ใจของเธอค่อยๆร้าวรานก่อนจะแตกสลายอย่างไม่เหลือชิ้นดี เมื่อได้รู้ว่าเธอมีค่าเป็นเพียงตัวคั่นเวลารักษาแผลใจของเขาเพื่อรอใครบางคนกลับมาก็เท่านั้น ช่างไร้ค่าเหลือเกิน...

ปรัชญ์ ไพศาลอัศวกุล 

วิศวะกรหนุ่มในวัย 30 ปี ใบหน้าที่ดูขาวสะอาดในแบบที่หญิงสาวหลายๆคนยังต้องอายตามแบบฉบับคนที่มีเชื้อสายจีน ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เขาดูจืดชืดแต่อย่างใดเมื่อมองไปยังดวงตาเรียวยาวดุจดั่งพญาเหยี่ยวคู่นั้นที่รับสันจมูกที่โด่งเป็นสันและริมฝีปากบางนั้นได้อย่างลงตัว นอกจากรูปลักษณ์ที่ทรงเสน่ห์แล้วคงจะมีคารมอีกอย่างเสียกระมังที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนสามารถตกหลุมรักเขาได้อย่างไม่ยากนัก ไม่เว้นแม้แต่ “น้ำอิง” 

น้ำอิง ติระ 

นักศึกษาสาวชั้นปีสุดท้ายในวัย 21 ปี เธอใฝ่ดีและมีความฝันเลยเลือกที่จะจากอ้อมอกพ่อและแม่มาเพื่อตามล่ามัน จนมาเจอกับเขา... จะด้วยความบังเอิญ โชคชะตา หรือเวรกรรมไม่มีใครรู้ได้ ใบหน้าเรียวที่มีดวงตากลมโตทอประกายแห่งความหวังอยู่ในนั้นเสมอ จมูกเล็กที่ปลายรั้นขึ้นเล็กน้อยรับกับริมฝีปากอวบอิ่มนั่นเป็นอย่างดี มองรวมๆแล้วน้ำอิงไม่ได้สวยโดดเด่นแต่กลับเป็นความน่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน“น่าเอ็นดูจังเลยนะคะ” เสียงหวานของน้ำอิงพูดขึ้น ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งคลอเคลียกันอยู่บนเตียงกว้างในห้องสูทที่เป็นราวกับรังรักของเธอและเขาในยามนี้ น้ำอิงให้นิยามสถานที่แห่งนี้ว่าเป็นเช่นนั้น ร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลพิงเอนซบไปกับอกแกร่งของชายที่เธอรักดังดวงใจ รักเท่ากับชีวิตของเธอพลางบอกให้เขาได้ดูภาพของทารกตัวน้อยทายาทของซูเปอร์สตาร์ชื่อดังที่กำลังนอนคุดคู้ตัวอย่างน่ารักในภาพเซ็ตที่ถูกจัดถ่ายมาเป็นอย่างดีจากโทรศัพท์มือถือคู่ใจของเธอที่เขาเป็นคนซื้อให้ 

“น่ารัก” ปรัชญ์มองภาพจากจอสี่เหลี่ยมก่อนจะพยักหน้า เสียงทุ้มเสน่ห์พูดออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากมนของน้ำอิงเบาๆด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นเธอมองสบตาเขาด้วยความรัก เป็นเช่นนี้เสมอในทุกๆวัน ทุกเวลาที่เขาได้สบกับดวงตากลมสวยคู่นั้น เขารู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้ารักและบูชาเขามากเพียงใด 

“ถ้าพี่ปรัญช์มีลูกพี่ปรัชญ์อยากมีผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” หญิงสาวระบายยิ้มเขินอายกับจุมพิตที่แสนอ่อนโยนของเขา แม้นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทางเช่นนี้กับเธอแต่หัวใจของสาวน้อยในวัยยี่สิบเอ็ดยังคงเต้นแรงเสมอกับสัมผัสของเขา 

“คนแรกเป็นผู้ชายก็คงจะดีนะ” ปรัชญ์ตอบหญิงสาวตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ริมฝีปากที่บางเฉียบแม้แต่ผู้หญิงหรือแม้แต่น้ำอิงเองยังต้องอายนั้นช่างน่ามองเสียเหลือเกิน และน้ำอิงก็รู้ดีว่ามันช่างนุ่มนวลมากเพียงใดยามที่เขาจูบเธอ 

“อิงล่ะ” ปรัชญ์ถามต่อ คิ้วหนาสวยในฉบับผู้ชายของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกว่าเขาต้องการคำตอบจากเธอ 

“อิงก็ชอบเด็กผู้ชายเหมือนกันค่ะ แต่ผู้หญิงก็น่ารัก” เสียงหวานพูดบอกเขาด้วยแววตาเป็นประกาย น้ำอิงอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอและเขามีลูกน้อยด้วยกัน เจ้าตัวน้อยจะน่ารักมากเท่าใดกันหนอ คงจะน่ารักที่สุดเลยเสียกระมัง 

“งั้นเริ่มเลยไหมเด็กดี พี่ทำให้ได้นะ” ชายหนุ่มในวัยเลขสามพูดหยอกหญิงสาววัยมหาลัยในอ้อมกอดเขาอย่างอยากนึกแกล้งเธอ และมันก็ได้ผลไปเสียทุกครั้ง ไม่ช้าไม่นานหญิงสาวก็โอนอ่อนไปตามชั้นเชิงของเขาในที่สุด ไม่มีครั้งใดเลยที่น้ำอิงจะต้านทานหัวใจของตัวเองต่อปรัชญ์ได้ ไม่เลยแม้สักครั้ง 

ศาลาริมน้ำร่างของคนท้องอุ้ยอ้ายในวัยห้าเดือนกำลังนั่งจมอยู่กับความทรงจำในอดีตของตนเอง ดวงตาสวยซ่อนแววเศร้ามองไปยังดอกบัวสีชมพูที่บานสะพรั่งอยู่เต็มคลองในยามสายของวันนี้ บางดอกมีภุมรามาแย่งชิงหยอกเย้าดูดดื่มเอาน้ำหวานไปกันเสียให้ว่อน น้ำอิงอดที่จะเปรียบเปรยเสียไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็นดังดอกบัวกลีบบอบบางที่ยอมให้ภุมราหนุ่มอย่างพ่อของลูกน้อยในครรภ์ได้เชยชมเสียอย่างง่ายได้ หากไม่มีเหตุผลอื่นใดเลยนอกเหนือจากคำว่ารัก 

“พ่อเขาคงลืมแม่ไปแล้วลูกจ๋า” ใบหน้าเรียวที่มีแก้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างน่ารักก้มลงพูดกับลูกน้อยวัยห้าเดือนในครรภ์ด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น ปรัชญ์คงลืมเธอไปได้เสียสนิทใจตั้งแต่แรก ต่างจากเธอที่ยังจำทุกร่องรอยและความรู้สึกที่มีต่อเขาได้เสมอมา น้ำอิงเข้าใจดีว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นเช่นไร ในเมื่อเขามีคนที่ดีพร้อมยืนเคียงข้างกายเช่นนั้น คงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะเหลียวมองเธออีกต่อไป แม้จะพยายามทำใจแต่ทำไมหนอใจเจ้ากรรมจึงยังเจ็บปวดทรมานอยู่เสมอ ทุกครั้งที่คิดถึงภาพที่เขายืนอยู่ข้างใครคนนั้น และคิดว่าปรัชญ์รักผู้หญิงอีกคนมากแค่ไหนมันราวกับเธอหยิบมีดปลายแหลมมาปักหัวใจของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้ง แรงดิ้นเบาๆของลูกน้อยในท้องราวกำลังรับรู้ว่าคนเป็นแม่นั้นเจ็บปวดเพียงใดในเวลานี้   

 

*ตัวละครและเรื่องราวในเรื่องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ใด และไม่ได้เกิดขึ้นจริง เป็นเรื่องที่นักเขียนจินตนาการมาโดยทั้งสิ้น กรุณาอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 

 

พิมพ์ด้วยน้ำค้าง 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว