“ชาหวัดดีคับไอ้มาร์คเหี้ย”
“ลูก!” / “ไอ้หนู”
“แต้มบุญเป็นเด็กดีต้องชาหวัดดีไอ้มาร์คเหี้ยคับแม่จ๋า”
“ไม่ใช่ๆ หนูต้องจำใหม่ครับ ลุงคนนี้ชื่อมาร์คเฮนรี่ เมื่อกี้ลูกได้ยินผิดไป ลืมนะครับลูก” เธอยังไม่อยากให้ลูกเรียกพ่อ ฉะนั้นเป็นลุงไปก่อนจนกว่าเขาจะคุยกันรู้เรื่อง
“หนูครับลุงชื่อมาร์คเฮนรี่ พูดใหม่นะครับ มาร์คเฮนรี่”
“มาร์คเฮนยี่” เด็กฉลาดเอ่ยได้อย่างถูกต้องแต่เพี้ยนเล็กน้อยเพราะยังพูดรอเรือกับลอลิงไม่ชัดรวมถึงอีกสองสามตัวอักษร แววตาไร้เดียงสาบวกกับลักยิ้มของเจ้าหนูทำให้ผู้ชายที่ยังไม่แน่ใจว่าตนเองคือพ่อของตาหนูตาตี๋เกิดคำถาม
แต้มบุญลูกใครกันแน่ ทำไมยิ้มเหมือนเขา แถมยังพูดเก่งมากด้วย ฉลาดเกินวัย หล่อกว่าเด็กวัยเดียวกัน ไหวพริบก็เลิศ มีแต่ข้อดีเต็มไปหมด หากเป็นลูกของเขาจริงๆ จะดีแค่ไหน
“ฉลาดมากครับ”
“เก่งมากค่ะลูก”
“แต้มบุญฉะหยาดไหมคับแม่จ๋า”
“ฉลาดมากค่ะ ฉลาดที่สุด”
“แต้มบุญยักแม่จ๋า” ปากเล็กยื่นไปจูบแก้มของมารดาอย่างเอาใจทำให้คนที่กำลังมองเกิดความรู้สึกอิจฉา มาร์คเฮนรี่มองสองแม่ลูกแสดงความรักตาแทบไม่กะพริบ
“คุณส่งวันว่างมาให้ฉันทางไลน์ แอดเบอร์นี้ได้เลย ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” เธอบอกเขาหลังจากที่จุ๊บแก้มลูกชายเสียงดัง
“พี่ยูกค้าจะเอามะพ้าวกี่ยูกคับ จดๆ ต้องจดก่อน”
สายเลือดพ่อค้ามันแรง เด็กชอบขายของกุลีกุจอหันซ้ายแลขวาเพื่อหาปากกากับกระดาษมาจด เลียนแบบคุณยายทวด เวลามีใครมาสั่งมพะร้าวคุณยายวิไลจะหากระดาษมาจดเพื่อกันลืม
“ไม่ต้องจดลูก พี่ลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่มีเรื่องคุยกับแม่จ๋า”
“เอ้า” เด็กชายตาตี๋อุทานราวกับผิดหวัง แต่มือยังถือปากกาเอาไว้เพื่อจดออเดอร์ตามที่ลูกค้าต้องการ เจ้าตัวเลียนแบบคนในบ้านทั้งนั้น โดยเฉพาะยายทวดวิไลกับยายชบาที่ยังใช้กระดาษกับปากกาจดยิกๆ แต่ไม่ได้จดออเดอร์ เพราะบนกระดาษล้วนมีตัวเลข สองตัวบ้างสามตัวบ้าง
“สั่งๆ ขายยังไงครับพ่อค้า” แค่เห็นสายตาผิดหวัง พี่ลูกค้าก็ทนไม่ไหว เด็กน้อยจึงยิ้มตาหยี เลื่อนกระดาษพร้อมจด ทั้งที่ตัวเองยังขีดเขียนไม่เป็น แต่จำตัวเลข จำพยัญชนะไทย พยัญชนะอังกฤษได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสิ่งของต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
“หนึ่งลูกยี่ฉิบ ฉองลูกยี่ฉิบคับ”
“ทำไมราคาเท่ากันครับ”
“โปโมชั่นฉงฟีด้วยน่า เอากี่ยูก”
...
ฝากพ่อค้าแสนซน ตัวกลม ตาตี๋ มีลักยิ้มด้วยนะคะ
ถ้าอ่านแล้วชอบ อ่านแล้วถูกใจ อย่าลืมกดไลก์ เก็บนิยายเข้าชั้นด้วยจ้า