“ผมเลี้ยงง่าย...แค่คุณเนตรเมตตาแล้วก็เอาใจนิดหน่อยแค่นี้ก็แทบจะสยบอยู่แทบเท้าของคุณเนตรแล้ว”

 

เจตน์จำนนรัก 

 

 

  

“วิธีเดียวที่จะทำให้ผมเชื่อง...คุณเนตรก็แค่ต้องทำให้ผมภักดีต่อคุณเนตร” 

ขวัญเนตรทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์ที่มันกำลังพุ่งพล่านของตนเองให้สงบลง 

ประสบการณ์มันสอนเธอแล้วว่าการใช้อารมณ์นั้นไม่เคยทำให้เธอได้ชัยชนะ 

แต่ถึงแม้จะพยายามสกัดกั้นอารมณ์มากมายที่กำลังปะทุของตนเองให้เย็นลง  

แต่คนตรงหน้ากลับเป็นเหมือนข้อยกเว้นหนึ่งเดียวในชีวิตของขวัญเนตร 

เธอสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดียามต้องเผชิญหน้ากับคนที่เกลียด... 

ทว่าเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับเป็นข้อยกเว้น 

 “พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!” 

เสียงหวานยังคงตวาดออกไปแม้จะพยายามข่มอารมณ์ของตนเองให้เยือกเย็นมากเพียงใด 

โดยเฉพาะเมื่อเห็นนัยน์ตาคมคู่ตรงข้ามที่มันเต็มไปด้วยความพึงพอใจเมื่อได้เห็นเธอโกรธมากขนาดไหน 

ใช่...เธอกำลังพยายามข่มความโกรธที่เขาทำเธอขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมายด้วยการพาเธอกลับออกมาจากงานโดยไม่ทันได้ไปล่ำลาแขกผู้ใหญ่หรือบอกลากลุ่มเพื่อนสนิท 

แต่ดูเหมือนว่าคนทำนั้นกลับไม่ได้รู้สึกผิดหรือเสียใจกับการกระทำนั้นของตนเองเลยสักนิด 

“ผมแค่กำลังชี้ทางให้คุณเนตรได้เห็นว่าการรับมือกับคุณท่านมันง่ายนิดเดียวเท่านั้น อย่าเสียเวลาไปทำเรื่องไร้สาระแบบที่คุณเนตรกำลังคิดจะทำเลยครับ” 

ใบหน้าของ ‘คนกำลังทำเรื่องไร้สาระ’ เชิดขึ้นหลังจากได้ฟังคำตำหนิ... 

           เรื่องของเธอมันไร้สาระอย่างนั้นหรือ? 

แล้วใครกันที่แล่นไปลากเธอออกมาทันทีที่รู้เรื่องว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร 

“เลือกเป็นคนของคุณพ่อแล้วนี่...ในเมื่อเลือกแล้วก็ควรจะไปให้พ้นหน้าฉัน”  

ขวัญเนตรเลือกที่จะออกปากไล่อย่างไม่ไว้หน้า  

เมื่อวันนี้เธอโกรธเกินกว่าจะมานั่งคำนึงถึงความเหมาะสมใดอีกต่อไปแล้ว 

“ผมถึงได้บอกยังไงครับว่าถ้าคุณเนตรอยากให้ผมเป็นคนของคุณเนตร... 

คุณเนตรเองก็ต้องลงทุนมากหน่อย” 

คิ้วเรียวสวยขยับเข้าหากันอย่างไม่สามารถทำความเข้าใจถึงความต้องการของคนกล่าวมากนัก 

ทว่ากลับเลือกที่จะประสานสายตากับนัยน์ตาคมอย่างคนไม่ยอมแพ้ 

ใบหน้างามประดับรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะทอดเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นความไหววูบในแววตาคู่คมยามที่เธอขยับยิ้มให้... 

“ฉันรวยไม่ได้ครึ่งของคุณพ่อ เพราะฉะนั้นก็คงจะจ่ายให้นายไม่ไหว” 

เจตน์ยังคงปล่อยให้เธอได้ฉลองชัยชนะเล็กๆ ของตนเองที่สามารถทำให้นัยน์ตาคู่คมนั้นสั่นไหวได้ชั่วครู่ 

เขาร้ายกาจเมื่อปล่อยให้เธอนั้นคิดไปเองว่าเหนือกว่าเขาเสมอ 

ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นเธอไม่สามารถสู้เขาได้เลยสักครั้ง 

“ถอยออกไปนะ” 

คนที่ย่างสุ่มเข้ามากลับไม่ฟังเสียง... 

เมื่อเขายังคงทำลายระยะห่างของเราสองคนให้ลดน้อยลงจนเหลือเพียงเอื้อมมือถึง 

“ผมเลี้ยงง่าย...แค่คุณเนตรเมตตาแล้วก็เอาใจนิดหน่อยแค่นี้ก็แทบจะสยบอยู่แทบเท้าของคุณเนตรแล้ว” 

คนฟังหัวใจเต้นถี่รัวเพราะประโยคนั้น... 

