เมืองใหญ่ในค่ำคืนที่ฝนโปรยปราย เงาแสงไฟจากถนนสะท้อนผ่านหยดน้ำที่เกาะกระจก เสียงไซเรนจากรถตำรวจดังก้อง ท่ามกลางความมืดมิดของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
กรินทร์ก้าวลงจากรถตำรวจ มือที่กำแน่นอยู่ในถุงมือหนังสีดำ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในดวงตาคม เขามองไปยังที่เกิดเหตุ อาคารสูงร้างที่ถูกปิดตายด้วยโซ่เหล็ก แต่ด้านในกลับเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบของทีมสอบสวน
“นี่มันเป็นไปไม่ได้…แผนที่หายไปสามเดือน อยู่ที่นี่งั้นเหรอ?” ลูกทีมคนหนึ่งพูดขึ้นพลางชูหลักฐานในซองพลาสติกใส
“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” กรินทร์ตอบเรียบๆ น้ำเสียงนิ่งเฉียบ “นี่คือคำท้าทาย”
ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น กรินทร์หยิบมันออกมา สายเรียกเข้านิรนามบนหน้าจอทำให้เขาชะงัก ก่อนจะกดรับสาย เสียงปลายสายฟังดูทุ้มต่ำและน่าขนลุก
“คุณนักสืบ…คุณมาได้ช้ากว่าที่ผมคิดไว้”
กรินทร์นิ่งงัน แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น เขารู้ทันทีว่าเสียงนี้เป็นของใคร
“ลูคัส…” ชื่อนี้หลุดออกมาจากริมฝีปากเขาแทบจะทันที ความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นในหัว เขาเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน ไม่ใช่ครั้งแรก… และไม่ใช่ในฐานะคนร้ายทั่วไป
“ผมแค่เริ่มเกมที่คุณรอคอย…หวังว่าคุณจะสนุกกับมันนะ กรินทร์”
สายถูกตัดอย่างรวดเร็ว กรินทร์กำโทรศัพท์แน่น ในใจเต็มไปด้วยคำถามและความหวั่นไหวที่ไม่อาจแสดงออกให้ใครเห็น
เขารู้ดีว่า ลูคัสไม่ใช่คนธรรมดา เขาคืออัจฉริยะที่ไม่เคยมีใครจับได้ แต่สิ่งที่กรินทร์ไม่เคยเข้าใจคือ…ทำไมลูคัสถึงรู้จักเขาในแบบที่แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เข้าใจ
และนี่คือจุดเริ่มต้นของเกมที่เดิมพันด้วยชีวิต ความจริง และหัวใจของพวกเขาทั้งคู่