไอ้คำนี้นายไปเอามาจากไหน?”
“ก็คนสมัยก่อนเวลาผู้ชายเราชอบผู้หญิงคนไหนแล้วอยากจะได้มาเป็นเมียก็ต้องเอาสินทรัพย์ไปจ่ายเพื่อให้ได้ตัวผู้หญิงที่รักมาอยู่ด้วย เมื่อจ่ายแล้วงานนี้จะสอดเท่าไหร่ก็จัดไปเอาให้คุ้มกับค่าสินที่จ่ายไป เขาถึงได้เรียกว่าสินสอดไงล่ะ"
“ฉันก็เพิ่งจะรู้วันนี้เองแหละความหมายของคำว่าสินสอดน่ะ ก็ดีนะความหมายตรงกับนายดี”
“ตรงยังไงวะไม่เข้าใจ”
“ตรงความหื่นของนายไงล่ะยุนโฮ”
ยุนโฮที่กำลังจะด่าเพื่อนรักกลับก็ต้องเงียบลงเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาก่อนจะเอ่ยอนุญาตให้คนที่เคาะประตูเข้ามาได้
“ขออนุญาตนะครับ” คนที่เคาะประตูเอ่ยขอออกมาก่อนจะเปิดเข้าห้องมาเมื่อได้รับอนุญาต
“มีอะไรหรอครับคุณแจจุง” ยุนโฮเอ่ยถามกลับอย่างสุภาพพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้
“ผมอยากให้คุณยุนโฮช่วยดูเอกสารฉบับนี้อีกทีครับ ผมตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาถ้าคุณยุนโฮเห็นว่าไม่มีปัญหาตรงไหนก็เซ็นอนุมัติได้เลยครับ”
“งั้นฉันกลับก่อนดีกว่าไม่อยากจะอยู่เป็น กขค. ผมกลับก่อนนะครับคุณแจจุง”
“กขค. อะไรหรอครับคุณฮีชอล” แจจุงหันกลับมาถามด้วยความสงสัย
“อย่าสนใจเลยฉันกลับละนะยุนโฮแจจุง”
“เดินทางกลับโดยสวัสดิ์ภาพนะครับ” แจจุงพูดพร้อมกับโค้งให้
“โชคดีนะเพื่อน” ยุนโฮพูดส่งเพื่อนอย่างจริงใจ
ฮีชอลพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อเห็นว่าฮีชอลออกไปแล้ว CEO จอมหื่นก็รีบรุกใส่คนสวยทันที
“ไหนขอผมดูเอกสารหน่อย” ยุนโฮบอกพร้อมกับเอื้อมมือเพื่อไปรับเอกสาร แจจุงรีบส่งเอกสารให้ทันทีเพราะเป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน แต่ไม่รู้ว่าแค่เหตุบังเอิญหรือตั้งใจกันแน่ที่มือของยุนโฮสัมผัสกับมือของแจจุงเบาๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้คนโดนหน้าแดงขึ้นมาไม่รู้ตัว
แค่บังเอิญโดนเท่านั้นแหละแจจุงนายอย่าคิดมากซิ คนที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย เป็นถึง CEO สายการบินอันดับหนึ่งของเกาหลี มีสาวๆ สวยๆ เข้ามาหาอย่างไม่ขาดสายจะมาสนใจคนอย่างเขาได้ยังไงกัน ผู้ชายหน้าตาธรรมดาที่ไม่ได้มีความสวยหรือเซ็กซี่เหมือนอย่างผู้หญิงพวกนั้น หน้าก็จืด นมก็แบน ก้นก็ไม่มี คนอย่างนายจะไปสู้อะไรกับผู้หญิงพวกนั้นได้คิมแจจุง
แน่ใจว่านี่คือมือของผู้ชาย? ทำไมนิ่มกว่ามือผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาเคยเล่นด้วยล่ะ นี่ขนาดแค่ลูบผ่านเบาๆ นะยังนิ่มขนาดนี้แล้วถ้าได้ลูบทั้งตัวล่ะจะนิ่มขนาดไหนกันนะ
“เอกสารไม่มีปัญหานะ” พูดจบยุนโฮก็ลงมือเซ็นเอกสารก่อนจะส่งกลับให้ทนายที่ยืนรอรับอยู่ด้านข้างเขาก่อนที่ทนายหน้าจืดที่เจ้าตัวคิดจะรับเอกสารกลับไปก่อนจะรีบหันกลับโดยไม่ลืมที่จะโค้งทำความเคารพเจ้านายตนเอง “เดี๋ยวก่อน” ยุนโฮรีบเรียกไว้ก่อนจะรีบคว้าข้อมือบางแล้วดึงรั้งไว้ แต่ด้วยความที่ดึงกะทันหันและคนถูกดึงไม่ทันตั้งตัวจึงเซลงมาที่ตักของยุนโฮพอดี
“อุ๊ย!! ขอโทษครับ” ด้วยความตกใจแจจุงจึงร้องออกมาก่อนจะรีบเอ่ยขอโทษเจ้านายตัวเอง
แต่มีหรือที่ CEO อย่างยุนโฮจะปล่อยโอกาสแบบนี้ไปง่ายๆ เมื่อโอกาสมาถึงก็ต้องรีบคว้าไว้ซิโดยไม่รอช้ายุนโฮรีบกอดเอวบางไว้แน่นเมื่อเห็นว่าคนบนตักกำลังจะลุกหนีไป
“จะรีบไปไหนละครับคุณแจจุง” ยุนโฮพูดด้วยเสียงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของแจจุง ลมหายใจร้อนเป่ารดที่ใบหูและแก้มของแจจุงเบาๆ จนแก้มที่โดนเป่าแดงขึ้นมา
“อะ...เอ่อ...ผะ...ผม...คือผม...ผมจะรีบเอาเอกสารฉบับนี้ไปให้ทางฝ่ายบัญชีครับ” แจจุงเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“แล้วทำไมพูดตะกุกตะกักแบบนั้นล่ะ”
“เอ่อ...คุณ...คุณยุนโฮปล่อยผมเถอะครับผมจะได้กลับไปทำงานต่อ”
“คุณรังเกียจผมหรอ”
“ปะ...เปล่านะครับ ผะ...ผมจะรังเกียจคุณยุนโฮไปทำไมล่ะครับ”
“งั้นนั่งอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“คุณยุนโฮ!!!” แจจุงร้องเรียกชื่อด้วยความตกใจกับคำพูดของยุนโฮก่อนจะรีบหันหน้าไปหา และนั้นทำให้แก้มใสไปชนเข้ากับจมูกโด่งและริมฝีปากของ CEO เข้าอย่างจัง ดวงตาหวานโตขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ
แค่ลูบมือผ่านๆ ก็ว่านุ่มแล้วนะแต่พอได้กอดแล้วทำไมตัวถึงได้นุ่มนิ่มแบบนี้ล่ะ แจจุงนายเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ตุ๊กตาใช่ไหม แล้วกลิ่นตัวหอมๆ ที่อยู่บนตัวนายล่ะมาจากไหนกันจะว่ากลิ่นน้ำหอมก็ไม่ใช่ แล้วเสียงหวานๆ ที่เอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักกับแก้มแดงๆ ของนายเนี่ยเป็นเพราะเขินฉันใช่ไหม? เพราะถ้าไม่เขินนายก็คงจะไม่มีอาการแบบนี้ นายก็ชอบฉันเหมือนกันใช่ไหมแจจุง
“อยู่ใกล้กันแค่นี้จะเสียงดังทำไมล่ะ” ใช่จะเสียงดังทำไมแล้วไอ้ตาโตๆ ตอนตกใจเนี่ยจะน่ารักไปไหน
“ก็คุณยุนโฮพูดว่า...ว่า”
“ว่าอะไรไหนลองบอกมาซิ”
