คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย yaoi nc18+ มีฉากข่มขืน&สมยอม เเละฉากร่วมเพศค่อนข้างจะรุนเเรงไม่เหมาะสำหรับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า18ปีค่ะ
🌻บุคคลในภาพเเละสถาณที่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิยายของไรต์นะคะ เป็นเพียงจินตนาการที่ไรต์ปั้นเเต่งขึ้นมาเท่านั้น
🌻โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
🧡เเละขอขอบคุณนักอ่านหน้าใหม่เเละนักอ่านที่ติดตามมาจากนิยายเรื่องอื่นด้วยนะคะ ขอให้อ่านให้สนุกน้าาา อรรถรส💕
**** เรื่องลุ่มหลง ไรต์ได้เเต่งเเยกออกมาจากรวมเรื่องสั้น "จิตวิปลาสนะคะ" เนื่องจากมีคนคอมเมนต์+หลังไมค์กันเยอะมากๆว่าอยากให้ไรต์เเต่งเป็นเรื่องยาว ดังนั้นไรต์ก็เลยจัดให้ตามคำขอซะเลยยยย🎉🎉🎉🎉
💓รบกวนขอหัวใจจากนักอ่านที่หน้าเรื่องคนละดวงนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์มีเรี่ยวเเรงในการเเต่งนิยาย อิอิ🥰🥰
"เสี่ยจะให้โอกาสปั้นอีกครั้ง จะยอมกลับไปกับเสี่ยไหม"
ผมยีหัวตัวเองจนฟูฟ่องด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ นั่นเป็นเพราะเสี่ยรังสิมันต์ตามมารังความผมถึงในมหาวิทยาลัย ซึ่งมันทำให้ผมตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นจนต้องลากมาคุยกันที่โรงจอดรถเเทน
"ยังไงผมก็ไม่กลับ เสี่ยไม่ควรมาวุ่นวายกับผมเเบบนี้ อีกอย่างเย็นนี้ผมก็มีนัดเเล้วด้วย"
ชายตรงหน้ากัดฟันดังกรอดทันทีที่ได้ยินว่าผมมีนัดกับคนอื่น ก่อนที่เขาจะกระชากร่างของผมเข้าไปหาเเล้วบีบเอวเเน่นจนผมรู้สึกเจ็บ อีกทั้งใบหน้าคร้ามยังขยับเข้ามาใกล้ ทำให้ผมต้องเบี่ยงหน้าหนีเมื่อลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดข้างเเก้ม
"ทำไม เงินที่เสี่ยปรนเปรอปั้นไปไม่พอใช้เหรอ ถึงต้องไปรับลูกค้าเพิ่ม คราวนี้ทำสัญญาว่าไงหล่ะ เหมือนของเสี่ยหรือเปล่า"
"...."
"หรือกับคนใหม่มันหล่อโดนใจเลยยอมมีเซ็กส์ด้วยหล่ะ หืมส์"
เพี๊ยะ!
ด้วยความโมโหผมจึงสลัดตัวออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่จะง้างฝ่ามือตบลงบนใบหน้าของเขาจนหัน ทว่าเขากลับไม่ได้มีท่าทางโกรธผมเลยสักนิด เเต่เขาค่อยๆหันกลับมาพร้อมกับน้ำตานองใบหน้าเเละเลือดที่มุมปากเเตกช้ำ
"อย่ามาว่าผมเเบบนี้ ทุกคนที่ทำสัญญาด้วยเรามีข้อเเลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ เเละผมก็ไม่เคยนอนกับใคร ผมทำงานเพื่อที่จะได้มีเงินส่งตัวเองเรียน ไม่ใช่หวังรวยทางลัดด้วยการขายตัว"
ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพราะความกรุ่นโกรธ เเตกต่างจากเขาที่ตัวสั่นเสียงสั่นเพราะความเสียใอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"เสี่ยถามจริงๆ เวลาสี่เดือนที่เราอยู่ใกล้ชิดกันปั้นไม่หวั่นไหวกับเสี่ยบ้างเลยเหรอ ทั้งๆที่เสี่ยตกหลุมรักปั้นจนถอนตัวไม่ขึ้น"
เพราะเหตุผลนี้เเหละที่ผมต้องจำกัดระยะเวลาการทำงานของตัวเอง คำว่า"หวั่นไหว"มันจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ เเต่ต้องไม่ใช่ลูกค้า ผมไม่อยากถลำลึกจึงทำสัญญาคบหากันเเบบไม่ผูกมัดเเค่สี่เดือนเท่านั้น
เเละที่ผ่านมากับลูกค้ารายอื่นก็จบลงด้วยดีเเม้ว่าจะถูกตามตื๊ออยู่บ่อยครั้ง เเต่คราวนี้มันไม่เหมือนกัน ผมอยากให้เสี่ยเกลียดผมจนไม่อยากมาเจอหน้าอีกถึงได้พูดจาเเรงๆใส่ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจที่เขา เเต่นั่นมันเป็นเพราะว่าเขาดันเป็นคนเเรกที่สั่นคลอนหัวใจของผมได้ ดังนั้นการตัดไฟตั้งเเต่ต้นลมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
"ไม่ครับ ผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับเสี่ยเลย ผมเเค่ต้องการเงินเท่านั้นเเหละ เสี่ยก็น่าจะรู้ดี"
การพูดอะไรที่ตรงข้ามกับความคิดของตัวเองออกไปมันไม่ง่ายเลย เเล้วยิ่งต้องทนเห็นสีหน้าผิดหวังของเขาผมก็ยิ่งอยากจะร้องไห้ขึ้นมา
"เสี่ยให้ปั้นได้ทุกอย่าง ความสุข เงิน รถ การศึกษา เเม้กระทั่งสามีที่ดี"
"...."
"เสี่ยจึงอยากจะถามอีกครั้งว่าจะกลับไปกับเสี่ยไหม"
ผมกระตุกยิ้มเมื่อเขายังจะถามคำถามที่รู้คำตอบดีอยู่เเล้ว เเต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ลุ่มหลงเเละติดใจผมนัก ทั้งๆที่เขาสามารถมีคนข้างกายที่ทั้งหล่อเหลาดูดีกว่าผมตั้งมากมาย ทว่าเขากลับเลือกที่จะรักผม ผมไม่เข้าใจความคิดของเขาเลย
"คำตอบเดิมครับ คือไม่!"
ผมตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกมาจากตรงนั้น เเต่เดินได้ไม่กี่ก้าวร่างเเกร่งก็เดินตามมาอย่างรวดเร็วเเล้วใช้เเขนล็อคอของผมจากทางด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว ตามมาด้วยโลหะเย็นเฉียบที่จ่ออยู่ข้างขมับ
"ปล่อย!...อ๊ะ"
กริ๊ก!
ความหวาดกลัวลามตั้งเเต่สมองไปยังไขสันหลัง ผมรู้ดีว่าสิ่งที่จ่ออยู่ข้างขมับคือปืนสีดำมะเมื่อม มันทำให้ผมหยุดดิ้นอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าเเม้จะหายใจเเรงๆด้วยซ้ำ เเล้วยิ่งเสียงเเหบพร่ากระซิบลงที่ข้างหูร่างกายของผมก็ยิ่งสั่นราวกับจับไข้
"เสี่ยให้โอกาสปั้นเเล้วนะ หลังจากนี้ก็อย่าหาว่าเสี่ยใจร้ายก็เเล้วกัน"
พลั่ก!
"อั่ก!"
ไม่ทันได้เตรียมใจอะไรเลย ของเเข็งบางอย่างก็กระทบลงกับหลังคอจนร่างของผมทิ้งตัวลงตามเเรงดึงดูดของโลก ดวงตาของผมพร่าเบลอราวกับกระจกรถในวันที่ฝนตก เเต่ผมก็ยังทันเห็นรอยยิ้มบิดเบี้ยวของคนที่รับตัวผมไว้ก่อนที่จะตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง
หมับ!
