จบ รักแหลกสลาย
25
ตอน
9.9K
เข้าชม
35
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
109
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
ปีสองเขาขอนอนกับฉัน “ถ้าฉันแก้งานให้ แล้วเธอยอมแก้อย่างอื่นไหมล่ะ” สามปีถัดมาฉันผลักไสเขาอออกจากชีวิต “ดารินลูกใคร?” “ใครทำก็ลูกคนนั้นสิ!” เขาไม่เชื่อว่านั่นคือลูก ฉันจึงปล่อยเขาไปในทางที่เขาเลือก

 

 

มินทากา หรือ (มิ้นต์) เดินทางมาเรียนไกลถึงต่างจังหวัดโดยเลือกมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้เขาใหญ่ เพราะค่าเทอมที่แสนถูกในคณะการจัดการอุตสาหกรรม เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยรักเรียน แต่ว่าเมื่อเธอมีแฟนคนแรกกลับยอมนอกับเขาง่าย ๆ... 

 

ราเมศ รามณรงค์ (ราม) หนุ่มไฮโซที่อยากหนีที่บ้านมาเรียนไกล เพื่อหนีคำบ่นของพ่อ และแม่ที่จำกัดการใช้เงินและเที่ยวเตร่อย่างสุขสบาย เพราะอยู่ห่างสายตา กับบัตรแบล็กการ์ดที่วงเงินไม่อั้นที่มารดามอบให้ก็ทำให้เขาใช้ชีวิตที่หรูหรากว่าใคร ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ 

เรื่องของฉันกับเขามันเริ่ม...ตอนไหนนะ...อ๋อตอนปีหนึ่งลงเรียนภาคฤดูร้อนงานตะไบสินะ... 

 

รามTalk... 

ผมเรียนเอกเดียวกับมิ้นต์ แต่คนละสาขา มิ้นต์อยู่จัดการธุรกิจ ส่วนผมอยู่จัดการอุตสาหกรรม ผมจีบเธอช่วงเรียนตะไบ ที่ต้องฝนเหล็กให้เป็นค้อนตีกิ๊บสายไฟเมื่อปิดเทอมใหญ่ปีหนึ่ง ‘ใช่ก็อีค้อนนี่แหละทำให้ผมกับเธอต้องมีสัมพันธ์กันทั้งที่ไม่เคยสนิทกันมาก่อน’ 

 ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เมื่อเธอทำมันเบี้ยวแล้วขอร้องให้คนอย่างผมช่วยเธอ ‘ไอ้ผมมันเป็นพวกที่ใบหน้าใจดี แต่กลางคืนชอบตีกระหรี่เป็นงานอดิเรกซะด้วยสิ’ แม้จะมาไกลถึงเขาใหญ่ก็ตาม   

 

มิ้นต์ talk... 

ฉันเป็นพวก introvert ชอบเก็บตัว มีโลกส่วนตัวสูง แต่นั่นคือภาพที่ฉันสร้าง ที่จริงฉันไม่ค่อยมีเงินต่างหาก กับแค่เงินกู้ยืมเรียนที่ให้ค่าครองชีพไม่กี่บาท อาหารของฉันน่ะเหรอก็มาม่าไข่ต้มเป็นประจำ กินแค่พอกันหิวเท่านั้น  

แต่เมื่ออาจารย์ปู่ขู่เล็กน้อยว่าหากฉันทำไม่ผ่าน วิชานี้ต้องเรียนลงใหม่ เท่านั้นฉันก็แทบร้องไห้ อีกอย่างช่วงนี้ฉันก็ป่วยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบอยู่ด้วย  

“รามนายช่วยแก้งานให้ฉันหน่อยได้ไหม” ฉันยื่นแท่งเหล็กรูปที่ตะไบเป็นสามเหลี่ยมเบี้ยว ๆ ให้กับราม ผู้ชายที่ดูคล้ายจะสุภาพที่สุดแล้ว ฉันยังแอบชื่นชมเขาอยู่บ่อย ๆ  

