เขาคิดมาตลอดว่าเธอกับตาพีทคงไม่ได้เจอกันตลอดกาล แต่ความบังเอิญหรือพรมลิขิตสักอย่างก็หมุนให้พวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเพียงไร

ขวัญชีวากำลังโลดแล่นในวงการบันเทิง เป็นนักแสดงวัยยี่กลางๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จเป็นที่จับตามองของสื่อ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเคยละทิ้งอดีตอย่างไม่ตั้งใจ จนกระทั่งเจอกับคุณหมอยังหนุ่มซึ่งเป็นคนแปลกหน้าแต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยกับเขาเหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้นเธอถูกชะตากับ 'ลูกชาย' ของเขา ราวกับว่ามีความผูกพันธ์ลึกซึ้งบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกระแคะระคายเลยว่าถูก 'คนใกล้ตัว' ช่วยกันเก็บซ่อนเอาไว้ตลอดเวลาหลายปี 

. 

. 

ภิชชาวรรธคิดมาตลอดว่าขวัญชีวากับตาพีทคงไม่ได้เจอกันตลอดกาล นับตั้งแต่แยกจากกันที่โรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อน แต่ความบังเอิญหรือพรมลิขิตสักอย่างก็หมุนให้พวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเพียงไร 

แต่มันจะเป็นความลับเช่นนี้เรื่อยไปนับตั้งแต่วันที่เขาสัญญาอย่างหนักแน่นกับพ่อแม่ของขวัญชีวาว่าจะไม่กลับมาเกี่ยวข้องกับเธออีก ตราบใดก็ตามที่ยังอยากให้ลูกชายของเขามีชีวิตอย่างสุขสงบ เพราะเขามั่นใจว่าคนมีอิทธิพลอย่างบิดาของขวัญชีวาไม่เพียงแค่ข่มขู่ แต่สามารถทำอะไรก็ตามเพื่อกำจัดเสี้ยนหนามที่ไม่ต้องการได้อย่างไรซึ่งความเห็นอกเห็นใจ 

. 

. 

“คุณคิดจะบอกความจริงว่าตาพีทเป็นลูกชายของฉันตอนไหน!!!” ขวัญชีวาแผดเสียงลั่น แตกต่างจากคนที่พยายามควบคุมตัวเองให้นิ่งเฉยแบบเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง 

“คุณพูดอะไรน่ะขวัญเอย” เขาแสร้งทำเป็นไขสือ หากแต่มือไม้ของหญิงสาวยิ่งสั่นระริก ผิดหวังต่อเขามากมายเหลือเกิน 

คนที่เธอเคยรู้สึกดีด้วยในอดีต แม้ลืมเลือนเขาไปจากความทรงจำแล้ว และเมื่อบังเอิญกลับมาเจอกันเธอก็ตกหลุมรักเขาอีกครั้ง แท้จริงเป็นคนปลิ้นปล้อนเช่นนี้เองหรือ!!? 

หญิงสาวคิดด้วยความผิดหวัง กระบอกตาปวดร้าวจากน้ำตาที่เอ่อท้นปริ่มจะไหลออกมาแต่เธอสะกดกลั้นมันไว้อย่างเต็มที่ อีกทั้งต้องกัดฟันแน่น แล้วหมุนตัวไปกระดาษแผ่นบางที่วางรอเอาไว้ด้วยมืออันสั่นเทา  

“คุณยังจะปากแข็งอยู่มั้ย!!?” ขวัญชีวาชูผลการตรวจอีเอ็นเอในมือ นัยน์ตาของเธอแดงก่ำ ความอดทนอดกลั้นพังพรืนลงในชั่วพริบตาเดียว 

เธอทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งน้อยเนื้อต่ำใจเขา ผสมผสานปนเปกันไปหมด แต่มันยังไม่หนักหนาเท่ากับความรู้สึกผิดระคนสงสารลูก ที่ไม่เคยรู้เลยว่าใครเป็นแม่แท้ๆ ของแก 

ทันทีที่ผลการตรวจยืนยันว่าตาพีทเป็นลูกชายของเธอจริงๆ หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนพื้น หมอเหน่งซึ่งรอผลการตรวจด้วยกันเข้ามาประคอง แล้วกอดให้กำลังใจขณะหญิงสาวร้องไห้โฮน้ำตานองเต็มไปใบหน้า 

เธอใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะฟื้นคืนสติสัมปชัญญะว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จนกระทั่งตระหนักได้ว่าควรจะมาเจอกับภิชชาวรรธซึ่งๆ หน้า 

ภิชชาวรรธเอ่ยอะไรไม่ออก ได้แต่นิ่งงันราวกับรูปปั้น 

กำปั้นเล็กๆ ทุบแผ่นอกอันแน่นหนัดด้วยมัดกล้าม พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น 

“คุณมันโคตรใจร้ายเลยรู้ตัวมั้ย คุณใจร้ายทั้งกับเอยกับลูก คุณทนเห็นเราเจอหน้ากันแต่ไม่รู้สถานะแท้จริงของกันและกันได้ยังไง” เธอถามเขาทั้งน้ำตา อยากจะทุบตีทำร้ายเขาแรงๆ กว่านี้ หากแต่ร่างกายกลับอ่อนปวกเปียกด้วยความเจ็บช้ำที่กัดกินหัวใจนับตั้งแต่ตอนที่เห็นผลยืนยันตรวจดีเอ็นเอเมื่อวาน 

คืนทั้งคืนเธอข่มตานอนให้หลับไม่ลงเลยสักนาทีเดียว ครุ่นคิดเรื่องของลูก โกรธ น้อยใจ ผิดหวัง ทั้งกับภิชชาวรรธ รวมถึงทุกคนในครอบครัวที่พยายามปิดบังเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตกับเธอมาตลอด 

ร่างกายของเธอค่อยๆ ทรุดลงอย่างอ่อนเรี่ยวแรง หากแต่ชายหนุ่มรีบคว้าเอาไว้ แล้วช้อนร่างอย่างง่ายดายเพื่อพาไปนั่งบนโซฟากว้าง โดยที่เขาทำได้เพียงคุกเข่าบนพื้นตรงหน้าของเธอ อกบีบรัดจนพูดอะไรออกมาไม่ได้เลยสักคำ 

“คุณทำแบบนี้ทำไม ปิดบังเรื่องตาพีทกับเอยทำไม!” 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว