“สองตระกูลไม่อาจญาติดี ไม่มีทางหลงรักลูกศัตรู”
แก้วกัลยา หน้าที่ของฉันคือหลอกเขาให้ตกหลุมพรางแล้วยอมแต่งงาน “เขาเป็นลูกคู่แข่งที่ห้ามรัก ฉันต้องก้มหน้าแบกรับหน้าที่ภรรยาทั้งที่รู้ว่าเขาเกลียด"
อัศวนัย กฎของเขาคือห้ามหลงรักลูกสาวศัตรูที่หลอกให้เขาติดกับดักโง่ ๆ เธอมันจอมมารยาร้ายกาจ ในเมื่ออยากเป็นภรรยาเขามากก็เป็นซะแต่จะได้รับการต้อนรับที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
สปอยเบา ๆ
“อาบน้ำแล้วใส่ชุดนี้”มือหนาขว้างชุดลูกไม้สีดำเนื้อผ้าเบาบางกับถุงน่องตาข่ายลงพื้นกระทบชายกระโปรงชุดเจ้าสาวสีขาวประดับคริสตัล หน้าสวยก้มมองเสื้อผ้าที่เขาต้องการให้ใส่แม้ขยุกขยุยก็รู้ได้ว่ามันโป๊
“ฉันมีชุดนอนของฉันเอง”ปลายเท้าเรียวเขี่ยชุดนอนเซ็กซี่ของเขาออกให้พ้นทางแล้วเดินหน้ามุ่ยเหล่มองเคือง อัศวนัยรีบลุกขึ้นปรี่ไปกระชากแขนเธอให้หันกลับมาคุย
“นี่ต่างหากชุดนอนของเธอ จะใส่ดี ๆ หรือจะให้ใส่ให้”เขาเหลือบมองไปทางชุดนอนเซ็กซี่บนพื้น
“อย่าบังคับ ฉันแต่งงานมาเป็นเมียไม่ได้เป็นทาส!”
“อยากแต่งงานด้วยนักก็ต้องยอมรับสภาพเมียทาสให้ได้และอย่าได้คิดว่าจะอยู่สุขสบายคุณยังต้องแบกรับการตอบแทนที่สาสมกับความเจ้าเล่ห์ของคุณอีกเยอะ” ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มร้ายกาจทำเอาคนมองเสียวสันหลังวาบก่อนงานแต่งงานจะเริ่มเขาคำขู่ของเขาไม่ทำให้เธอรู้สึกอะไรแต่หลังแต่งงานกลายเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็เหมือนว่าเธอจะตกอยู่ใต้อาณัติของเขาเต็มตัวจะบีบก็ตายจะคลายก็รอดนั่นคือสิ่งที่เขากระซิบข้างหูเธอตอนสวมแหวนแต่งงาน
“ฉันไม่ใส่”หน้าสวยเชิดขึ้นจ้องหน้าสามีหมาด ๆ อย่างท้าทาย คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างยียวนคลายมือออกจากแขนเจ้าสาวแล้วหันหลังเดินกลับไปที่เตียงนอน
“ได้ งั้นก็แก้ผ้านอน”
“คุณบังคับฉันไม่ได้”
“ไม่บังคับอยู่แล้วก็แค่ถ้าคุณใส่ชุดนอนผมก็จะถอดมันออกให้หมด”กายหนาหันกลับมามองด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่มกวาดสายตามองเจ้าสาวแสนสวยอย่างเจ้าเล่ห์
“อย่ามายุ่งกับฉัน”แก้วกัลยานิ่วหน้ากลืนน้ำลายหนืดลงคอทำใจดีสู้เสื้อ
“เป็นผัวเมียก็ต้องแก้ผ้าเอากันแปลกตรงไหน ช่วยทำหน้าที่ภรรยาให้สมบูรณ์หน่อย ผมจ่ายค่าตัวคุณไปตั้งสามสิบล้านเลยนะ”