“ถ้าฉันแก้งานให้ แล้วเธอยอมแก้อย่างอื่นไหมล่ะ” คำพูดสองแง่สองง่ามหลุดจากปากผม ที่มันทะลึ่งเสียจนชินปากจนลืมไปว่า มิ้นต์ตอนนี้หน้ามู่ทู่น้ำตาปริ่มที่ขอบตาลงมาทุกที ‘ช่วยไม่ได้ นั่นแหละสันดานห่ามและหื่นของผม’ แต่ด้วยความสงสารผมจึงเลิกล้อเล่นแล้วยื่นมือช่วย  

“ทำให้ก็ได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ไปซักผ้าที่หอให้ฉันด้วยนะ” ผมเกลียดที่สุดคือซักผ้า ถ้าให้แก้ผ้าผมถนัดที่สุดแล้ว แต่ก็เลิกแกล้งเธอก่อนดีกว่า ก่อนที่ผู้หญิงตรงหน้าจะขี้มูกโป่ง  

งานเสร็จแล้วแต่ว่าผมยึดเอาไว้ก่อน เพื่อต่อรองให้เธอไปทำงานให้ผมแลกกัน แต่ผมเห็นท่าทางโก๊ะ ๆ แล้วก็อดแกล้งไม่ได้  

8:00 น. วันเสาร์ ในคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยชั้นบนสุด ห้องหมายเลขแปดเป็นห้องที่กว้างและแพงที่สุด ใช่มารดาสุดที่รักของผมซื้อไว้ให้ผมได้พักผ่อนอย่างสบายใจ มีเสียงกดกริ่งหน้าประตู 

ติ้งต่อง!!!  

ครั้งแรกผ่านไป ผมยังไม่ลุก ‘ลุกไหวก็บ้าแล้ว’ จะลุกไหวได้ยังไงผมเพิ่งสตรีมเกมหลับไปตอนตีสี 

ติ้งต่อง!!!  

ครั้งที่สองผ่านไป ผมขยับตัวเล็กน้อยแล้วก็ลืมไปแล้วว่าแก้ผ้านอน คิดว่าเป็นไอ้ยักษ์ซื้อโจ๊กมาให้ จึงไม่ได้คิดจะปกปิดอะไร เดินโทงเทง อวดเจ้าโลกที่มันตื่นตัวในตอนเช้าชี้นำเหมือนเรดาร์ ราวกับหาหลุมของมันเจอแล้ว  

“ไอ้ยักษ์...มึงตื่นตั้งแต่ไก่โห่หรือไง เมื่อคืนมึงก็หลับพร้อมกู” เสียงสบถทั้งที่ตายังไม่ลืมด่าเพื่อนนำไปก่อน แต่กลับได้ยินเสียงกรีดร้องเหมือนผีเปรตกลับมา  

กรี๊ดดดด....!!!!  

ใช่ครับเธอเห็นของผมหมดเลย แล้วกว่าสมองน้อย ๆ ของผมจะรับรู้การสั่นสะเทือนผ่านเสียงกรีดร้องของเธอ ทุกคนก็เริ่มเปิดประตูออกมา และด้วยความไวผมกระชากตัวเธอเข้ามาชิดตัวผมแล้วรีบปิดประตู ก่อนที่ใครจะคิดว่าผมเป็นไอ้โรคจิตอวดเจ้าโลกผู้หญิง  

“เงียบ...ไม่งั้นเธอต้องรับผิดชอบไอ้นี่ที่มันตกใจจนตั้งโด่” ผมโทษเธอ ทั้งที่จริงมันก็ตื่นขึ้นเคารพธงชาติเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่เหมือนจะได้ผลเธอหุบปากสนิทพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศ ทำให้ผมรู้สึกว่าน่ารักเป็นบ้า... 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว