แสงจันทร์ในเงาทราย (จันทร์เจ้ากับซารีฟ)

คุณ....เคยเจอรักแรกพบกันมั้ยคะ

เคยรู้จักหรือเปล่า คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย

เคยมั้ยคะ ที่รักใครคนหนึ่งแบบที่ไม่มีข้อแม้

ถ้าคุณยังไม่เคยสัมผัส รักที่ไม่ต้องออกแบบ นิยายเรื่องนี้ตอบคุณได้ค่ะ

เจ้าชาย ซารีฟ อันวาร์อีเธอร์ ลูคัส พระชนมายุ35ชันษา  องค์รัชทายาทแห่งมหานครเอลโดรา มหานครที่ตั้งอยู่ในแถบทะเลซาฮาร่าอันยิ่งใหญ่ เจ้าชายผู้อ่อนโยนและอบอุ่น และยังทรงมีน้ำพระหฤทัยที่โอบอ้อมอารี ทำให้พระองค์เป็นที่รักของพสกนิกรในแคว้น

พระสุบินในราตรีกาล มักพานพบแต่ความสุขสม เจ้าชายผู้อบอุ่นแห่งมหานครทองคำก็เช่นเดียวกัน นางในฝันช่างงดงามและสวยสง่า ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง พระองค์มักจะฝันถึงหญิงงามที่มาพร้อมกับดวงจันทร์ หญิงสาวผู้มีรอยยิ้มแสนเศร้า เธอจะมาปรากฏกายอยู่ในความฝันในทุกๆค่ำคืนเมื่อพระจันทร์เต็มดวง และภาพใบหน้านางในฝันก็ปรากฏชัดเจนขึ้น จนกระทั้งหญิงสาวผู้มาจากต่างแดนมาเยือนถึงถิ่นฐานทะเลทราย

เมื่อความเข้าใจผิดเป็นเหตุให้พระองค์เข้าใจว่าเธอคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสิ้นพระชมน์ของพระขนิษฐา จึงเปลี่ยนแปลงเจ้าชายผู้แสนอบอุ่น กลายเป็นเจ้าชายผู้เย็นชา  ทว่าเพียงแค่การเดินทางเข้าไปในทะเลอันร้อนระอุ ก็ทำให้พระทัยแข็งกระด้างนั้นอ่อนยวบ เมื่อความผูกพันถูกสร้างขึ้นมาจากความฝัน และกำลังถูกทักถอสายใยจากการร่วมใช้ชีวิต

แต่ด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจ้าทะเลทราย ที่ไม่อาจลงเอยกับหญิงสามัญชนที่มาจากต่างแดน  จึงมีม่านประเพณีและและชนชั้นวรรณะเข้ามากางกั้น

นิสามณี ประจักษ์นิธิดล   หรือ จันทร์เจ้า (ไอซีล) อายุ24 หญิงสาวที่รักในการวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ สาวน้อยแสนอ่อนหวานและอ่อนโยน คนที่มองโลกในแง่ดี  เขาคือคนที่ทำให้เธอรู้จักคำว่ารัก คนที่เข้ามาทลายกำแพงทุกอย่างของความรู้สึก แม้ความเย็นชาที่เขามอบให้ก็ไม่อาจทำให้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนแปลง

แต่ความรักที่มียศฐานบรรดาศักดิ์ เป็นเครื่องการันตีของการครองคู่ หญิงสาวสามัญชนอย่างเธอจะเอาอะไรไปเทียบกับบุตรสาวของรัฐมนตรีผู้กุมอำนาจทหารทั้งกอง ความรักที่เกิดขึ้น แม้มันจะอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความผูกพัน แต่เมื่ออุปสรรคมันคือราชบัลลังก์และฐานันดรที่ยิ่งใหญ่ สามัญชนเช่นเธอจึงไม่คู่ควรกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์  แม้จะรักถึงรักมาก แต่ก็ไม่อาจฉุดดึงพระอาทิตย์ดวงใหญ่ที่อยู่บนฟากฟ้า ลงมาเปื้อนโคลนตม  จึงเป็นได้แค่ธารน้ำใสที่สะท้อนเงาให้ได้รู้ว่าอยู่ใกล้ๆแต่ไม่มีสิทธิ์เอื้อมมือคว้าเอามาเป็นของตน>>

ภาพวาดที่ถูกเนรมิตขึ้นท่ามกลางความฝัน ทำให้เธอดั้นด้นมาตามหาความจริงไกลถึงทะเลทรายที่กว้างใหญ่ในแคว้นที่ผู้คนแถบไม่รู้จัก ภายใต้การปกครองที่มีแต่ความเมตตาปราณีของกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจ ภาพวาดที่เกิดขึ้นท่ามกลางความฝันยามค่ำคืน นำพาหัวใจดวงเล็กที่แข็งแกร่งดังหินผาหอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่ผืนทรายอันกว้างใหญ่

ที่ที่ทำให้เธอเจ็บปวดและมีความสุขไปพร้อมๆกัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ แต่อบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น ช่างเหมือนความฝันที่ไม่อยากตื่น แต่ความฝันก็คือความฝันคนเราต้องยืนหยัดด้วยความเป็นจริง เมื่อถึงวันที่เธอต้องตื่นจากความฝันที่ยาวนาน หญิงสาวจึงหอบหิวเอาหัวใจของเจ้าชายสูงศักดิ์พร้อมดวงใจของเขากลับคืนถิ่น เพราะเรื่องราวของเจ้าหญิงขอทานกับเจ้าชายผู้สูงเทียมฟ้าเป็นแค่ในนิทานหลอกเด็ก พระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ไม่อาจเคียงคู่กับพระอาทิตย์ดวงโตที่ฉายแสงให้ความสว่างยามเช้าตรู่ แม้จะอยู่บนฟากฟ้าเดียวกัน แต่ก็ไม่อาจมาบรรจบพบกันได้ เว้นเสียแต่พระอาทิตย์ดวงใหญ่จะยอมสละแสงที่ทรงอำนาจและแตกอณูไปเป็นดวงดาวที่พราวระยิบโอบล้อมพระจันทร์เอาไว้เท่านั้น

มาร่วมลุ้นไปกับความรักท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ ที่มีอุปสรรค์เป็นยศฐานบรรดาศักดิ์และราชบัลลังก์ที่ยิ่งใหญ่ของเขาและเธอ ความอบอุ่นความอ่อนโยน ที่เจ้าชายซารีฟจะมอบให้ จันทร์เจ้า จนทะเลทรายที่ว่าร้อนยังสู่ความร้อนแรงที่แผ่ออกมาเป็นความอบอุ่นของเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ไม่ได้เลย

ความฝันที่นำพาทั้งเธอและเขามาพบกัน  ในเขตเมืองร้อนที่มีทะเลทรายเป็นสิ่งเชื่อมโยง สองหัวใจที่ผูกติดกันไว้ แม้จะต่างยศฐานและชนชั้น ความรักที่เกิดขึ้นจึงนำพาหัวใจสองดวงผูกติดกันไปแม้ยามที่หลับตาแล้วฝันไป

ด้วยรัก  นิลินธารา พิชญาภา

นิยายเรื่องนี้ แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน เป็นสถานที่สมมุติขึ้นไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญที่กล่าวถึงในเรื่องเป็นแค่จินตการจากปลายปากกาของผู้เขียนเพื่อให้เกิดอัถรสในการอ่านเท่านั้น