สงครามสามมหาภพ

ฉากทะเลเพลิงในยามวิกาลที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจนฟ้าแดงฉาน เถ้าถ่านและควันไฟลอยฟุ้งทั่วอากาศ เสียงครึกโครมวุ่นวายประสานกับเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัวสิ้นหวังและความตายดั่งวันโลกาวินาศ ผู้คนถูกเข่นฆ่าจนพื้นถูกย้อมไปด้วยเลือด ขณะที่ผู้บริสุทธิ์และเป้าหมายอ่อนแอ อาทิ เด็ก ผู้หญิง คนชรากลายเป็นร่างไร้วิญญาณกองทับถมดั่งเนินเขา 

เสียงคำรามดังกึกก้องราวกับสัตว์ร้ายกระหายเลือดผสมผสมผสานกับคมอาวุธดังขึ้นทั่วทั้งอาณาจักร เหล่าทหารกล้าได้ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองและประชาชน ต้องปะทะฟาดฟันกับเหล่าอสุรกายจำนวนมากมาย อสุรกายพวกนี้ล้วนมีร่างกายสูงใหญ่กว่าสามเมตรกำลังเข่นฆ่าอย่างไร้ปราณี บดขยี้ทุกชีวิตที่ขวางหน้ามัน 

ถึงแม้เหล่าทหารกล้าไม่มีกำลังมากพอจะต้านทาน แต่ก็ไม่ผู้ใดยอมถอยหนีต่างยอมพลีชีพเพื่อปกป้องบ้านเมืองและคนที่ตนรัก พวกอสุรกายอันน่าสะพรึงใช้กรงเล็บที่แหลมคม จับดึงและกัดกระชากร่างของเหล่าทหารจนฉีกขาดออกจากกันตามเส้นทางที่พวกมันได้ก้าวไป มีมนุษย์มากมายที่ต้องสังเวยชีวิตอย่างน่าสยดสยอง 

บนท้องฟ้าที่แดงฉานจากแสงของเปลวเพลิง ปรากฏเงาดำทะมึนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาและความมืดมิดก็เข้าครอบคลุมไปทั่วท้องฟ้า และมีเสียงร้องคำรามที่ดังกึกก้องจนแผ่นดินสะเทือน เงาดำที่ปิดกั้นแสงดวงในยามราตรีเป็นร่างของอสุรกายขนาดมหึมากำลังบินอยู่เหนือท้องฟ้า ปีกทั้งสี่ของมันเมื่อกระพือขึ้นลงก็เกิดแรงลมราวกับพายุบ้าคลั่ง การแผดเสียงคำรามของมันเกิดจากการต่อสู้กับบุรุษผู้หนึ่ง 

เจ้าอสุรกายยักษ์บนท้องฟ้าได้กางปีกทั้งสี่ออกไปด้านหลัง จากนั้นอ้าปากที่เต็มไฟด้วยฟันอันแหลมคมออกจนกว้าง แล้วปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่ที่ร้อนแรงราวกับดวงอาทิตย์เพื่อเข้าโจมตี ส่วนบุรุษในชุดนักรบเกราะทองดั่งเทพสวรรค์ได้ชูดาบขึ้นเหนือศีรษะแล้วเกิดแสงสีทองเปล่งประกายออกจากดาบ จากนั้นทองฟ้าที่มืดมิดยามราตรีได้เกิดแสงสีทองทั่วท้องฟ้าราวกับพระอาทิตย์กำลังทอแสง