ปรินทร์ อิสระไกรสร
นิรา ศศินิภา นฤบดินทร์
“เฮ้ย! สาวที่มึงอยากได้กูพามาให้แล้ว!”
ชายหนุ่มบนเก้าอี้ทำงานหมุนเก้าอี้หันมาเผชิญหน้ากับผู้มาใหม่
ใบหน้าคมสันและดวงตาที่ลุ่มลึกราวกับห้วงมหาสมุทรคู่หนึ่งจับจ้องมาที่นิราอย่างแน่วนิ่งทันทีที่เขาปรากฏตัวร่างกายของนิราแข็งทื่อราวกับถูกสาป เธอหยุดนิ่งอยู่กับที่
ดวงตาของเธอกับเขาสบกันราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่มองไม่เห็นสะกดให้ทั้งคู่ต้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะทุกอย่างรอบตัวพลันเลือนหายไปมีเพียงภาพของอีกฝ่ายที่เด่นชัดอยู่ในห้วงสำนึกลมหายใจของเธอสะดุดดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความระแวงกลับกลายเป็นความรู้สึกที่หลากหลายยากจะอธิบายเธอกำมือแน่นพยายามรวบรวมสติที่กระจัดกระจายให้กลับคืนมา
ปรินทร์ยังคงจ้องมองนิราด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพิเคราะห์พิจารณาเขาค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบปากกาบนโต๊ะขึ้นมาหมุนเล่นในมืออย่างไม่เร่งรีบท่วงท่าที่สงบนิ่งของเขาบ่งบอกถึงอำนาจและอิทธิพลที่ยากจะหยั่งถึง
“ออกไปให้หมด! เหลือแค่เธอคนเดียว” เสียงทุ้มต่ำของเขากังวานไปทั่วห้อง
แต่กลับแฝงด้วยคำสั่งเด็ดขาดที่ไม่มีใครกล้าขัด นิราเห็นเพื่อนทั้งสามของเขาเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบเหลือเพียงเธอกับปรินทร์อยู่ในห้องกว้างขวางเพียงลำพัง
ความเงียบกลับมาปกคลุมอีกครั้งแต่คราวนี้มันเป็นความเงียบที่เปี่ยมไปด้วยความกดดันนิราตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาเพราะความรู้สึกระแวงกับสายตาที่เขามองมาทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
“มีอะไรก็ว่ามา คุณให้เพื่อนพาฉันมาพบ คุณต้องการอะไร” เธอเอ่ยถามเสียงสั่นเล็กน้อยพยายามไม่ให้ความกังวลฉายชัดบนใบหน้า
ปรินทร์ยิ้มเยาะมุมปากเล็กน้อยแววตาของเขาบ่งบอกถึงความพึงพอใจที่ได้เห็นปฏิกิริยาของเธอ
“ต้องการอะไรงั้นหรอ ถ้าฉันบอกว่า ต้องการตัวเธอล่ะ” คำพูดของเขาดังก้องในโสตประสาทของนิรา ราวกับระเบิดเวลาที่เพิ่งถูกจุดชนวน
เธอกะพริบตาปริบๆความรู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นสาดใส่ความเดือดดาลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจอย่างช้าๆ
“ไม่มีทาง!!” เธอตอบกลับไปทันควันเสียงหนักแน่นและชัดเจนปฏิเสธข้อเสนอที่เธอรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
ปรินทร์หัวเราะในลำคอเบาๆเสียงหัวเราะที่ฟังดูเย็นชาและเยาะหยัน“หึ...คนแบบเธอ ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ! อย่าลืมซิ ฉันถือไพ่เหนือกว่าเธอ” คำพูดของเขาแทงทะลุหัวใจของนิราราวกับคมมีด
ความรู้สึกหมดหนทางเข้าครอบงำเธอเม้มปากแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงความอ่อนแอออกมาทางสีหน้าเธอเลือกที่จะเงียบปล่อยให้ความเงียบเป็นเครื่องป้องกันตัวเองจากคำพูดที่รุกเร้าของเขา
“หรืออยากให้คลิปนั้นหลุดออกไป” เขาเลิกคิ้วขึ้นถาม
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความท้าทายแววตาคมกริบของเขายังคงจับจ้องที่เธออย่างไม่ลดละราวกับต้องการจะอ่านทุกความคิดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเธอ
คำว่า'คลิปนั้น'กรีดแทงลงไปในใจของนิราอย่างจังความรู้สึกเจ็บปวดและความอัปยศพุ่งพล่านขึ้นมาทันทีราวกับมีใครเอาน้ำกรดมาสาดใส่
เธอตัวสั่นระริกด้วยความโกรธแค้นดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความรู้สึกที่ยากจะควบคุม
“เลว!! พวกคุณมันเลว แอบวางยาฉันกับเพื่อน แล้วถ่ายเก็บไว้ ถามจริง ยังเหลือความเป็นคนอยู่อีกมั้ย” เสียงของเธอสั่นเครือด้วยความคับแค้นใจ น้ำเสียงที่พยายามจะควบคุมกลับแตกพร่าออกไปเล็กน้อย
ปรินทร์เพียงแค่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “แล้วใครให้เธอสองคนโง่รับของจากคนแปลกหน้าล่ะ ทั้งๆที่ไม่รู้จักพวกฉัน แต่ก็เลือกที่จะดื่มของจากเพื่อนฉัน” คำพูดของเขาสาดย้ำความผิดพลาดในอดีตของเธอราวกับเป็นการตอกย้ำความโง่เขลาในคืนนั้น
นิรากัดริมฝีปากแน่นความรู้สึกที่ยากจะทนทานทำให้เธอแทบจะระเบิดออกมา“แล้วใครจะไปรู้ล่ะ ว่าพวกคุณเล่นสกปรก!” เธอตอบโต้กลับไปอย่างไม่ยอมแพ้เสียงของเธอดังขึ้นเล็กน้อยแฝงด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น...ปรินทร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานอย่างรวดเร็วก้าวเท้าเข้ามาหานิราด้วยท่วงท่าที่ดุดันและคุกคาม “อย่ามาขึ้นเสียง!” เขาตะคอกใส่เธอ เสียงของเขาก้องไปทั่วห้อง ราวกับฟ้าร้องในยามพายุโหมกระหน่ำ
นิราผงะไปเล็กน้อยเธอเม้มปากแน่นดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าแต่เธอกลับกลั้นมันไว้สุดความสามารถไม่ต้องการให้เขามองเห็นความอ่อนแอของเธอ
ปรินทร์ยังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ
“ฉันมีทางให้เธอเลือกสองทาง!” นิราเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างระแวงสายตาของเธอเต็มไปด้วยคำถาม
“ทางอะไรของคุณอีก!” เธอถามกลับไปทันที เสียงของเธอยังคงสั่นเล็กน้อยด้วยความกังวล
“ยอมเป็นของเล่นให้ฉันเอา!” คำพูดของเขาแทงทะลุหัวใจของนิราอย่างจังราวกับคมมีดที่กรีดลงไปบนบาดแผลเดิมความรู้สึกรังเกียจและความขยะแขยงถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนเธอแทบจะยืนไม่อยู่
“ทุเรศ!! ฉันจะไม่มีวันเสียตัวให้พวกนายอีก!” เธอตอบกลับไปอย่างเด็ดเดี่ยวใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธแค้นปฏิเสธอย่างไม่มีข้อแม้
ปรินทร์ยิ้มเยาะ“ก็เลือกเอา! จะยอมเป็นของเล่นให้ฉันเอาคนเดียว หรือ...จะให้ฉันเอาคลิปนั้นลงขาย ถึงตอนนั้นเธอคงจะดังน่าดู ไม่ได้ดังเพราะเป็นดีไซเนอร์แต่ดังเพราะเป็นนางเอกหนังโป๊” คำพูดของเขาเปรียบเสมือนก้อนหินที่ถูกขว้างเข้ามาในบ่อน้ำที่สงบนิ่งสร้างคลื่นแห่งความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวในใจของนิรา
เธอรับรู้ได้ถึงความมืดมิดที่กำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตราวกับเงามรณะความฝันที่กำลังจะไปได้ดี ความภาคภูมิใจในอาชีพดีไซเนอร์ที่เธอรักกำลังจะพังทลายลงในพริบตาเธอรู้สึกเหมือนถูกบีบคั้นจนหายใจไม่ออก
“ชาติชั่ว!” เธอพ่นคำด่าออกมาด้วยความรังเกียจขั้นสูงสุด
ปรินทร์กลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อยเขายังคงยิ้มเยาะ “ด่าเลย อยากด่าอะไรก็ด่าเลย ฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บสักนิดกับคำพวกนั้นที่ออกมาจากปากเธอ” คำพูดของเขาทำให้ความเดือดดาลในใจของนิราพุ่งสูงขึ้น เธอรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ลบคลิปนั้นออกเดี๋ยวนี้ ฉันไม่เล่นด้วย ถ้าคุณไม่ลบออก ฉันจะแจ้งตำรวจ!” เธอพยายามข่มเสียงให้มั่นคงที่สุดเท่าที่จะทำได้พยายามแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้หวาดกลัว
ปรินทร์หัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันอีกรครั้ง“เอาซิแจ้งเลย ถ้าเธอคิดว่าคนระดับฉันจะยอมเข้าคุกง่ายๆ อย่าลืมซิ เธอกับเพื่อนเป็นคนเดินมานั่งตามคำชวนของเพื่อนฉันเอง” คำพูดของเขายิ่งตอกย้ำว่าเขาเหนือกว่าเธอทุกด้านการที่เธอถูกวางยาในคืนนั้นไม่ใช่ความผิดของเขาเลยแม้แต่น้อย มันคือความผิดของเธอเองที่ประมาทและไว้ใจคนแปลกหน้า นิราแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความคับแค้นใจ
“ฉันไปทำอะไรให้คุณ ทำไมต้องเป็นฉัน!!” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจ
ปรินทร์ก้าวเข้ามาใกล้นิราอีกก้าวหนึ่งดวงตาของเขาทอประกายแห่งความปรารถนาที่ยากจะควบคุม
“ก็แค่มาเป็นผู้หญิงชั่วคราวของฉัน ฉันให้ทั้งเงิน ให้ทั้งบ้าน และความสะดวกสบาย ไม่คุ้มตรงไหน ใครๆ ก็อยากมาเป็นกันทั้งนั้น” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วยวนพยายามหว่านล้อมให้เธอตกหลุมพรางนิรารู้สึกเหมือนถูกดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง
เลือดในกายของเธอพุ่งพล่านด้วยความโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ “งั้นก็ไปเอาคนพวกนั้นซิ คนที่อยากคลานเข้ามานั่งตักคุณ! แต่ไม่ใช่ฉัน!” เธอตอบกลับไปอย่างรุนแรง ปฏิเสธข้อเสนอที่น่ารังเกียจอย่างสิ้นเชิง
“ก็ฉันจะเอาเธอ!” ปรินทร์เอ่ยเสียงกร้าวน้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความต้องการที่เด็ดขาดและไม่ยอมอ่อนข้อ
นิราหัวเราะเยาะออกมาด้วยความสมเพช “แต่ฉันไม่เอาคุณ! เป็นโรคจิตหรือไงมาบังคับคนอื่นแบบนี้ พอคนไม่เอาก็จะแบล็คเมล์ โตมากับครอบครัวแบบไหนถึงได้เป็นคนเหี้ยๆ แบบนี้” คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและความรังเกียจที่ไม่อาจเก็บงำได้อีกต่อไป
ปรินทร์กำมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะทำงานเสียงดัง 'ปัง!'ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานิราอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาฉายแวววาวราวกับเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เขาเอื้อมมือไปจับท้ายทอยของนิราอย่างแรง ก่อนจะก้มลงประกบจูบริมฝีปากของเธออย่างรุนแรงและป่าเถื่อน
นิราพยายามดิ้นรนขัดขืนเธอทุบกำปั้นลงบนอกกว้างของเขาอย่างแรง พยายามเปล่งเสียงกรีดร้องออกมา แต่กลับมีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอ “อือ~อ้อย! อั้น”
ปรินทร์ไม่สนใจการขัดขืนของเธอแม้แต่น้อย เขาดันตัวเธอเข้าชิดผนังสอดลิ้นหนาเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างหยาบคายตวัดไปมาอย่างรุนแรงราวกับต้องการจะช่วงชิงลมหายใจของเธอทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและป่าเถื่อนจนนิราแทบตั้งตัวไม่ติด เธอรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงไปในวังวนแห่งความมืดมิดและสิ้นหวัง
ความรังเกียจและความอัปยศเข้ามาปกคลุมจิตใจ เธอพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขา แต่แรงของเธอกลับไม่อาจสู้แรงของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
เขาไม่พอแค่นั้น มืออีกข้างของเขาเลื่อนลงมาฉีกกระชากชุดเดรสที่เธอสวมใส่อย่างรุนแรงเสียงผ้าฉีกขาดดังก้องในความเงียบงัน เผยให้เห็นชุดชั้นในลูกไม้สีดำที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น
ปรินทร์จับมือทั้งสองข้างของนิราตรึงไว้กับผนังเหนือศีรษะ ก่อนจะถอนจูบออกมาอย่างช้าๆ ริมฝีปากของเธอแดงก่ำจากการจูบที่รุนแรงใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ
“ไอ้ชั่ว!!! สารเลว!!!” นิราพ่นคำด่าออกมาด้วยความโกรธแค้นที่ถึงขีดสุด ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความคับแค้นใจราวกับจะพ่นไฟออกมาเผาไหม้ทุกสิ่งตรงหน้า
ปรินทร์กลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อยเขายังคงยิ้มเยาะ “เอาซิฉันชอบ! ด่ามาเลย ยิ่งเธอด่า ความอยากในตัวฉันก็ยิ่งมากขึ้น อย่าต้องให้หมดความอดทน ถ้าฉันหมดความอดทนฉันจะเรียกพวกมันกลับมาเอาเธอ เหมือนคืนนั้น!” คำพูดของเขาเปรียบเสมือนคมมีดที่กรีดลงไปบนบาดแผลเดิมของนิรา ความทรงจำอันเลือนรางของคืนที่โหดร้ายคืนนั้นพลันผุดขึ้นมาในจิตใจ
เธอตัวสั่นระริกด้วยความกลัว ความกลัวที่เธอไม่อาจควบคุมได้ ความกลัวที่ว่าเธอถูกเพื่อนของเขาข่มขืนในคืนนั้น ความเงียบเข้าครอบงำนิราทันที เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก
ปรินทร์มองเห็นความกลัวในดวงตาของเธอ เขารู้ว่าเขาได้เปรียบ “ก็แค่ยอมเป็นของเล่นให้ฉันเอาแค่คนเดียว ฉันเบื่อเมื่อไหร่ก็แยกย้าย ยอมๆ เถอะเพราะถ้าเธอไม่ยอม....ชีวิตเธอจะพังไม่เป็นท่า รวมถึงเพื่อนเธอ และร้านที่พวกเธอรัก” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย แต่แฝงไปด้วยคำข่มขู่ที่ร้ายกาจกว่าเดิม
นิ้วชี้เรียวยาวของเขาค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาวางที่กลางอกของนิรา ก่อนจะลากลงมาช้าๆ ผ่านเนินอกอิ่ม ลงมาหยุดที่สะดือของเธอ นิราตัวสั่นสะท้านไปทั้งตัว เธอรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่แล่นผ่านร่างเธอไปทุกส่วน เธอหวาดกลัวจนแทบจะหายใจแรงๆ ไม่ได้ ทั้งกลัวและอับอายที่ต้องอยู่ในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้
