ในทุกยุคทุกสมัยและไม่ว่าจะเป็นเชื่อชาติใดมักจะมีเครื่องรางของขลังหรือการนับถือ การเซ่นไหว้เหล่าทวยเทพที่คอยอำนวยอวยโชคให้กับเหล่าผู้คนอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะตระกูลเก่าแก่ที่สืบลูกสืบหลานมายาวนานอย่างที่ตระกูลบุญญานนท์โดยการนำของเจ้าสัวเผ่าภาคินที่ยึดถือตำนานเก่าแก่ที่เล่าขานกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเรื่องของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'อิงฮวา' [1]
อิงฮวาคือชายหนุ่มที่มีความพิเศษอย่างที่สุด นอกจากที่จะสามารถตั้งครรภ์ได้เหมือนผู้หญิงทั่วไปแล้วยังมีกลิ่นกายที่หอมเย้ายวน ตระกูลใดที่ได้ครอบครองอิงฮวาเอาไว้จะประสบความสำเร็จและพบเจอกับความมั่งคั่งอย่างไม่สามารถหยุดหยั่งเอาไว้ได้
แต่เดิม ‘บุญญานนท์’ ก็เป็นเพียงตระกูลเก่าแก่ที่สืบเชื้อสายมาจากขุนนางแผ่นดินใหญ่ มีตำนานที่เล่าขานว่าตระกูลนี้เคยครอบครองอิงฮวามาหลายต่อหลายครั้ง สามารถก้าวขึ้นไปเป็นขุนนางเอกของแต่ละยุคแต่ละสมัย หลังจากที่พานพบความรุ่งเรืองถึงขีดสุดก็ค่อยๆ ย่ำแย่ลง หลังจากที่ขาดการหนุนนำจากอิงฮวา ต้นตระกูลของบุญญานนท์ที่แผ่นดินใหญ่ก็เป็นเช่นนั้นมาหลายรุ่น
จนกระทั่งคุณเผ่าภาคินเจอกับทารกที่แผดเสียงอยู่ใต้ต้นอิงฮวาเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ตอนที่ไปรวมงานรวมญาติของตระกูลที่แผ่นดินใหญ่ เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยทำให้คุณเผ่าภาคินในเวลานั้นก้าวเท้าย่ำไปตามพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ และอุ้มเด็กชายตัวน้อยกลับเข้ามาในบ้าน
กลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ ทำให้คุณเผ่าภาคินหวนนึกถึงตำนานของต้นตระกูล แต่ต่อให้เด็กชายตัวน้อยไม่ใช่ ‘อิงฮวา’ คุณเผ่าภาคินก็ถือว่ามันคือวาสนาที่ได้พบ เขาจะเลี้ยงดูเด็กน้อยคนนี้ให้เติบใหญ่ขึ้นมาเป็นคนดี
หลังจากจัดการเรื่องตัวตนของเด็กน้อยเรียบร้อยแล้ว คุณเผ่าภาคินและลูกชายวัยหกขวบชื่อ ‘เผ่าภากร’ ก็เดินทางกลับมาที่กรุงเทพ
หลังจากนั้นธุรกิจของคุณเผ่าภาคินเริ่มดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย ห้างร้านต่างๆ หรือแม้กระทั่งธุรกิจใต้ดินหลายอย่างที่ไม่ถูกกฎหมายก็ด้วย
ทุกวันนี้คุณเผ่าภาคินกลายเป็นเจ้าสัวที่มีคนนับหน้าถือตามากมาย มีคฤหาสน์หลังใหญ่ท่ามกลางที่ดินเกือบร้อยไร่กลางเมืองหลวงประเทศ ลูกชายอย่างเผ่าภากรก็เติบโตขึ้นมาได้อย่างสง่างาม ในเวลานี้ก็เป็นนักธุรกิจที่นำเข้าส่งออกสินค้าจากต่างประเทศและกิจการก็กำลังเติบโตเป็นอย่างมาก
‘เดือนฉาย’ อิงฮวาในตำนานของคุณเผ่าภาคินก็เช่นกัน
เดือนฉายเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กหนุ่มใบหวานสวยหวาน ผิวพรรณงดงาม รูปร่างบอบบางแทบไม่ต่างจากเด็กผู้หญิง อีกทั้งผมที่ยาวสลวยไปถึงกลางหลังที่ถูกรวบเอาไว้ง่ายๆ ด้วยผ้าแพรสีแดง
ด้วยความเชื่อที่ว่าเดือนฉายคืออิงฮวา แม้ว่าเด็กหนุ่มจะมีตัวตนตามกฎหมายแต่คุณเผ่าภาคินก็เลี้ยงดูเดือนฉายเหมือนเด็กเล็กๆ แทบตลอดเวลา ไม่เปิดเผยใบหน้าของเด็กหนุ่มให้คนภายนอกเห็น เมื่อถึงวัยเรียนก็จ้างคุณครูผู้หญิงมาสอนเดือนฉายอยู่ที่บ้านพร้อมด้วยสัญญาที่รัดกุมที่สุด
เดือนฉายไม่มีเพื่อนคนอื่น โลกของเดือนฉายมีแค่พี่เลี้ยง คุณป๊าซึ่งก็คือคุณเผ่าภาคิน และเฮียเผ่าซึ่งก็คือเผ่าภากร ถึงแม้ว่ากับคนหลังสุดสัมพันธภาพมันจะแย่เอามากๆ แต่ทั้งหมดก็คือโลกใบนี้ของเดือนฉาย
มันเป็นอย่างนั้นจนเดือนฉายอายุยี่สิบสี่และเฮียเผ่าอายุสามสิบปี
คุณเผ่าภาคินป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่ได้และจากไปภายในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะจากไปคุณเผ่าภาคินย้ำนักย้ำหนาว่าให้เดือนฉายดูแลเผ่าภากรให้ดีในฐานะภรรยา ถึงแม้ว่าต่อหน้าคุณป๊าเฮียเผ่าจะรับปากแล้วว่าจะดูแลเดือนฉาย แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าคุณป๊าจะเขียนทุกอย่างลงไปในพินัยกรรมด้วย
เดือนฉายเห็นว่าเฮียเผ่าโกรธมากก็ในวันนั้น วันที่คุณอานพดลเข้ามาที่บ้านบุญญานนท์เพื่ออ่านพินัยกรรม ตอนที่รู้ว่าเฮียจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างของคุณป๊าก็ต่อเมื่อเฮียแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับเดือนฉายเท่านั้น
คำเตือน
เนื้อหาของเรื่อง
เน้นสร้างความหน่วงใจและปวดตับแก่ผู้อ่าน
มักเน้นความทรมานทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความเศร้า
อารมณ์แง่ลบต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งทางกาย
ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
มักจะเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้รู้สึกหวาดระแวง รู้สึกผิด รู้สึกไม่มีค่า รู้สึกแย่
กลัวว่าจะต้องสูญเสียอีกฝ่ายไป เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่บั่นทอนจิตใจ
ตัวละครมีภาวะวิตกกังวล
Intersex/Psychological Torture /Possessive Behavior
เนื้อเรื่องเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน
ผู้คนและสถานที่ที่ถูกกล่าวถึงไม่มีอยู่จริง
ตรรกะและความคิดของตัวละครเป็นไปตามที่ผู้เขียนวางโครงเรื่องเอาไว้เท่านั้น
หลายตัวละครอาจจะไม่ได้มีความคิดอ่านเป็นไปตามค่านิยมในสังคม
ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปค่ะ
** นายเอกของกลิ่นกานต์อาจจะโง่ พระเอกของกลิ่นกานต์อาจจะปากหมา นักอ่านที่ไม่ชอบแนวนี้สามารถผ่านเรื่องนี้ไปก่อนได้นะคะ **
เชิงอรรถ
^ มาจากดอกอิงฮวาหรือดอกซากุระ