“แกเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของฉันก็ดีอยู่แล้ว งานไม่หนักมากจะ อยากไปบริหารโครงการเองทําไม งานแบบนั้นให้พวกผู้ชายเขาทําไปน่ะดีแล้ว” ถ้อยคําแข็งกร้าวของบิดาที่สาดใส่หน้าเมื่อเธอเข้าไปขอบริหารโครงการล่าสุดของบริษัทแทบทําให้แก้วกาญจน์อยากตายแล้วไปเกิดใหม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป
“ผู้หญิงอย่างแกจะไปทํางานแบบนั้นได้ยังไง คุมผู้ชายอีกเท่าไรใครมันจะเชื่อน้ำหน้าแก ของแบบนี้เขาต้องให้ผู้ชายทํา อยู่ข้างๆฉันเป็นผู้ช่วยส่วนตัวแบบนี้แกก็ได้ทํางานเหมือนกัน”
“จะต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร” แก้วกาญจน์เงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในกระจกบานกว้างตรงหน้า ผู้หญิงอายุสามสิบห้าทํางานหนักมาสิบปีเพื่อพิสูจน์ตัวเองแต่ไม่เคยได้เป็นอะไรเลยนอกจาก “ผู้หญิง” ที่บิดากดไว้ใต้ฝ่าเท้าไม่เคยได้รับการแนะนําว่าเป็นบุตรสาวเป็นเพียงผู้ช่วยส่วนตัวที่เหมือนเป็นแค่เงาและไม่มีตัวตน พลันถ้อยคําของเตชินทร์ก็แวบเข้ามาในห้วงคํานึง
“คุณเป็นคนเก่ง คุณควรมีโอกาสได้บินเดี่ยว ผมมีงานดีๆ รอคุณอยู่ ถ้าเพียงแต่คุณตัดสินใจที่จะเดินออกมาจากประเวศน์ พร็อพเพอร์ตี้” หรือนี่จะถึงเวลาที่เธอต้องเดินออกจากที่แห่งนี้ เวลาสิบปีที่ทํางานเพื่อแลกความรักที่ไม่เคยได้มา และอาจไม่มีวันได้มามันควรจะพอเสียที
แก้วกาญจน์มองหน้าตัวเองในกระจกเพื่อเรียกความมั่นใจ แล้วหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก เมื่อได้ยินเสียงขานรับจากปลายสายก็บอกไปเพียงสั้นๆ
“ดิฉันตกลงค่ะ ดําเนินการตามนั้นได้เลย”