ชั้นชื่ออากิระ เป็นเด็กสาสมัธยมปลายที่กำลังจะจบการศึกษาอีกภายใน 1 เดือน สาเหตุการณ์ตายของชั้นก็เกิดมาจากภาวะหัวใจล้มเหลวซึ่งเกิดมาจากการการที่ออกกำลังจนเกิดเหตุ เนื่องด้วยการที่เป็นโรคหัวใจแล้วต้องมาวิ่งหนีสุนัขดุที่ชาวบ้านปล่อยไว้ทำให้ชั้นเสียชีวิตในที่สุด และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ชั้นได้เกิดใหม่ในต่างโลก
ชีวิตใหม่ที่ชั้นเกิดมามีพ่อแม่ที่คอยให้ความรักและดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ จนกระทั่งชั้นโตขึ้นชั้นก็ได้รู้ความจริงที่ว่า...
ครอบครัวของชั้นมันเป็นครอบครัวดยุกผู้ชั่วร้าย ขนาดทางราชาก็จำใจต้องเกรงในในอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจด้านการค้า การทหาร และด้านการเมืองที่มีผู้หนุนหลังมากมาย และด้วยการที่ขึ้นชื่อว่าดยุกชั่วเพราะการกระทำของพ่อของชั้นในโลกใบนี้ก็ทำตัวชั่วสมชื่อไม่ผิดเพี้ยน แต่ถึงอย่างไรการที่มีพ่อเป็นคนแบบนั้นลูกสาวอย่างชั้นก็คงถูกมองว่าเป็นคนชั่วในสายตาของทุกคนไปด้วย
ชั้นไม่เคยคิดที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะไม่มีใครยอมฟังคำพูดของชั้นหรอก ไม่มีเลย และมันไม่เคยมี เมื่อถูกตีตราว่าเป็นคนชั่วมันไม่มีความหมายเลยที่จะแก้ต่าง ไม่แม้จะมีช่องว่างให้พูด
ดังนั้นในช่วงเวลานี้ชั้นเลยได้แต่เอาเวลาที่โดดเดี่ยวไปกับการเรียนด้านมารยาท ด้านปัญญา ด้านดนตรี และด้านศาสตร์การยิงธนูเชี่ยวชาญจนไม่มีใครอาจเทียบได้ แต่มันนั้นไม่มีความหมายอันใดในเมื่อตนเองนั้นโดดเดี่ยว
ถึงมันจะช่วยไม่ได้ที่ชั้นเกิดมาในตระกูลแบบนี้ แต่ถึงด้วยการที่ชั้นเกิดมาในตระกูลดยุกชั่วมันทำให้มีศัตรูอยู่มากมายอยู่แล้ว เลยทำให้ชั้นต้องมีคนคอยคุ้มกันตลอดเวลาเพื่อป้องกันพวกนักลอบสังหาร
ในเมื่อตอนนี้ชั้นไม่มีอะไรจะเสียแล้วชั้นจึงได้สร้างกองกำลังของตนเองขึ้นมาภายใต้ชื่อ "อากิระ" หรือชื่อเก่านั่นเอง โดยทหารที่ชั้นสร้างขึ้นจะไม่เหมือนกับอัศวินทั่วไปเพราะทหารที่ถูกเกณฑ์ให้มาเป็นอากิระนั้นจะแบ่งอยู่เป็น 3 ประเภท
ประเภทแรกคือประเภทแนวหน้า หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า "ชิ" มันไม่มีความหายหรอก คำนี้แต่เรียกใช้เป็นพิธีเพียงเท่านั้น ประเภทนี้คือทหารชั้นแนวหน้าที่ต้องคอยยืนรับการรอบทุกรูปแบบ ดังนั้นอาวุธที่พวกเขาใช้จะแปลกกว่าอัศวินทั่วไปอย่างพวกขวานและกระบอก รวมถึงชุดเกราะที่มีความหนาชนิดที่ว่าดาบฟันไม่เข้าหากไม่ใช้ดาบเวทมนตร์ ชินั้นคือกำลังรบในการยืนหยัดต่อสู้กับศัตรูและบุกทะลวงได้ในยามที่ต้องการ
ประเภทที่สองคือประเภทสนับสนุน ประเภทนี้จะเรียกสั้นๆ ว่า "ไนท์" ชื่อมันเหมือนจะเป็นม้าเร็วหรือไม่ก็อัศวิน แต่แท้จริงแล้วหน้าที่หลักของกองกำลังนี้คือตัดเสบียง สืบหาข้อมูล แฝงตัว ลอบโจมตี ลอบสังหาร และชักจูงผู้คน ดังนั้นหน่วนนี้จึงถือว่าเป็นการสบันสนุนทางอ้อมแต่กลับได้ผลดีเยี่ยมต่อสถานการณ์ในการรบ
ประเภทที่สาม เป็นประเภทที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือนินจา ชื่อเรียกก็ตามชื่อของมันนั่นแหละ หน้าที่ของนินจามันจะมีอยู่ 3 หน้าที่โดยแบ่งออกเป็นหน้าที่ต่างๆ
หน้าที่แรกคือนินจาที่ใช้ธนู อันที่จริงมันก็สมควรจะเรียกว่าพลธนูแต่หน้าที่หลักของนินจาสายนี้คือลอบสังหารศัตรูที่มีความแข็งแกร่งมากในสนามรบ มันเป็นหน้าที่ที่สำคัญมากเพราะบุคคลบางคนนั้นสามารถต่อสู้กับทหารนับพันได้ ดังนั้นเลยจำเป็นต้องจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หน้าที่นี้จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุด
หน้าที่ที่สองคือนินจาลอบสังหาร พวกนี้จะเรียกว่าเป็นหน่วยลอบสังหารที่เน้นความเร็ว อาวุธหลักคือดาบคาตานะและอาวุธรองคือมีดสั้นและดาวกระจายที่จะถูกใช้ตามความถนัด การต่อสู้ของนินจากลุ่มนี้คือการจำกัดเป้าหมายให้เร็วและเงียบที่สุด และจำเป็นต้องหนีออกมาให้เร็วที่สุดก่อนอัศวินของศัตรูจะเข้ามาล้อม ดังนั้นหน้าที่นี้จึงเป็นการฝึกที่เข้มข้นมาก
และหน้าที่สุดท้ายก็คือ นินจาสายกับดัก นินจาประเภทนี้จะเป็นสายวางกับดักที่เน้นทำลายศัตรูเป็นวงกล้างเพื่อสนับสนุนการรบ หน้าที่นี้สำคัญมากเพราะมันเป็นกำลังรบที่แม้จะมีน้อยแต่สร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล โดยนินจาประเภทนี้จะเน้นสนับสนุนชิและไนท์ได้เป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องเอาใครมาเป็นทหารภายใต้สังกัดของชั้นก็คงเป็นการนำคนจากสลัมมาฝึก คนพวกนี้ชัดจูงง่ายอยู่แล้วเพราะหากตนเองสามารถอยู่ดีกินดีได้คนพวกนี้ก็ถือว่ายอมมาเป็นพวกแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ต้องลงสลักตราทาสเอาไว้เพื่อไม่ให้ขัดคำสั่ง คนพวกนี้เลยกลายเป็นคนจำพวกไม่กลัวตายอย่างแท้จริงเพราะชีวิตที่ได้เป็นทหารและชีวิตในสลัมนั้นแตกต่างกัน คงไม่มีใครอยากกลับไปมีตวามเป็นอยู่แบบเดิมก็คงเป็นเรื่องปกติ
และด้วยแผนการทุกอย่างที่ชั้นเตรียมการมาตลอดโดยได้รับการสนับสนุนจากพ่อของตัวเองอย่างลับๆ เพราะทหารกลุ่มนี้คือทหารที่เป็นทหารลับที่แม้แต่ทางราชาก็มิอาจทราบและสายลับของทางนั้นก็ถูกพวกนินจาเก็บแทบจะทุกวี่ทุกวันจนหลังๆ เริ่มไม่มีสายลับออกมาให้เห็นแล้ว
จนท้ายที่สุดเมื่อถึงคราวที่ชั้นอายุได้ 15 ปี นั่นก็ถึงเวลาที่ชั้นจะได้เข้าเรียนเพื่อสร้างคุณงามความดีให้ตระกูล และรู้สึกผู้คนในแวดวงชนชั้นสูง ทว่าชั้นจะทำแบบนั้นได้จริงๆ เหรอ?