คำโปรย
เริ่มต้นด้วย ‘ความแค้น’ ทว่ากลับลงท้ายด้วย ‘ความรัก’ เพียงเพราะความเข้าใจผิด...เพียงเพราะ ‘แก้แค้น’ ผิดคน กลายเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลยทีเดียว
สปอยล์
“คุณฆ่าพี่ชายของฉันทั้งคน…คุณยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอีกเหรอ คุณมันใจดำอำมหิตที่สุด” หญิงสาวมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยสีหน้าแววตาวาวโรจน์
เพราะเขาคนนี้คือ ‘ผู้ร้าย’ ที่ขับรถชนพี่ชายของเธอแล้วหนีเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ทำให้เธอโกรธแค้นมาก ทว่าตอนนั้นกลับเอาผิดเขาไม่ได้เพราะไม่มีทั้งหลักฐานและพยานในที่เกิดเหตุ เนื่องจากช่วงเวลาที่ชายหนุ่มขับรถชนพี่ชายของเธอเป็นช่วงที่ผู้คนเข้านอนกันหมดแล้ว น่าจะประมาณเที่ยงคืนเห็นจะได้
เมื่อไม่มีหลักฐานเอาผิดผู้ร้ายอย่างเขาเธอจึงต้องทวงความยุติธรรมให้พี่ชายด้วยตัวเอง หลังจากสืบทราบว่าเขาคือผู้กระทำความผิด ด้วยการทำให้เขาหลงรักเธอนั่นเอง และทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ
“ผมไม่ได้ทำ จะพูดกี่ครั้งผมก็ยังยืนยันคำเดิม ทำไมคุณถึงไม่เชื่อผม” เสียงของชายหนุ่มหนักแน่นและดูจริงใจ ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายยังคงไม่เชื่อคำพูดที่เปล่งออกมาจากปากของเขาเลย
แน่นอน…คำพูดฆาตกรใครเขาจะเชื่อ คิดจะแก้ตัวอย่างไรก็ได้!
“ผู้ร้ายปากแข็งจริงๆ” หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าและแววตาแค้นจัด “ต่อให้คุณอมพระมาทั้งโบสถ์ฉันก็ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด ใช่สิ! ผู้ร้ายที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายกันเล่า ขืนยอมรับก็ถูกจับส่งตำรวจน่ะสิ”
“ทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ”
“ไปสารภาพกับตำรวจสิ ว่าคุณเป็นฆาตกรที่ขับรถชนพี่ชายของฉัน” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ทำให้อีกฝ่ายถึงกับทำหน้าราวกับแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียวและรู้สึกหนักใจ
“หลักฐานก็ไม่มี มากล่าวหาผมลอยๆ ได้ยังไง”
“ก็เพราะหลักฐานไม่มีนี่ละ ฉันถึงต้องมาทวงความยุติธรรมให้พี่ชายของฉันด้วยตัวเอง แล้วมอบบทเรียนที่แสนเจ็บปวดและราคาแพงให้คุณ คุณจะได้ลิ้มลองรสชาตินั้นเหมือนกับที่ฉันเคยเจอมา”
“ผมไม่นึกเลยว่าการที่คุณมาแกล้งทำดีกับผมเพราะต้องการแก้แค้นเท่านั้น มันคงสะใจคุณแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดพลางมีหยาดน้ำใสๆ ไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างด้วยความรู้สึกเสียใจ
“เท่านี้มันยังไม่สะใจฉันหรอก วันไหนที่คุณเข้าคุกวันนั้นฉันจะสะใจมากกว่านี้อีก และถ้าถึงวันนั้นพี่ชายของฉันคงตายตาหลับและหมดห่วง”
หญิงสาวประกาศด้วยแววตาที่แข็งกระด้างราวกับหินก็ไม่ปาน จนทำให้คนฟังถึงกับท้อใจ เพราะไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ยอมเชื่อเสียที ต้องให้เขาทำอย่างไรกันนะ ชักจะเหนื่อยใจแล้วสิ!
“ลาก่อนค่ะ คุณตุลธร สุทธาพิวัฒน์…แล้วเราไปเจอกันที่ศาลนะคะ” ภัคธีมาพูดจบก็เดินลากกระเป๋าออกไปจากบ้านของตุลธรทันที
ปล่อยให้ตุลธรมองตามไปด้วยแววตาเจ็บปวด เพราะตอนนี้ชายหนุ่มหลงรักอีกฝ่ายไปแล้วทั้งใจ ทั้งๆ ที่รู้ความจริงแล้วว่าเธอเข้ามาในชีวิตเขาเพื่อต้องการแก้แค้นให้พี่ชาย…แก้แค้นเขาโดยที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย และไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตนเองไปขับรถชนพุฒิพงศ์ตอนไหน เขาไม่เห็นจะจำได้เสียหน่อย
เหมือนตอนนี้ภัคธีมาได้ฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น ทำให้เขาหลงรักแล้วเดินจากไปก็ไม่ต่างอะไรกับปาดคอเขาให้ตายหรอก เพราะมันเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนมีดบาดเสียอีก เจ็บที่สุด!
.............................................