“ผมไม่หมั้นกับคุณ…เรื่องคู่พันธะของเราจะไม่มีใครรู้ผมจะบอกครอบครัวว่าถูกคู่นอนกัด พ่อผมไม่ว่าอะไรหรอก แล้วคุณก็ทำตัวตามสบายเลยอยากชอบใครรักใครก็ไปได้เลย”
‘หากเขาไม่หมั้นเขาอาจจะไม่ตาย’ นักเขียนหนุ่มที่อยู่ในร่างของโอเมก้าเอาแต่ใจคิดเพียงเท่านั้น เขาเพิ่งจะสิ้นลมไปในโลกของความจริงไป ในเมื่อเขาได้มาเกิดใหม่แล้วเขาก็ไม่ยอมตายง่าย ๆหรอกนะ
เพลิงยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเชยคางของหนูปลื้มให้เงยหน้าขึ้นมามองเขา
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายรู้ได้ยังไงว่าวันนี้ฉันจะให้คุณแม่ไปคุยเรื่องหมั้นหมายของเรา แต่ขอให้นายจำไว้ว่ามันไม่สำเร็จหรอกนะ” ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจความหมายที่เขาจะสื่อ
“นายคิดว่าฉันจะยอมตกลงเพื่อให้นายไปยุ่งวุ่นวายกับวายุแล้วก็นรินทร์เหรอ” กล่าวจบอัลฟ่าร่างหนาก็เลื่อนนิ้วมือของตัวเองมาบีบเข้าที่แก้มนุ่มของโอเมก้าตัวน้อยทันทีจนทำให้เจ้าของร่างถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“เธอไม่มีทางไปขวางทางรักของสองคนนั้นได้อย่างแน่นอน”
“แอ่อุนไอ่ไอ้อักอม (แต่คุณไม่ได้รักผม) ” หนูปลื้มพยายามดิ้นรนขัดขืนหลังจากพูดจบ
“พูดอะไร…ฟังไม่รู้เรื่อง”
“อ่ออ่อยแอ้มอมอ่อนอิ (ก็ปล่อยแก้มผมก่อนสิ) ” เมื่อโอเมก้าร่างบางพูดจบก็ยกเท้าขึ้นเพื่อกระทืบที่เท้าของเพลิงทันที ทันให้อัลฟ่าหนุ่มต้องปล่อยมือของตนเองออกจากแก้มเนียน หนูปลื้มอ้าปากเล็กน้อยเพื่อขยับกล้าม
“คุณไม่ได้รักผม ผมก็ไม่ได้รักคุณแล้วเราจะหมั้นกันไปทำไม” โอเมก้าร่างบางพูดออกมาอย่างขุ่นเคืองที่ถูกบีบแก้มทั้งสองข้างจนรู้สึกระบม นี่ไม่คิดจะถนอมกันบ้างเลยหรือไง ตัวเขาก็เท่านี้
“เหอะ! มันก็จริง แล้วไงล่ะ อย่าฝันนะว่าฉันจะปล่อยนายไป ปลาบปลื้ม” เมื่อได้ยินชื่อของตัวเองที่หลุดออกมาจากริมฝีปากของผู้ชายที่อยู่ในจินตนาการ ก็พาลให้ใบหน้าของเขาถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมา