จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปแล้ว
ฉันยังนำภาพนั้นมาแขวนภายในห้องทำงาน
วรรณปิยะยังได้สังเกตุเห็น
หล่อนไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนัก
แล้วก็หันมาถามว่า
"นี่ภาพอะไรคะ"
"เป็นที่ซึ่งมีภูมิประเทศงดงามแห่งหนึ่งนอกนครโตเกียวชาวนครโตเกียวมักเดินทางไปใช้เวลาในวันอาทิตย์ที่นั่น"
"อ้อคุณซื้อมาจากโตเกียวหรือคะ"
ฉันก้มหน้ามองดูหนังสือในมือซึ่งกำลังอ่านอยู่ก่อนที่วรรณปิยะจะเข้ามาในห้อง
"เปล่า เพื่อนฉันคนหนึ่งเขาเขียนให้" หลุบตาต่ำลงอีก
"ฉันก็นึกอย่างนั้นแหละถ้าคุณซื้อก็คงแปลกหน่อยเพราะมันดูเป็นภาพธรรมดาอย่างที่สุด เพราะฉันบังเอิญมองไม่เห็นความงามอะไรในภาพนี้ นัยน์ในตาของฉันอาจต่ำกว่าความงามของภาพนี้ก็ได้" วรรณปิยะกล่าว
ภาพนั้นประดับไว้ในกรอบ ซึ่งมีขอบทำสนิท ข้าพเจ้าคิดว่าจะนำมาประดับไว้ข้างหน้า
จะ ได้แลเห็นตลอดทุกครั้งที่ชำเลืองไป แต่กลับมาคิดว่าถ้าจะทำตามความคิดเดิมภาพนั้นรบกวนประสาทน้ำทิพย์อย่างมาก
อันที่จริงวรรณปิยะก็มีส่วนถูก เพราะภาพนั้นธรรมดา ไม่มีอะไรน่าดึงดูด เมื่อยิ่งเทียบกับภาพอื่นในห้องโถง ที่ราคาถึง40-50เยน
ภาพนั้นเป็นภาพที่วาดให้เห็นระยะไกลและไม่แสดงให้เห็นว่าเป็นใครในรูป
และลงวันที่ไว้ข้างใต้ แสดงว่าเป็นเวลา6ปีมาแล้ว
มองดูภาพนั้นเมื่ออยู่ถ้าลำพัง ข้าพเจ้าแลเห็น น้ำในลำธารไหลเห็นจนกระทั่งแสงแดด เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่บนหิน และเห็นได้กระทำขนตางอนของคนคนหนึ่งในภาพนั้น น้ำทิพย์แลห็นทุกความ เคลื่อนไหว. ทุกฉากทุกตอนตั้งแต่ต้นจนกระทั่งบทสุดท้าย