“ว่านั่งอยู่แบบนี้...ไม่มีปัญหาใช่ไหม” น้ำเสียงแจจุงที่พูดอยู่นั้นค่อยๆ แผ่วลงไปเรื่อยจนแทบไม่ได้ยิน ใบหน้าสวยก้มลงด้วยความเขินอาย
“แล้วแจจุงมีปัญหาหรือเปล่าล่ะไหนเงยหน้ามาคุยกันก่อนซิ” ยุนโฮใช้ปลายนิ้วเชยคางของแจจุงให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตัวเอง
ดวงตาหวานสบตากับดวงตาคมอย่างเขินอายก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แทนคำตอบ คุณยุนโฮคนบ้า!!! มาถามคำถามอะไรแบบนี้ถ้ามีปัญหาคงต่อยหน้าแหกไปแล้วไม่มานั่งเขินอยู่อย่างนี้หรอก นี่ไม่รู้จริงๆ หรือยังไงกันนะ
ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปากเบาๆเมื่อได้การส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไม่มีก็ดีเพราะผมมีอะไรจะถามคุณสักหน่อย”
“จะถามอะไรหรอครับ” แจจุงถามกลับอย่างสงสัยแต่คงลืมไปแล้วว่าตัวเองนั่งบนตักของ CEO เจ้านายตัวเองอยู่เพราะตอนนี้แจจุงขยับตัวเพื่อให้ตนเองรู้สึกนั่งสบายขึ้นและนั้นก็ทำให้ยุนโฮพอใจเป็นอย่างมาก
“ผมอยากรู้ว่าทนายอย่างคุณรู้จักคำว่า ‘สินสอด’ หรือเปล่า”
“สินสอดหรอครับ คำว่าสินสอดในทางกฎหมายคือทรัพย์สินที่ฝ่ายชายหรือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายให้ไว้แก่ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการตอบแทนที่ฝ่ายหญิงยินยอมแต่งงานด้วยตามกฎหมาย”
“อ้าว!! ไม่ไช่ก่อนจะสอดเข้าไปต้องจ่ายสินทรัพย์ให้ก่อนหรอ”
“คุณยุนโฮ!! คุณพูดอะไรของคุณออกมาเนี่ย ทะลึ่งเกินไปแล้วนะ”
“หรือมันไม่จริงล่ะ”
“ถึงจะจริงไม่จริงยังไงก็ไม่ควรจะพูดออกมาแบบนี้นะครับ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็เพราะมันตรงเกินไปยังไงล่ะครับ” แจจุงพูดไปก็หน้าแดงไป
“งั้นถ้าผมอยากจะสอดเข้าไปในตัวคุณผมก็ต้องจ่ายสินทรัพย์ให้พ่อแม่คุณก่อนซินะ”
“สอดเข้ามาในตัวผม? เดี๋ยวๆ คุณยุนโฮคุณจะพูดจะทำอะไรเนี่ย” แจจุงร้องถามออกมาอย่างตกใจ ตกใจในคำถามไม่พอยังต้องมาตกใจที่จู่ๆ ตัวเองก็ถูกยกขึ้นมาไว้บนโต๊ะทำงานของยุนโฮอีก นั้นยังไม่ตกใจเท่าที่ตอนนี้ตัวเองนอนราบอยู่บนโต๊ะทำงานโดยที่มีร่างของ CEO หนุ่มรูปหล่อทาบทับตัวเองอยู่
“ทำอะไร? ขนาดนี้แล้วคุณคิดว่าผมจะทำอะไรคุณล่ะเล่นตำรวจจับผู้ร้ายกับคุณอย่างนั้นหรอ”
“คุณยุนโฮ!!”
“สินทรัพย์ผมจ่ายให้แน่แต่ตอนนี้ขอสอดเข้าไปก่อนได้ไหม? จากสินสอดขอเป็นสอดสินก่อนละกันนะ”
“คุณยุนโฮผมไม่ใช่ของเล่นของคุณนะ!!”
“แล้วใครบอกว่าฉันเห็นนายเป็นของเล่น”
“ก็ที่คุณยุนโฮทำอยู่นี่ยังไงล่ะ ถึงผมจะรักคุณมากแค่ไหนแต่ผมก็ไม่ได้เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้น แต่คุณคงเห็นผมเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นที่คุณเล่นด้วยใช่ไหมละ พอนอนกันแล้วก็ให้เงินไปใช้” ดวงตาหวานเริ่มมีน้ำตารื้นออกมาเพราะความน้อยใจ เสียใจ
“คุณรักผมอย่างนั้นหรอ”
“ก็ใช่น่ะซิถ้าไม่รักจะยอมปล่อยให้กอดแบบนั้นหรอ”
“ถ้าผมเห็นคุณเป็นของเล่นจริงทำไมผมต้องให้เงินค่าสินสอดกับพ่อแม่ของคุณด้วยล่ะคุณแจจุง ผมก็แค่สอดเข้าไปแล้วก็ให้เงินคุณก็จบจริงไหม?” เมื่อถามแล้วได้ความเงียบเป็นคำตอบกลับมายุนโฮจึงพูดต่อ “แจจุงผมรักคุณนะ”
“คุณยุนโฮคุณพูดว่าอะไรนะ”
“ผมรักคุณ”
แจจุงกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้อีกแล้วตอนนี้น้ำใสๆ ไหลลงจากหางตาทั้งสองข้างของแจจุงอย่างไม่ขาดสาย
“คุณอาจจะเห็นว่ามันเร็วไปเพราะผมกับคุณก็เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่หกเดือน สำหรับคนอื่นผมไม่รู้แต่สำหรับผมเวลาแค่หกเดือนก็เพียงพอทำให้ผมรู้ว่าผมรักคุณ เพราะผมไม่เคยรู้สึกกับใครอย่างที่รู้สึกกับคุณมาก่อน คุณรู้ไหมผมอยากให้คุณมาอยู่เคียงข้างผม มาคอยดูแลผม มาเป็นภรรยาของชองยุนโฮ CEO แห่งสายการบิน Jung Air ที่ผมดูแลอยู่ คุณพร้อมจะมาอยู่กับผมไหม?” ยุนโฮพูดความในใจออกไปให้คนที่นอนตรงหน้าตนเองได้รับรู้ ยุนโฮใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างคอยเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาของแจจุงแต่เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหมดซะที
“คุณรักผมจริงๆ ใช่ไหม? ไม่ได้มาหลอกผมเล่นใช่ไหม?”
“ผมไม่เคยพูดโกหกและผมก็ไม่เคยหลอกใครเล่นเหมือนกัน”
“ผมรักคุณนะคุณยุนโฮ” แจจุงพูดพร้อมโผเข้าไปกอดคอยุนโฮก่อนจะร้องไห้โฮออกมา ยุนโฮกอดตอบก่อนจะลูบหลังคนขี้แยไปมาเพื่อเป็นการปลอบประโลม
“รักแล้วพร้อมจะมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผมไหม?”
“อยู่ซิทำไมจะไม่อยู่”
“คราวนี้เราเข้าใจตรงกันแล้วนะ”
“อืม” แจจุงพยักหน้าตอบกับไหล่กว้างของยุนโฮ
“งั้นเรื่องสินทรัพย์ค่อยพูดที่หลังตอนนี้ขอผมสอดคุณก่อนได้ไหม?”
“ไม่ได้!!”
“ทำไมไม่ได้ล่ะ”
“คุณจะมาข้ามขั้นตอนได้ยังไงล่ะ ยังไม่ทันได้จีบกัน เดินจับมือกัน มาคบกันเลยนะคุณก็มาขอแต่งงานและ แต่งก็ยังไม่ได้แต่งแล้วคุณมาถึงจะข้ามไปขั้นตอนสุดท้ายได้ยังไงกันล่ะ” ใบหน้าสวยพละออกจากไหลกว้างแล้วหันมาพูดกับยุนโฮที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง
“เข้าใจแล้วยอมแล้วก็ได้”
“จริงๆ นะ”
“จริงซะยิ่งกว่าจริงอีก”
เมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้วแจจุงก็ถือโอกาสอ้อนยุนโฮอย่างเต็มที่ แล้วมาอ้อนกันแบบนี้ยุนโฮก็เสร็จซิครับ งานนี้ยุนโฮมีแต่หลงกับหลงจนถอนตัวจากแจจุงไม่ได้แล้วล่ะงานนี้
จากวันนั้นก็ครบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่บอกรักกันตอนนี้อะไรต่อมิอะไรก็เปลี่ยนไปหลายอย่าง พนักงานทุกคนในสายการบิน JUNG AIR รับรู้กันหมดแล้วว่าแจจุงที่เพิ่งเข้ามาเป็นทนายคนใหม่ได้ไม่กี่เดือนตอนนี้ควบตำแหน่งว่าที่ภรรยา CEO แห่ง JUNG AIR เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เป็นไงบ้างแจจุงแผนที่พี่แนะนำไปได้ผลไหม?”
