“ถึงอย่างไรตระกูลของเราทั้งสองก็ย่อมต้องการทายาทสืบสกุล ดังนั้นหลังแต่งงานอาจมีการร่วมหลับนอนฉันสามีภรรยา คุณชายเสิ่นขัดข้องหรือไม่เจ้าคะ”
หญิงสาวพูดออกมาเจื้อยแจ้วดั่งเจรจาการค้า ในขณะที่คนตัวโตแอบหูร้อนเมื่อคิดว่าเขาจะได้เป็นครอบครองนางในดวงใจ
“ข้อนี้...ย่อมไม่ขัดข้องอีกเช่นกัน”
แม้ภายในใจจะลิงโลดเพียงใด แต่เขาก็ตอบออกไปด้วยท่าทางสุขุม กระนั้นกลับไม่อาจปิดซ่อนสายตาวับวาวยามเมื่อทอดมองหญิงสาวเบื้องหน้า
นั่นแหละ...
ฮวาฟางหรงจึงได้สำเหนียกว่าข้อตกลงนี้เป็นนางที่เสียเปรียบมิใช่หรือ นางคิดถึงแต่ประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีสามีใหม่ คิดแค่ว่าจะใช้ประโยชน์จากสามีใหม่อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด นอกจากใช้เขาเป็นหุ่นเชิดติดต่อค้าขายแล้ว นางยังคิดจะใช้เขาเป็นพ่อพันธุ์ผลิตลูก โดยลืมคิดถึงขั้นตอนการผลิตไปเลย
ขะ...ขั้นตอนการผลิตลูก!
‘น่าอายเหลือเกิน นี่ข้าทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย’
นั่นเพราะชาติก่อนนางไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ ถูกสามีทอดทิ้งอย่างเย็นชา เมื่อหย่าขาดก็อาศัยอยู่ในอารามนางชี จึงใช้ชีวิตราวกับถูกปิดกั้นเรื่องเพศไปจนหมดสิ้น
“อะ...เอ่อ สัญญาข้อนี้ข้าคิดว่าคงต้องเพิ่มรายละเอียดสักหน่อย ปะ...เป็นหลับนอนร่วมกันเดือนละสองครั้งตามหน้าที่”
หญิงสาวรีบขอพู่กันจากซื่อมู่ แล้วลงมือเขียนรายละเอียดสัญญาเพิ่มอย่างร้อนรน ซึ่งท่าทางเช่นนั้นล้วนอยู่ในสายตาของเสิ่นกั๋วกง เขามองใบหน้าแดงก่ำของนางด้วยความรู้สึกว่านางช่างน่ารักน่าจับกินเสียเหลือเกิน ดูหยดเหงื่อเล็กๆ บนปลายจมูกเชิดรั้นนั่นสิ เขาอยากจะใช้ปากงับที่ปลายจมูกนั่นด้วยความมันเขี้ยว
“เช่นนั้นข้าขอเพิ่มรายละเอียดด้วยได้หรือไม่ขอรับคุณหนูฮวา”
เมื่อฮวาฟางหรงแก้ไขรายละเอียดเสร็จแล้ว ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นบ้าง
“ดะ...ได้สิเจ้าคะ”
หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองพูดติดขัดขึ้นมาเสียดื้อๆ ความมั่นใจมากมายก่อนหน้านี้หายไปเกินกว่าครึ่ง
“ข้าแก้ไขเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วขอรับ เชิญคุณหนูฮวาลองอ่านดู”
‘สามารถร่วมหลับนอนมากกว่าสองครั้งต่อเดือนหากเป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย’
ข้อความที่คุณชายเสิ่นเขียนลงไปทำให้ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวราวกับจะระเบิดออก อยากจะปฏิเสธออกไปว่าไม่มีทาง! ตะ...แต่เมื่อมองใบหน้าหล่อเหลาและหุ่นที่สูงโปร่งรับกับไหล่กว้าง หญิงสาวก็ชักไม่มั่นใจตัวเอง