“ว่าไง จะยอมมั้ย?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ ราวกับต้องการจะทะลุทะลวงเข้าไปในจิตใจของเธอ นิราหลับตาลงแน่น พยายามรวบรวมสติที่กระจัดกระจาย เธอไตร่ตรองถึงผลที่จะตามมาหากเธอปฏิเสธ เธอไม่สามารถปล่อยให้ชีวิตของเพื่อนและร้านที่พวกเธอรักต้องพังทลายลงได้
“....ถ้าฉันยอม คุณจะลบคลิปนั้นรึเปล่า” เธอเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ ความหวังสุดท้ายของเธอแขวนอยู่บนคำตอบของเขา
ปรินทร์หัวเราะในลำคอเบาๆ “ไม่!! ฉันจะลบก็ต่อเมื่อ วันที่ฉันไม่ต้องการตัวเธอแล้ว” คำตอบของเขาเหมือนคมมีดที่กรีดซ้ำลงบนบาดแผลที่ยังไม่หายดี นิ้วเรียวร้อนของเขาค่อยๆเลื่อนลงไปเขี่ยสายชุดชั้นในของนิราเบาๆ พยายามจะปลดมันออกอย่างช้าๆ
“ขืนฉันลบตอนนี้ ถ้าเธอเปลี่ยนใจไม่ยอมให้ฉันเอาขึ้นมา....ฉันจะเอาอะไรมาขู่เธอ” เขาอธิบายเหตุผลด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
นิราเม้มปากแน่นเธอรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชก ไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยนอกจากต้องยอมจำนน
“........” เธอเงียบ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไปได้อีกแล้ว ปรินทร์เห็นท่าทีของเธอเขารู้ว่าเขาได้เปรียบแล้ว
“ไม่นานหรอก! ฉันไม่ใช่คนรักใครง่ายๆ ฉันก็แค่ติดใจร่างกายของเธอ เบื่อเมื่อไหร่ตอนนั้นฉันจะคืนอิสระให้เธอ พร้อมกับรางวัลที่เธออยากได้” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย พยายามหว่านล้อมให้เธอคล้อยตาม มือของเขาเลื่อนขึ้นไปปลดตะขอเสื้อในของเธอออกช้าๆ เผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น นิรายืนนิ่งไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย เธอปล่อยให้เขาทำตามใจทุกอย่าง เพราะเธอรู้ว่าการขัดขืนใดๆก็ไร้ประโยชน์
“รถ บ้าน คอนโด เงิน เสื้อผ้าสวยๆ แพงๆ เครื่องประดับทองหรือเพชร ฉันให้เธอได้หมด!” เขาเอ่ยพร้อมกับใช้มือลูบไล้ทรวงอกของเธอเบาๆดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ทรวงอกของเธออย่างไม่กระพริบ ราวกับกำลังชื่นชมงานศิลปะชั้นเอก
นิราหลับตาลงแน่นน้ำตาเริ่มไหลรินลงมาอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนกำลังขายวิญญาณให้กับปีศาจ
“ก็ได้....ฉันยอม! ขอแค่คุณรับปาก ว่าจะไม่ปล่อยคลิปนั้น” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง เธอขอแค่สิ่งเดียวเท่านั้น ขอให้คลิปนั้นไม่ถูกเผยแพร่ออกไป เธอไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนไปด้วย เพราะตอนนี้เธอกับเพื่อนกำลังไปได้สวยกับร้านเสื้อผ้า
ปรินทร์ยิ้มเยาะ “ฉันรับปาก!” เขาตอบรับทันที เขาใช้มือลูบไล้ทรวงอกของนิราวนๆดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เธอไม่ลดละ
“ฉันต้องทำอะไรบ้าง” น้ำตาของนิราไหลอาบแก้มอย่างไม่อาจควบคุมได้
ปรินทร์ก้มลงกระซิบข้างหูของนิราด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันดิบเถื่อน
“แค่อ้าขาให้ฉันเอา!”
ต่อจากเรื่อง: บำเรอรักนายหัวจอมเย็นชา
และ: ฝากไว้ในกายเธอ