แก้วน้ำเป็นลูกสาวคนเล็กของนายนึ่ง
นายนึ่งเป็นคนต่างด้าวที่มีนัยน์ตาสีเขียวมรกต
มรดกทางพันธุกรรมเพียงหนึ่งเดียว ที่ดันถ่ายทอดมาให้เฉพาะแค่ฝั่งลูกผู้หญิง
ยิ่งเติบโตก็ยิ่งโดดเด่น ยิ่งน่ามองก็ยิ่งหวงแหน นานนับเช้าเข้าจรดเย็นแทบไม่เคยเดียวดาย
ใครจะไปพาจะมาล้วนแล้วแต่เอื้ออำนวยด้วยโชคแลวาสนาแทบทั้งสิ้น
ข่าวว่ากำแพงบ้านนั้นมิสู้สูงเท่าเกราะกายของเหล่าพี่ชายทั้งสาม อันประกอบไปด้วย
พี่หว่านกล้า ลูกชายคนโตที่เกิดจากท้องของป้าแท้ๆกับลุงเขยขวัญ หรืออีกนัยหนึ่ง คือถูกขอมาเลี้ยงตั้งแต่ยังจำความอะไรไม่ได้นั่นเอง พูดน้อย กินเยอะ คิดบ้างไม่อยากเสียเวลาคิดบ้าง ชอบนอนดูทีวีที่ยังไม่ได้เปิดใช้ พี่แกว่ามันมืดสนิทชวนให้ใจสงบดี ปกติเป็นคนมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่กลับไม่เคยปล่อยให้ใครมาเที่ยวเล่นที่บ้านได้เกินหกโมงเย็น เพราะแก้วน้ำจะกลับมาจากโรงเรียนประมาณทุ่มครึ่ง
พี่ทิดนู้น ลูกชายแท้ๆคนรองที่มีใบหน้าละม้ายนายนึ่งอยู่บ้าง เคยบวชเณรบวชพระสลับสามปีครั้งมาตลอด เพราะยายจ๋าชอบฝันว่าหลานคนโปรดมีคนมาเอาชีวิตบ่อยๆ ทำให้ชื่อแซ่ไม่ค่อยจะแน่นอนนัก จนท้ายที่สุดยายจ๋าเลยใช้คำที่ไม่น่าจะมีผีที่ไหนคิดได้ว่าเป็นชื่อคน พี่ทิดนู้นเลยได้คำเรียกขายถาวรมาตามนี้จนยายเสียเมื่อหลายปีก่อน แต่เพราะอยู่ในกิจสงฆ์จนเคยชิน แม้จะกลายเป็นฆราวาสไปแล้วก็ยังนิยมหอบโอ่งดินเผาเดินไปที่แผงตลาดยามเช้ามืดอยู่บ่อยๆ แถมผมเผ้าก็ดูจะพร้อมใจกันไม่ขึ้นมาเสียทีด้วย ยามใครแวะเวียนมาที่หน้าบ้านพอดิบพอดีก็จะได้รับบทสวดอำนวยอวยพรเป็นภาษาบาลีไปเต็มๆ
และคนสุดท้ายที่ดูน่าจะอ่อนแอที่สุดอย่างพี่เหนียวเปียก ลูกชายคนกลางที่ตัวเล็กกว่าพี่ชายทั้งสองคนเกือบครึ่งท่อน และมีดวงหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับตัวน้องสาวมากที่สุด ผมยาวเคลียแก้ม ผิวขาวผุดผาด นิยมชมชอบการแต่งกายแบบสาวสมัยใหม่เพื่อเอาไว้ไล่แขกแมลงวันโดยเฉพาะ เป็นพวกซ่อนรูปเพราะชอบต่อยมวยแต่ไม่ยอมเพาะกล้าม เพื่อนของน้องสาวคือเหล่าแฟนคลับที่ต้องคอยหล่อเลี้ยงเอาไว้ นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินแล้วยังสามารถใช้สาวๆเหล่านี้คอยดูแลสอดส่องยามอยู่ที่โรงเรียนได้อีกด้วย ชื่อนิคเนมที่สาวๆพร้อมใจกันเรียกหาจึงกลายเป็น พี่ดาเนียล
ส่วนพ่อนึ่งน่ะหรือ?
แกแทบจะไม่หือไม่อืออะไรกับแก้วน้ำหรือเหล่าลูกชายทั้งนั้น เพราะตั้งแต่ย้ายถิ่นมาทำงานที่เมืองไทยและพบรักกับแม่อุ่นดีเข้าปีที่สามสิบแล้วนั้น นายนึ่งหรือนายนีแกนก็ยังคงพูดไทยไม่คล่อง เขียนอ่านไทยไม่ได้อยู่ดี จะว่าแกไม่เข้าสังคมเลยก็คงไม่ใช่ เพราะชาวบ้านแทบทุกหมู่ละแวกนี้ต่างก็เคยมาให้นายนึ่งสอนภาษาอยู่บ่อยๆ
แม่อุ่นเคยเม้าส์กับลูกๆว่าพ่อนึ่งเคยตกหลังควายตอนหนุ่มๆ ขี้โคลนเข้าหูจนแน่น จนป่านนี้ยังแคะออกไม่หมด ภาษาไทยแกเลยวิบัติออกเสียงทีคนละเรื่องคนละราวมาตลอด ครั้งหนึ่งแกพาชาวบ้านไปหาหมอที่อนามัย เพราะความที่พูดไทยไม่ชัดจาก “หิด”เป็น”เ-ย” นางพยาบาลนึกว่ามาด่าเลยยืนรุมแกอยู่เป็นชั่วโมง กว่าจะรู้ความกันเกือบต้องพึงลุงหางดาบข้างบ้านเสียแล้ว
คนเดียวที่อยากเห็นแก้วน้ำมีสามีก็คือแม่อุ่นใจ
ด้วยเหตุนั้น ลูกชาย หลานชาย เหลนชายของเพื่อนสารพัดแหล่งที่มา จึงมีโอกาสเข้านอกออกในบ้านได้โดยไม่ต้องสนใจเสียงแยกเขี้ยวของเหล่าพี่ชายทั้งสามเลยสักนิด แค่แม่อุ่นยกมือเงาดำทะมึนทั้งสามก็พร้อมใจกันหายวับไปจากสายตา จะมีไปดักหน้าดักหลังข้างไหน แก้วน้ำก็ไม่อาจทำใจใคร่รู้ได้ เพราะหนุ่มๆเหล่านี้ไม่นานก็พากันหายหน้าหายตาไปโดยที่แก้วน้ำไม่ต้องเล่นบทนางเอกนางร้ายแบบในละครตอนเย็นแต่อย่างใด
อันนี้เท่านั้นที่แม่อุ่นใจตีปริศนาเรื่องนี้ไม่ออก
แต่แก้วน้ำเอง....กลับรู้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร....