วริษาไม่นึกไม่ฝันว่าเธอจะกล้าถึงขนาดจูบเจ้านายจอมโหดอย่างจิณณ์ อยากโทษน้ำเมาก็โทษได้ไม่เต็มปาก เพราะเธอดื่มไวน์ไปเพียงแก้วเดียวเท่านั้น อย่างนั้นคงได้แต่โทษความรักล้นใจที่เธอมีให้เขามาเนิ่นนาน ฉวยโอกาสงานเลี้ยงของบริษัท แล้วอาศัยความเมาบังหน้า เข้าไปจูบชายหนุ่มในตอนที่คนอื่น ๆ ในบริษัทออกจากห้องจัดเลี้ยงไปกันหมดแล้ว
ริมฝีปากของจิณณ์นุ่มมาก กลิ่นน้ำหอมราคาแพงของเขาหอมฟุ้งในอากาศอุ่น ๆ ที่ลอยอวลอยู่รอบกายของทั้งคู่ เจือกลิ่นไวน์หวาน ๆ และกลิ่นบุหรี่จาง ๆ แต่เมื่อชายหนุ่มเริ่มตวัดลิ้นพัวพัน วริษาก็ได้สติขึ้นมาและเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ เธอแทบจะหายเมาเป็นปลิดทิ้ง แล้วความกลัวจะเสียงานดี ๆ อย่างนี้ไปก็เกิดขึ้นในหัว
หญิงสาวผลักเจ้านายออกด้วยความหวาดหวั่น เธอวิ่งทะยานออกมาหน้าร้านเหล้าที่เพื่อนร่วมงานกำลังยืนรอเพื่อจะกลับบ้านพร้อมกัน มองหาหนทางรอดจากเรื่องนี้ก่อนที่จะโดนไล่ออกจากงาน แล้วจึงเห็นหมาหน้าตาใจดีที่กำลังนอนหมอบอยู่หน้าร้าน มันเหลือบตามองเธออย่างหวาดระแวงเพราะวิ่งออกมากะทันหัน วริษาไม่คิดอะไรมากไปกว่าค่าเช่าห้องที่กำลังจะต้องจ่ายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ถ้าโดนไล่ออกจากงานเธอก็คงไม่มีเงินจ่าย ไหนจะเครื่องสำอางที่สั่งจองไว้และต้องจ่ายสิ้นเดือนนี้ อีกทั้งยังมีค่างวดโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งผ่อนไปสองเดือน
วริษาเม้มปากแล้วตัดสินใจได้ในทันทีที่เห็นเจ้านายเดินออกจากร้านมา เธอก้มลงไปช้อนหน้าหมาตัวนั้นขึ้นมาจูบเต็มรัก ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเพื่อนร่วมงานเกือบทั้งแผนก แต่คนที่ดูจะตกใจมากที่สุดเหมือนจะเป็น...คุณจิณณ์ ดีแล้ว ให้เขาเข้าใจไปว่าเธอเมาแล้วจูบมั่วไปหมดคงดีกว่า
ไม่อย่างนั้น...งานก็จะหาย ผู้ชายก็จะอด