“กองพล” ผู้สะกดคำว่า “อ่อนโยน” ไม่เป็น ส่วน “ใกล้รุ้ง” เธอผู้กำลังมีชีวิตที่สดใสหลังเรียนจบ แต่ก็ต้องมาเจอกับคน “โฉด” อย่างนายเหมืองกองพล แล้วเรื่องระหว่างทั้งคู่จะเป็นยังไง เมื่อเริ่มต้นด้วยการ “ฉุด!”
—————-
“บอกฉันมาสิว่าเธอไม่ได้ท้องกับมัน” พอดึงลากออกมานอกบ้าน เขาก็ปล่อยมือที่จับกระชากดึงออกมาจับที่หัวไหล่เล็กเขย่าแรงๆ เพื่อเอาคำตอบจากหญิงสาว
“แล้วทำไมคะ จะท้องกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณหิน ปล่อยรุ้งค่ะ อย่ามาทำแบบนี้กับรุ้ง รุ้งไม่ใช่ของคุณ ไม่ใช่นางบำเรอหรือของเล่นของคุณแล้วค่ะ” เธอปัดแกะมือเขาออกจากหัวไหล่ทั้งสองแล้วผลักเขาออกไปให้ห่างตัวเอง
”เธอใจร้ายกับฉันมากนะรุ้ง ขนาดฉันโดนยิงเกือบตาย เธอก็ไม่คิดจะมาดูแลฉัน มาเยี่ยมฉัน”
“ก็ไม่เห็นตายนี่คะ ก็เห็นคุณหินสบาย แข็งแรงดี”
“แข็งแรงดีเหรอ เธอดูแผลก่อน ฉันเกือบตายนะรุ้ง” เขาเจ็บกับคำตอบของหล่อนพร้อมกับถลกถอดเสื้อยืดสีดำคอวีของตัวเองออกให้เธอดูแผลเป็นที่อกซ้ายตัวเอง
“ดูซะ! ดูแผลเป็นที่อกผัวเธอซะว่ามันใหญ่แค่ไหน เธอใจร้ายมากนะที่อยากให้ฉันตาย” ส่วนใกล้รุ้งถึงกับตกใจกับแผลเป็นที่หน้าอกของเขาจนเผลอตัวยกมือขึ้นลูบแผลของเขาอย่างลืมตัวและถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ยังเจ็บอยู่ไหมคะ?”
เธออดลูบไล้สงสารเขาไม่ได้ และรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้มาดูแลเขาในช่วงที่รักษาตัว เธอแหงนเงยหน้าสบตากับคนตัวสูงที่ก้มมองตัวเองก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น เมื่อน้ำตาอ่อนแอกำลังไหล ให้ตายสิ เธออ่อนแอทุกครั้งที่เจอเขา และหัวใจก็เจ็บปวดเพราะเขาเช่นกัน ทำไมห่างไปนานหลายเดือนขนาดนี้ยังไม่ตัดใจจากกองพลอีก
“เธอเป็นห่วงฉันใช่ไหมรุ้ง?” กองพลใจครึกครื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำถามอ่อนโยนและสายตาห่วงใยตัวเอง เขาจับมือเล็กที่ทาบทับอกตัวเองพร้อมกับอีกมือประคองดวงหน้าสวยให้หันกลับมาสบตาตัวเอง และเขาก็ได้เห็นว่ามันมีน้ำตาคลอ
“ร้องไห้ทำไม ฉันยังไม่ตายสักหน่อย มันผ่านมาแล้วทูนหัว” เขาป้ายมือสากเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมานอกดวงตาให้เธออย่างอ่อนโยน
อึก!
ใกล้รุ้งกลืนก้อนสะอื้นลงคอแล้วปัดมือเขาออกจากแก้มแล้วดันเขาออกห่างพร้อมพูดตอบกลับ
“ไม่ได้ร้องไห้เพราะคุณหินสักหน่อย ปล่อยได้แล้วค่ะ เรื่องของเราให้มันจบไปเถอะค่ะ ตอนนี้เราต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองแล้ว และรุ้งก็ไม่ได้ต้องการจะกลับไปเป็นของเล่นชั่วคราวของคุณหินอีกแล้วค่ะ ไม่ต้องการเป็นนางบำเรอรอให้คุณเบื่อแล้วเฉดหัวทิ้งอย่างไร้ค่าค่ะ”
เธอบอกเขาทั้งๆ ที่อยากโถมกายโอบกอดเขาเหลือเกินตอนนี้ คิดถึงโหยหาวงแขนแข็งแรงและอกแน่นๆ ของเขา และเพิ่งสังเกตตอนนี้เองว่าหน้าเขาซูบตอบลงกว่าเมื่อก่อน เขาผอมลง หรืออาจเพราะทำงานหนักถึงผอมโทรม หนวดเคราก็ขึ้นรกรุงรังเต็มหน้าไปหมดตอนนี้
ความครึกครื้นได้ห่อเหี่ยวอีกครั้งเมื่อเธอตอบกลับมา เขาเจ็บร้าวขึ้นมาเมื่อเธอไม่ต้องการตัวเองอีกแล้ว ไม่ต้องการช่างมันสิวะ ก็เขาอยากได้หล่อนนี่ และใกล้รุ้งก็เป็นเมียเขา เขาก้มมองท้องที่ซ่อนอยู่ในชุดคลุมท้องของเธอแล้วก็ถามถึงเรื่องพ่อของเด็กในท้องเธอ
“เด็กในท้อง ฉันหรือมันเป็นพ่อ”
เผียะ!
“คุณไม่มีสิทธิ์มาถามถึงพ่อของเขา คนใจร้าย!” เธอยกมือขึ้นตวัดแก้มสากจนหันไปตามแรงและกองพลก็สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอดเมื่อได้รับคำตอบเป็นลูกตบหนักๆ ของแม่คนตัวเล็ก
“โอเค รู้แล้วว่าเด็กในท้องคือลูกฉัน ไม่ใช่ลูกมันแน่นอนทูนหัว” เขาโยนเสื้อทิ้งแล้วตวัดแขนโอบกอดเธอเข้ามาหาแล้วย่อตัวยกอุ้มร่างอวบอิ่มขึ้นแนบอกทันที
ว้าย!
ด้วยความตกใจและห่วงว่าจะกระทบกระเทือนถึงลูกน้อยในท้องก็รีบตวัดแขนโอบกอดลำคอหนาของคนเถื่อนทันที
“ปล่อยรุ้งนะคุณหิน”
“ไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่องรุ้ง บอกฉันมาสิว่าทิ้งฉันไปทำไม หนีไปทำไม รู้ไหมฉันแทบคลั่งแทบบ้าเพราะเธอ รู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอแค่ไหน รู้ไหมรุ้ง” เขาสาวเท้าเดินลงส้นเท้าหนักๆ ตรงกลับไปทางบ้านตัวเองโดยไม่สนใจสายตาของคนงานที่เดินผ่านมา ส่วนใกล้รุ้งก็เขินอายสายตาคนงานก็ได้แต่ซุกหน้ากับอกแกร่งเปลือยเปล่าของเขา เขามันห่ามเหลือจะทนจริงๆ ทำไม...ทำไมกันต้องใจเต้นแรงกับท่าทางห่าม ดิบ ถ่อยของเขาด้วยเล่า.....