อินทรีหิมาลัย
ยอด เดชา
“อุ๊บ บ”
เสียงหอบหายใจด้วยความจุกเสียด ไอสีขาวพวยพุ่งออกทางปากที่พะงาบๆอยู่ข้างขอบเหว
โลลุกะ มองพวกมันสลับกับดอร์จี ที่ต่างโผนทะยานเข้าต่อสู้กันด้วยวิชาตัวเบา
“ หยุดนะ”
หญิงสาวตวาดเสียงดัง แต่มนุษย์หิมะพวกนั้นไม่ฟังเสียง ยังคงทะยานเข้าใส่ดอร์จีหยอยๆ คนนั้นถูกเตะกระเด็นกลับมาอีกคนก็ตัวปลิวเข้าใส่ คนนั้น คนโน้น แล้วก็คนนี้ไม่มีใครหยุดฟังเสียงตวาด ของเธอเลย
“ หยุด พวกแกต้องการอะไร”
ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเธอ นอกจากโสตของเธอเองสดับเสียงเหล่านี้
ผัวะ
ผละ
โครม ม
โลลุกะเห็นร่างของพวกมันคนหนึ่ง กระเด็นกลับมาด้วยแข้งของดอร์จี แต่แล้วคนที่สองก็พุ่งเข้าใส่อีก ด้วยเสียงร้องที่ก้องไปทั้งหุบเขา
“ย้าก ก ก”
พร้อมกันนั้น หญิงสาวแลเห็นหมัดอันทรงพลังของมันทิ่มพรวดเข้าใส่ใบหน้าของชายคนรัก จนเธอเองต้องหลับตาลงด้วยความเสียวไส้ พร้อมกับอุทานออกมา
“ อุ๊ย ย”
แต่ดอร์จีก็เบี่ยงหัวหลบ ทำให้หมัดนั้นผ่านหน้าเขาไปเฉียดฉิว จนรู้สึกร้อนผ่าว
“ ระยำ เสือกหลบ” มันคำรามอย่างหัวเสีย แต่ก็มีโอกาสสบถออกมาได้เพียงแค่นั้น เมื่อกำปั้นของดอร์จีจับเปราะเข้าเต็มปลายคางของมัน
พล็อก ก
หงายหลังผึ่งลงไปร่างฟาดกับหย่อมหิมะแตกกระจาย
“ เฮ้ย มันเล่นพวกเราสลบไปหนึ่งแล้ว รุมมันโว้ย”
สี่คนที่เหลือ โหมเข้าใส่คนละด้าน แต่คนอย่างดอร์จีก็ยอดนักสู้ มันคนหนึ่งทะยานเข้ามา เขาจึงทะยานขึ้น พร้อมถีบสกัด
ฉึก ก
“ โอ๊ก ก”
โครม ม
ร่างของมันปลิวกระเด็นกลับหลัง ฟาดและไถลไปกับพื้นน้ำแข็งอันขาวโพลน ก่อนจะพลิกตกลงไปในหุบเหวเบื้องล่าง
“ โอ๊ย ย”
เสียงร้องอย่างโหยหวนด้วยความตกใจลับหายลงไปในก้นเหวอันลึกและชัน ก่อนที่จะตามติดมาด้วยเสียงร่างกระแทกกับโขดหินเบื้องล่างดังสนั่น
ต่อให้มีวิชาลังโกม หากไม่ได้ตั้งหลัก ถึงยังไงก็ไม่อาจพาชีวิตหนีความตายได้
ร่างของมันถูกฝังไว้ภายใต้หิมะอันเย็นเยือก กลายเป็นมนุษย์หิมะรอวันให้ผู้คนค้นพบในอีกร้อยหรือพันปีข้างหน้า
“ ฆ่ามันเลย”
“ ปืนไหมพี่”
“ อย่า”
“ มีด”
“ ไม่ได้กินมันหรอก”
“ ยังงั้น”
“ กำปั้น ฝังมันไว้ใต้หิมะให้ได้”
“ ย้าก ก”
การต่อสู้เป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง ดอร์จีถูกรุมเข้าประชิด และพวกมันก็ไม่มีใครคิดจะใช้วิชาตัวเบาอีกต่อไป หมัด เท้า ต่างประเคนเข้าใส่กันเป็นจักรผัน
หมัดลั่นผัวะ ใบหน้าของคนถูกต่อยก็สั่นระริก สะบัดไปตามแรงหมัด เท้าถีบผาง อกของคนถูกถีบก็แทบพังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างผงะ เซถลาออกไปหลายก้าว
ดอร์จี งัดวิชาการต่อสู้ออกมาใช้ทุกรูปแบบที่เขาเคยร่ำเรียนมา จึงสามารถรับมือพวกมันได้ จนกระทั่งสิบห้านาทีผ่านไป นั่นแหละ พวกมันจึงฟุบลงไปกับพื้นกันหมด
ดอร์จีไม่มีเวลาตรวจดูพวกมันว่าเป็นคนเผ่าไหน เขาหันมาทางหญิงคนรักที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างหลัง
“ โลลุกะ รีบไปกันเถอะ”
“ ไปไหน”
“ หนีจากที่นี่”
“ คนเหล่านี้ ใครกัน”
“ ไม่รู้”
“ยังงั้น...”
“ รีบไปกันก่อน เดี๋ยวไม่ทันการ”
ด้วยวิชาลังโกม ดอร์จีอุ้มสาวคนรักไว้ในอ้อมแขน ทะยานลงจากสันเขาสูง สู่ก้นหุบไปในอึดใจต่อมา
“ นั่น ม้ายังอยู่ที่นั่น ”
อาชาพันธุ์ดียังคงและเล็มหญ้าอยู่ข้างธารน้ำเล็กๆ ที่หิมะละลายไปแล้ว หญ้าหย่อมหนึ่ง ดึงให้มันอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน
ดอร์จีทะยานขึ้นหลังม้า ตามด้วยร่างของหญิงสาวปลิวขึ้นไปเกาะหลังของเขาแน่น แล้วส้นเท้าทั้งสองก็กระแทกลงสีข้างอาชาพ่วงพี พร้อมกับการกระตุกบังเหียนเต็มแรง
“ เอิ๊ว ว ”
ม้าสีเหลืองอ่อนทะยานละลิ่วผ่านดงหิมะออกไปทางก้นหุบอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้น มนุษย์หิมะอีกกลุ่มหนึ่งก็ทะยานลงมายังก้นหุบพร้อมกับเสียงตะโกนลั่น
“ หยุด”
หยุดให้โง่รึ มีแต่คนปัญญาอ่อนเท่านั้นที่จะเชื่อฟังคำสั่งของพวกมัน
ดอร์จีควบม้าตะบึงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง เสียงฝีเท้าม้ากระแทกลงบนพื้นเปียกชื้น
“เยิ้ว ว”
“ อย่าให้มันหนีออกจากหุบนี้ไปได้ ยิงสกัดเอาไว้”
เสียงธนูถูกปล่อยออกจากแหล่งดังผึง หัวลูกธนูแต้มปลายสีแดงลอยละลิ่วเข้าใส่ร่างของคนทั้งสองบนหลังม้าด้วยความเร็วสูง
ฉึก ก
ลูกธนูยังคงสั่นพลิ้ว เมื่อมันพลาดจากร่างของคนไปปักต้นไม้ต้นหนึ่งที่ยืนซึมอยู่ ด้วยหิมะขาวโพลน
ดอร์จีหันไปมองลูกธนูแวบหนึ่ง ก่อนกระทุ้งอาชาพ่วงพีให้เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
“เยิ้ว ว”
ห่าลูกธนูปลิวเข้าใส่ร่างของคนทั้งสองอีกครั้ง แต่เดชะบุญ ไม่มีดอกไหนสัมผัสร่างของพวกเขาเลย
ในขณะเดียวกัน โลโก วหน้าเผ่า ผู้เป็นบิดาของโลลุกะก็ตะดกนออกมาด้วยความโมโห
“ หยุด อย่ายิง”
แต่ไม่มีใครฟังเสียงเขาอีกแล้ว เพราะมือธนูทั้งหมดคือคนของซัมโป
“ มันออกหุบเขาไม่ได้ พวกเราปิดตายแล้ว นั่น มันกลับมาอีกแล้ว” มือธนูคนหนึ่งหันมารายงานซัมโป
“ เตรียมยิง” ซัมโปสั่ง
“อย่า”
“ โลโก ท่านอย่ามายุ่ง”
“ นั่น มันลูกสาวของข้านะ ซัมโป”
“ ใช่ ข้ารู้ แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้ ลูกสาวของท่านจะไม่รักในเกียรติของหัวหน้าเผ่าแล้วล่ะ”
“ ท่านรู้ได้ยังไง ”
“ ทำไมจะไม่รู้ ถ้ารักเกียรติของท่าน จะมาหาผู้ชายตามลำพังในหุบเขาเร้นลับนี่รึ”
“ นั่นมันเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเกียรติแต่อย่างใด”
“ ไม่รู้ล่ะ เมื่อลูกสาวของท่าน ทำให้ข้าเจ็บ ก็ไม่ควรจะอยู่อีกต่อไป” ซัมโปพูดอย่างคนพาล
บิดาของโลลุกะเบิกตาโพลง ผงะถอยกลับหลังสองสามก้าว เขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของซัมโปผู้ที่เขาหมายมั่นจะให้ลูกสาวคนเดียวแต่งงานด้วย
“ ท่านพูดยังงี้ได้ยังไง ซัมโป ”
“ ทำไมจะพูดไม่ได้ นี่ข้าจะบอกให้นะโลโก เรื่องนี้ เป็นคำสั่งของเบื้องบน ถ้าท่านขัด ชุมชนของท่านจะแหลกยับไม่มีชิ้นดี เลือกเอาว่า ท่านจะยอมสละลูกสาวหรือจะยอมสูญสิ้นเผ่าพันธุ์”
โลโกผงะถอยหลัง หน้าซีดเผือด
“ นี่ แกหักหลัง”
ซัมโปไม่ยอมฟังเสียง ผลักร่างของชายผู้เป็นบิดาของโลลุกะให้หลีกทางไป
“ ถอยไป ถ้าไม่อยากตาย พวกเราตามไปยิงมันฝังไว้ ในหุบหิมะข้างหน้า ให้มันกลายเป็นมนุษย์หิมะไปเลย”
ในขณะนั้น ม้าพันธุ์ดีที่ใช้เป็นพาหนะก็ทะยานไปด้วยความเร็วสุดฝีเท้า แต่ด้วยน้ำหนักของคนทั้งสอง ทำให้อาชาตัวนั้นหมดแรงในอีกไม่กี่นาทีต่อมา และธนูดอกหนึ่งได้ปักฉึก เข้าเต็มขาหลังของมัน ทำให้ม้าตัวนั้นล้มโครมลง
ร่างของคนทั้งสองกระเด็นตกจากหลังม้า ถลาลิ่วไปข้างหน้าด้วยแรงเฉื่อยไม่อาจควบคุมตัวเองได้
“โอ๊ย ย”
ทั้งสองส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อร่างไถลตกลงไปในหลุมหิมะซึ่งเป็นเสมือนแอ่งขนาดใหญ่ และที่ตรงนี้หิมะก็ไม่เคยละลายเลยตลอดชั่วนาตาปี
ผลุ่บ บ
ร่างของคนทั้งสองจมหายลงไปอย่างรวดเร็ว
“ มันตกลงไปในหลุมหิมะแล้วพี่”
“ ดี ฝังมันไว้ในนั้นแหละ ให้มันกลายเป็นมนุษย์หิมะพันปีไปเลย”
“ แต่ ไอ้ดอร์จีมันมีพลังจิตแก่กล้านะพี่ บางทีมันอาจจะยังไม่ตายก็ได้”
“ มึงรู้ได้ยังไงวะ” ซัมโปไม่พอใจ
“ เดา”
“ อย่าเสือกเดายังงี้ต่อหน้านายนะโว้ย เดี๋ยวมึงจะเดาะ”
“ ทำไมพี่”
“ โดนดีดนะซี”
มันทำคอย่น เมื่อเห็นตีนลูกพี่สั่นดิ๊กๆ
“ข้าแค่อยากพิสูจน์ให้เห็นกับตาเท่านั้น”
“ แล้วมึงจะทำยังไง ลงไปงมไหมล่ะ”
พอเจอไม้นี้เข้า มันก็สงบปาก เงียบกริบ เพราะรู้ดีว่า ใครขืนลงไปในหลุมหิมะนั้น ไม่มีโอกาสกลับขึ้นมาได้อีกเลย ความเย็นตลอดปีตลอดชาติ ในหลุมหิมะจะกัดกล้ามเนื้อจนกระดิกกระเดี้ยไม่ไหว ก่อนกล้ามเนื้อจะตาย แข็ง เย็นชืด อย่างเนื้อถูกแช่แข็ง และเลือดจะแข็งตัวไม่อาจไหลเวียนได้อีกต่อไป
“ กลับไปรายงานหัวหน้า ตอนนี้ ไอ้ดอร์จีตายห่าไปแล้ว ไม่มีโอกาสเดินทางไปไหนได้อีก”
ทุกคนมีแต่ความเริ่งร่ากลับไป ยกเว้นพ่อของโลลุกะที่กลับมาด้วยคราบน้ำตา
“ โธ่ โลลุกะลูกพ่อ เจ้าไม่น่าจะอายุสั้นเลย”
โลโกคร่ำครวญด้วยความทุกข์ทรมาน
.............
ความตายของโลลุกะสร้างความบาดหมางระหว่างเผ่าซึ่งพ่อของเธอเป็นหัวหน้าอยู่ แม้ว่า ความกลัวที่เคยมีต่อหัวหน้าใหญ่จะมีมากขนาดไหนก็ตาม แต่ทว่า วิสัยของมนุษย์ผู้เป็นพ่อย่อมรักลูกเหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งเป็นลูกสาวที่น่ารักและสวยงามด้วยแล้ว ยิ่งก่อความเสน่หาให้แก่บิดาไม่เสื่อมคลาย
ความแค้นแน่นอกยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา รอจังหวะที่จะแก้แค้นให้กับลูกสาวคนเดียวอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ทั้งลูกเผ่าทั้งหลายก็ฮึกเหิม พร้อมที่จะทำศึกแก้แค้นอยู่ทุกเมื่อ
“ ข้าไม่นึกเลยว่า ไอ้ซัมโปมันจะเลวทรามขนาดนี้”
“ ยังงั้น ท่านหัวหน้าบัญชามาเลย พวกเราพร้อมที่จะเข้าตีชุมชนของซัมโป”
หัวหน้าเผ่าเหม่อมองออกไปทางทุ่งราบหุบเขา ฝูงจามรีกำลังหากินอยู่เป็นฝูงใหญ่ กระโจมของลูกเผ่าตั้งเรียงรายกันไปตามที่ราบเชิงเขา ควันไฟลอยอ้อยอิ่งขึ้นมาจากกระโจมเหล่านั้น
หัวหน้าเผ่าถอนหายใจ
“ ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าเดือดร้อน ลูกเล็กเด็กแดงก็จะพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย อย่าลืมว่า พวกมันมีมากกว่าเรา ขืนยกทัพไปถล่มพวกมัน มีหวังที่นี่ราบเป็นหน้ากลองแน่”