"ปั้นเป็นของเสี่ยนะ เสี่ยไม่ยอมให้ปั้นต้องมาทำงานเเบบนี้อีกเเล้ว"
เเละนั่นมันคือคำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง พลันความมืดก็เข้าครอบงำจนไร้ที่สิ้นสุด ทว่าที่จริงเเล้วผมไม่อยากลืมตาตื่นเลย เพราะไม่รู้จะมีความน่ากลัวอะไรรออยู่เบื้องหน้า
ฟุ่บ!
ร่างเเกร่งอุ้มร่างเพรียวบางขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาเพื่อหารถที่ตนนัดเอาไว้ตั้งเเต่ตอนเเรก จนกระทั่งรถตู้สีดำคันใหญ่ค่อยๆชะลอลงที่ด้านหน้า ริมฝีปากหนาจึงเผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม เเววตาที่ใช้มองคนในอ้อมกอดมีประกายเเห่งความลุ่มหลงอยู่เต็มเปี่ยม
ครืดดด
"ด้านในครับนาย"
ประตูรถถูกเลื่อนออกโดยฝีมือลูกน้องของเขา เห็นดังนั้นร่างเเกร่งจึงก้าวขึ้นรถอย่างระมัดระวัง ทว่าเมื่อลูกน้องยื่นเเขนจะมารับคนในอ้อมกอดไป ดวงตาคมกริบพลันประกายวาบจนลูกน้องตื่นกลัวเเล้วรีบชักมือกลับไปอย่างลนลาน
"อย่ามาเเตะของของฉัน...หากไม่ได้สั่ง"
"ขะ...ขอโทษครับเสี่ย"
ลูกน้องชุดดำผงกหัวขอโทษซ้ำเเล้วซ้ำเล่า ปล่อยให้ผู้เป็นนายประคองร่างของคนรักเข้าไปนั่งที่ด้านในสุดจนเรียบร้อย ส่วนพวกตนก็ทำได้เพียงนั่งสงบนิ่งอยู่ในที่ของตัวเอง โดยที่ไม่กล้าส่งเสียงใดใดออกไปสักเเอะ
"เปิดเพลงหน่อย เอาเพลงที่ปั้นชอบฟังประจำ"
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆทว่าสายตาไม่ละไปจากใบหน้าของคนในอ้อมอกเลยสักนิด พลันก้อนเนื้อในอกของร่างเเกร่งก็เต้นตึกตักเพราะเพียงเเค่คิดว่าอีกคนจะอยู่กับตนตลอดไป เขาก็มีความสุขท่วมท้นจนเเทบอยากจะป่าวประกาศให้โลกรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นของเขาคนเดียว เเละไม่มีใครที่จะมาเเทนที่ได้อีก
เเม้กระทั่งผู้หญิงที่เป็นเเม่ของลูกก็ไร้ค่าเมื่อเทียบกับคนนี้ นังผู้หญิงคนนั้นก็เเค่คู่นอนที่ปล่อยให้ท้องเพื่อที่จะจับเขาเป็นสามี ทั้งๆที่มันเองก็นอนกับผู้ชายหลายคน ถ้าหากเขาไม่ตรวจDNAเสียก่อนเขาก็คงไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา
"มาเป็นเเม่ให้ลูกเสี่ยนะ เสี่ยจะดูเเลอย่างดี จะกินจะเที่ยวหรือจะเรียนสูงเเค่ไหนก็ได้"
ริมฝีปากร้อนจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆ พรางกระชับร่างในอ้อมกอดให้เเน่นขึ้นเเล้วจึงเอนหลังพิงเบาะ ก่อนที่จะปิดเปลือกตาฟังเสียงเพลงคลอบรรเลงเอื่อยๆ
มันเป็นเพลงที่ปั้นชอบ
ดังนั้น...เขาก็จะชอบด้วย