แต่ก็ต้องรีบดึงตนเองกลับมาทันทีที่ความจริงบางอย่างร้องเตือน 

ขวัญเนตรเลือกที่จะเป็นฝ่ายก้าวถอยออกมาอีกก้าวเพื่อเว้นระยะห่างพอให้ตนเองได้ตั้งหลัก 

คุณหนูจอมเอาแต่ใจขยับยิ้มก่อนจะกล่าวให้ความเห็น 

“คงจะเลี้ยงง่ายจริงอย่างที่ว่าเพราะมีคนรอต่อแถวรอเลี้ยงนายเต็มไปหมด” 

“ผมจะลัดคิวให้คุณเนตรเป็นพิเศษ” 

คนได้รับสิทธิพิเศษเม้มปากด้วยความขัดใจเมื่อไม่อาจทำให้คนตรงหน้าถอยกลับหรือยอมแพ้ได้ 

“ฉันต้องขอบคุณที่มอบสิทธิพิเศษนี้ให้รึเปล่า” 

“คุณเนตรแค่ตกลงรับข้อเสนอก็พอ” 

คนที่ถูกยัดเหยียดให้รับข้อเสนอกระตุกยิ้มก่อนจะตัดบทอย่างไร้เยื่อใย 

“เสียใจด้วยฉันไม่คิดอยากจะเลี้ยงใครในตอนนี้” 

พูดจบก็เตรียมหมุนตัวขึ้นสู่บันไดบ้าน ถ้าไม่ติดว่ามือใหญ่ของเจตน์นั้นดึงรั้งเธอเอาไว้ 

“นี่! ปล่อยนะ!” 

ใบหน้าของคนถูกรั้งเริ่มเบ้เพราะความพยายามในการสะบัดแขนของตนเองออกไม่ได้ซ้ำร้ายมือใหญ่ยังคงบีบเพื่อออกแรงรั้งไม่ให้เธอได้เป็นอิสระ 

“ถ้าคุณเนตรยังดื้อออกไปกับมันเหมือนอย่างวันนี้อีก...คราวหน้าผมจะไม่ใจดีแบบนี้แน่นอน” 

“เป็นใครมีสิทธิมาสั่ง!” 

คนสั่งเพียงกระตุกยิ้มและใช้สายตาของตนเองมองใบหน้างดงามที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือถึง 

“เจตน์!” 

เจตน์ไม่สนใจแววตาที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธของขวัญเนตรเมื่อยังคงข่มขู่ต่อได้อย่างหน้าตาเฉย... 

“ถ้าไม่อยากให้ชู้รักของคุณเนตรต้องหมดตัวก็อย่าท้าทายความอดทนของผมอีก” 

คนที่เริ่มรู้ว่าสู้ไม่ไหวเริ่มจึงเริ่มพาล... 

“ฉันจะฟ้องคุณพ่อ!” 

“คิดว่าผมกลัวอย่างนั้นเหรอครับ” 

คนไม่กลัวยังคงขยับยิ้มพึงพอใจเมื่อได้เห็นสีหน้าบูดบึ้งจากคนที่เริ่มพ่ายแพ้... 

“เจตน์!” 

เสียงหวานเริ่มร้อนรนเมื่อใบหน้าของตนเองถูกลูบไล้ 

“ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะใจดีกับคุณเนตรก็ต่อเมื่อคุณเนตรไม่ดื้อ” 

คนดื้อยังคงพยายามดิ้นรนแม้จะรู้ว่าการทำเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ 

เพราะหากเขาไม่คิดจะปล่อยเธอก็ไม่มีวันได้รับอิสระ... 

“เจตน์!” 

คนถูกเรียกดึงสายตาของตัวเองกลับมาหลังจากมันหยุดอยู่ที่ริมฝีปาดสีสดที่วันนี้ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีอ่อนหวาน 

“ผมยังคงยืนยันคำเดิมว่าจะใจดีกับคุณเนตรก็ต่อเมื่อคุฯเนตรเลิกดื้อ” 

เขากล่าวพร้อมทั้งยกมือขึ้นมาลูบกลุ่มผมนุ่มและยังคงประสานสายตากับหญิงสาวจอมดื้ออย่างต้องการท้าทาย 

“เพราะฉะนั้นถ้าอยากถูกโอ๋...คุณเนตรก็ต้องเป็นเด็กดี” 

คนที่ต้องเป็นเด็กดีเพื่อให้ถูกโอ๋ฟังแล้วเลือดขึ้นหน้าอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน... 

แต่ชายหนุ่มกลับไม่แยแสแววตาดื้อรั้นที่กำลังต่อต้านอยู่เงียบๆ นั้น  

เขายังคงกระตุกยิ้มพร้อมกับจ้องมองคนดื้อแสดงออกผ่านสีหน้าและแววตา 

ดีแล้ว...เพราะเขาเกลียดยามเมื่อเธอมองผ่านเขาไปราวกับอากาศ 

“ผมสั่งมาหาก็ต้องมา...หรือสั่งให้เลิกร้ายก็ต้องนั่งเป็นเด็กดีอยู่ข้างๆ ผม” 

ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันเมื่อได้ฟัง...เป็นเด็กดีอยู่ข้างๆ เขาอย่างนั้นหรือ? 

เหลวไหลสิ้นดี! 

“อยากนอนกับฉันมากขนาดนั้นเลยรึไง”  

คนถูกถามกลับเลือกที่จะตอบไม่ตรงคำถาม... 

“เอาไว้คุณเนตรค่อยพิสูจน์ข้อสงสัยตอนที่ผมเป็นคนของคุณเนตรดีกว่า...” 

เขาบอกพร้อมกับปล่อยเธอให้เป็นอิสระ และเตรียมถอยออกไป... 

“วันนี้คงต้องส่งคุณเนตรเข้านอนที่ตรงนี้...พรุ่งนี้เจอกันครับ” 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว