ก็แค่เปลี่ยนจากมีดสปาต้า แล้วหันมาจับมีดแกะสลัก มันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว เพื่อผู้ชายแล้วเธอของัดมารยาหญิงมาใช้หน่อยแล้วกัน
‘เมื่อยหนอ ตะคริวหนอ แต่ต้องอดทนหนอ’ ภายนอกที่กำลังนั่งปักผ้าด้วยท่วงท่าอ่อนช้อย แต่ภายในเธอกลับกำลังร่ำร้องอย่างหนัก และเกือบจะร้องออกมา เมื่อเข็มแหลมๆ ที่ปักลงไปบนผ้ามันดันเลยไปปักบนนิ้วของเธอด้วย
จึ๊ก! เข็มที่ทิ่มโดนเนื้อ ทำเธอสะดุ้งเฮือก
‘เพื่อผู้ชายหนอ’
จึ๊ก! เธอเม้มปากพลางกลืนน้ำลายข่มความเจ็บ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือลงมาเช็ดเลือดที่กางเกงเร็วๆ ครั้นพอเห็นว่าเขาหันมามอง เธอก็รีบหันไปส่งยิ้มอีก แต่ทันทีที่เขายิ้มตอบ ความบรรลัยก็บังเกิด
จึ๊ก!
‘นิ้วเดิมเลยเหนอ’
***
“ตอนหนูเมา พี่อุ้มหนูไปนอนได้ แต่พี่ตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ หนูทำอย่างพี่ไม่ได้หรอกนะ เอาไงดีวะ อุ้มก็ไม่ได้ ประคองก็คงทุลักทุเลไม่ไหว” เธอมองสรีระคนตัวโตอย่างใช้ความคิด
“จริงๆ หนูก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้พี่นอนอยู่ตรงนี้ใช่ไหมล่ะ” สิ้นเสียงคนไม่อยากทำก็ก้มลงไปจับข้อเท้าทั้งสองข้างของอีกฝ่าย แล้วออกแรงลาก
“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้พี่เมา ใครเมาก่อนคนนั้นแพ้ คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง โอ๊ะ! คนที่แพ้ก็ต้องให้คนชนะอย่างหนูดูแลแบบนี้แหละ”
“เฮ้ย! เธออุทานหน้าตื่นด้วยความตกใจ เมื่อคนถูกลากจู่ๆ ก็ชักเท้ากลับ โดยที่คนลากไม่ทันตั้งตัว สุดท้ายจึงเสียหลักล้มลงบนตัวเขา และราวกับฉากโรแมนติกในละคร เมื่อปากเธอดันชนเข้ากับปากเขาพอดิบพอดี ความตกใจทำให้คนล้มพยายามดันตัวลุกขึ้น แต่กลับถูกคนเมากดท้ายทอยจนริมฝีปากแนบชิดยิ่งกว่าเดิม
"หลบหน้าพี่ทำไม” เขาผละจากริมฝีปาก แล้วเลื่อนมาซุกไซ้และขบเม้มเบาๆ ที่ติ่งหู
“ทำไมไม่รับสายพี่” ยังไม่ทันตอบคำถามแรก เขาก็โพล่งคำถามที่สองขึ้นมาติดๆ พร้อมกันนั้นก็เลื่อนใบหน้ามาซุกไซ้ที่ลำคอระหง
“หนู...”
“รู้ไหมเด็กดื้อต้องโดนลงโทษ โทษฐานที่หลบหน้าแล้วก็ไม่ยอมรับสายพี่”
“แต่หนูไม่ใช่เด็กสักหน่อย”
“อืม...เท่าที่พิสูจน์มาเมื่อคืน ก็ไม่เด็กแล้วจริงๆ น่าจะเรียกว่าเด็ดมากกว่า”
“พี่ตุล”
“ทำไมล่ะ พี่ก็แค่พูดไปตามความรู้สึก อีกอย่าง...” แค่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน คนร้อนตัวก็รีบแทรกขึ้นมา
“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ หนูไม่ได้...” พูดไม่ทันขาดคำ เขาก็เป็นฝ่ายแทรกขึ้นมาบ้าง
“ที่พยายามหลบหน้าพี่ อย่าบอกนะว่าเธอจะไม่รับผิดชอบ”
“คะ?”
“ในเมื่อพี่เป็นของเธอแล้ว ก็อย่าฝันว่าจะเขี่ยพี่ทิ้งได้ง่ายๆ”
“คะ?” เสียงเธอสูงขึ้นอีก
“จำเอาไว้ เธอเป็นของพี่ เหมือนกับที่พี่ก็เป็นของเธอ เราเป็นของกันและกัน เพราะงั้นอย่างคิดหนี หรือแม้แต่หลบหน้าพี่อีก” คนพี่พึมพำขณะยังคงคลอเคลียเธอไม่ห่าง ริมฝีปากที่กำลังขยับชิดใบหน้าและลำคอระหงทำคนน้องสะเทิ้นสะท้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามประคองสติ ไม่หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามนั้น
“พี่ตุลคะ” คนถูกซุกไซ้เบี่ยงหน้าหลบ พร้อมกับพยายามดันหน้าคมคร้ามให้ออกห่าง
“หืม” คนดื้อด้านครางรับ แต่ก็ยังไม่วายซุกไซ้ต่อ
“หนูมีเรื่องจะสารภาพค่ะ” เธอหยุดคิดก่อนโพล่งออกมาในที่สุด
“เรื่องที่เธอวางยาพี่น่ะเหรอ”
“พี่รู้?”
“อืม”
“แต่พี่ก็ยังกินเข้าไปเนี่ยนะ”
“งั้นพี่ก็ต้องรู้สิว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันเป็นเพราะผลข้างเคียงจากยา” คำพูดของเธอทำคนที่กำลังซุกไซ้ยอมหยุด แล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าคนพูดแทน
“เพราะยา?” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว
“หนูขอโทษ แล้วพี่ก็ไม่ต้องรู้สึกไม่ดีหรอกนะที่พี่เอ่อ...หื่น เพราะมันไม่ได้เกิดจากพี่ แต่มันเป็นเพราะฤทธิ์ยา” เธอประดักประเดิดจนพูดออกไปไม่เต็มปาก แต่มันกลับทำให้คนฟังเปิดปากหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆ เธอว่าพี่หื่น?”
***
“อ่า...งั้นต่อไปหนูก็เป็นตัวเองได้แล้วสิ”
“แล้วเธอเคยไม่เป็นตัวเองด้วยเหรอ” เขาเลิกคิ้วล้อเลียน ในขณะที่เธอก็รีบแย้งโดยไม่ยอมแพ้
“ที่ผ่านมาหนูคีพลุคเป็นกุลสตรีพี่ก็เห็น”
“ไม่มีกุลสตรีที่ไหนแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายหรอกนะ...จริงไหม” เธอตั้งท่าจะอ้าปากถกเถียง แต่ภาพที่ตัวเองจงใจยั่วเขาเมื่อวันก่อนดันแวบขึ้นมาในหัว จึงต้องแก้เก้อด้วยการต่อว่ากลับไป
“งั้นพี่ก็ควรจะบอกตั้งนานแล้วสิ ไม่ใช่ปล่อยให้หนูแอ๊บอยู่อย่างนั้น ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เนียนเลยสักนิด”
“จะบอกทำไม แอ๊บๆ แบบนั้นก็น่ารักดีออก”