“ยิ่งกว่าได้ผลอีกพี่ฮีชอล”
“แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่ามีความสุขมากแค่ไหน”
“ผมต้องขอบคุณพี่ฮีชอลมากเลยนะครับ ถ้าไม่ได้แผนของพี่ผมคงไม่มีวันนี้”
“วันที่รอดพ้นจากการถูกจับกดใช่ไหม?”
“ใช่ที่สุดเลยครับ คนบ้าอะไรก็ไม่รู้เล่นจะจับกดบนโต๊ะทำงานซะงั้น”
“แต่ถ้าบนเตียงนอนนี่ยอมเลยใช่ไหม”
“ก็ใช่ซิพี่จะรออะไร เอ้ย! ไม่ใช่ซะหน่อยพี่ฮีชอลก็”
“ได้ยินเสียงน้องมีความสุขพี่ก็ดีใจด้วย ถึงพี่จะเป็นเพื่อนกับยุนโฮและรู้จักเราได้ไม่นานแต่ก็รู้สึกรักเราเห็นเราเป็นน้องชายตัวน้อยๆ คนหนึ่งที่พี่ต้องคอยดูแลและปกป้อง พี่ดีใจที่ยุนโฮเลือกเรานะ”
“ขอบคุณครับพี่ฮีชอล ถ้าไม่ได้แผนบีบน้ำตาให้น่าสงสารเข้าไว้อย่างที่พี่ฮีชอลสอนผมป่านนี้ผมโดนยุนโฮกดเรียบร้อยแล้ว”
“ถ้าพี่ไม่เห็นว่ายุนโฮชอบเราและเราก็ชอบยุนโฮและเราก็เป็นคนดีพี่ก็คงไม่ลงทุนช่วยสอนเราหรอก”
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมครับสามีพี่ฮีชอลถึงไปไหนไม่รอด”
“ของแบบนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะพี่ ยุนโฮเดินมาแล้ว”
“โอเคๆ ไว้คุยกันใหม่นะจ๊ะ”
“ครับผมสวัสดีครับ”
“นั้นคุยอยู่กับใครหรอแจจุง” ยุนโฮที่เดินมาถึงก็รีบถามทันทีเมื่อเห็นว่าคนรักเพิ่งจะวางสายจากมือถือ
“คุยกับเพื่อนน่ะว่าแต่เสร็จงานยังหิวข้าวแล้วนะ”
“เสร็จแล้วซิจ๊ะนี่ยุนรีบเคลียร์งานเลยนะจะได้มีเวลาพาแจจุงไปเที่ยวเยอะๆ”
“งั้นเรารีบไปกันเถอะ” แจจุงรีบดึงมือของยุนโฮให้เดินตามไป CEO ที่ต้องรักษามาดอย่างเขาตอนนี้ไม่เหลือแล้วเพราะต้องมาวิ่งตามแจจุงที่วิ่งไปดึงมือของเขาไปด้วย แต่ก็นะเพื่อความสุขและรอยยิ้มของคนที่ยุนโฮรักเรื่องแค่นี้สบายมากสำหรับ CEO หนุ่มเจ้าของสายการบิน JUNG AIR ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเกาหลี
ส่วนเรื่อง ‘สินสอด’ นะหรอไม่ลืมอย่างแน่นอน ไว้เคลียร์ค่าสินสอดได้เมื่อไหร่นะ งานนี้พ่อหมีจะสอดให้แม่แมวร้องครางออกมาจนลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลยคอยดู