“ผมขอเข้าไปดื่มน้ำในบ้านหน่อยได้ไหม ?”
“เอ่อ….” ขณะกำลังจะเอ่ยปากหาข้ออ้างปฏิเสธ แม่หนูน้อยที่ร้อยวันพันปีไม่เคยชอบคุยกับคนแปลกหน้าก็เจื้อยแจ้วขึ้น
“มาสิ ๆ มิยินมีหนมด้วย เดี๋ยวแบ่งให้กินค่า”
“มิลิน ไม่ได้นะลูก!” หญิงสาวโพล่งออกไปอย่างตกใจ
“ฮึก ทำไมเหยอคะ มิยินมีหนมเยอะนี่นา” เด็กน้อยทำหน้าม่อยเพราะตกใจที่โดนมารดาดุด้วยเสียงดัง แต่ชลธีร์กลับปลอบหนูน้อยด้วยท่าทางอ่อนโยน
“คุณแม่น้องมิลินคงกลัวว่าลุงจะมาแย่งขนมหนูน่ะค่ะ แต่ลุงสัญญานะว่าไม่แย่งกินขนมหนูหรอก ลุงขอแค่เข้าไปกินน้ำเย็น ๆ ชื่นใจก็พอ ได้ไหมคะ”
“ได้ค่า นะคะแม่ขา”
หากวันนี้มีเพียงชายหนุ่มมาคนเดียว มาริสาคงไล่ตะเพิดเขาออกไปแล้ว แต่เพราะยังมีผู้บริหารอีกคนอยู่ด้วย หญิงสาวจึงได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจแล้วเชิญทั้งสองคนเข้าบ้านอย่างเสียไม่ได้
เมื่อหาเครื่องดื่มและของว่างมาต้อนรับแขกทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ฝากลูกไว้กับเมลดาชั่วคราว ก่อนจะขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลังจากผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองแต่ก็ยังคงความสุภาพ มาริสากลับลงมาอีกครั้ง ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำเอาหญิงสาวตัวชา ใจหายวาบ หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เสียงที่เรียกออกไปสั่นเทา
“มิลินลูก ทำไมถึงไปนั่งตักคุณลุงเขาแบบนั้น ลงมาเดี๋ยวนี้!”