ฉันเคยสงสัยว่าชีวิตของตัวฉันมันจะมีอะไรที่แย่กว่าเรื่องครอบครัวอีกมั๊ย แต่วันนี้ทุกอย่างมันกระจ่างแล้วล่ะ...
“นิ้วก้อย แกใจเย็นๆ”
“จะให้เย็นยังไงไหว ก็เคยเตือนไปแล้วไงว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองอย่าสอด” ฉันเอ่ยอย่างเหลืออดกับเหตุการตรงหน้า
“แก ไม่เอาน๊า ยังไงมันก็เพื่อนน่ะ”
“เพื่อนหรอ หึ” ฉันหันไปจ้องหน้าเพื่อนที่ยัยลูกเกดเอ่ยบอกอย่างไม่พอใจ “ห่วงมันมากไม่ไปตายแทนกันเลยหล่ะ!”
“นิ้วก้อย!!” จบคำพูดฉัน ลูกเกดก็ร้องออกมาอย่างตกใจกับสถานการณ์ตรงน้าที่ดูจะแย่ลง เมื่อต้นหลิวลุกออกจากวงเหล้า
“มีใครคิดจะเล่าให้พี่ฟังบ้างรึป่าวครับ?” ผมเอ่ยถามเพื่อนๆของเธอ
“นั่นสิ พี่นิ้วก้อยไม่เคยเป็นแบบนี้เลยน่ะ ออกจะหื่น เห้ยไม่ใช่ ออกจะสดใส ร่าเริง”ยูคเอ่ย ก่อนจะตกใจกับคำพูดของตัวเอง
“เรื่องเพื่อนนั่นแหระพี่มาร์ค พี่ก็รู้ว่ามันแคร์เพื่อนมากขนาดไหน” ผู้หญิงที่นั่งข้างลูกเกดเอ่ยบอก อย่างไม่สบายใจ
“เพื่อนคนไหนว่ะเนี่ย ยัยหื่นของพี่ถึงเป็นหนักขนาดนี้ ”ผมเอ่ยอย่างไม่สบายใจ เคยได้ประโยคนี้ไหมล่ะ คนร่าเริงว่าเวลาร้องไห้น่าสงสารที่สุดน่ะ มันโคตรเข้าเธอเลยไง
อย่าเพิ่งด่าฉันน่ะ ก็พี่มาร์คนั่นแหระที่ผิด อยากเกิดมาหล่อ เกิดมาดูดี เกิดมาตรงสเป็กฉันทำไมล่ะ เจอเนื้อคู่แบบนี้ นิ้วก้อจะไม่ปล่อยไป คนเนี่ยพ่อของลูก ใส่เกียร์หน้าและหื่นใส่เต็มที่เจ้าค่ะ
“ว๊ายยย คนนั่นหล่อ อู๊ยยย คนนี้ก็ใช่ คนโน่นก็อยากได้อยากโดน” ยัยเนยเอ่ยขึ้นอย่างระริกระรี้ทันทีที่รุ่นพี่เริ่มทยอยเข้ามากลางวงของเด็กปีหนึ่งอย่างพวกเรา
“แก๊แก พ่อของลูกฉันเดินเข้ามาแล้ว หู้ยย หล่อน้ำลายไหล ขาวแบบนี้นิ้วก้อยอยากกิน” ทันทีที่พี่มาร์คก้าวเข้ามา อาการของฉันก็เริ่มทำงานทันที
“น้อยๆหน่อยยัยบ้า แกเป็นผูหญิง แต่อ๊ายยย หล่อน่ากิน” เหอะฉันว่าฉันหื่นแล้วน่ะ เจอยัยเนยเข้าไป ฉันว่าฉัแพ้เลยล่ะ
---------------------------------------
เอ้า ลูกๆ เก็บอาการค่ะ เดี๋ยวพี่มาร์คจะไหวตัวทันน่ะ 5555 อย่าหื่นเยอะลูก โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...