The Story of Me and You เรื่องเล่า...ของเราสอง

Y

The Story of Me and You เรื่องเล่า...ของเราสอง

The Story of Me and You เรื่องเล่า...ของเราสอง

Running1312

Y

16
ตอน
4.28K
เข้าชม
43
ถูกใจ
6
ความคิดเห็น
9
เพิ่มลงคลัง

นิยายเรื่องนี้ผู้เขียน เขียนไว้เกิน 15 ปีแล้วครับ ขอให้ผู้อ่านนึกถึงสภาพแวดล้อมที่ย้อนไปเมื่อตอนที่โลกของการสื่อสารไม่เหมือนกับทุกวันนี้นะครับ และนิยายเรื่องนี้ คุณนิคม ชาวเรือ เคยพิจารณาจะรับตีพิมพ์ครับ แต่เนื่องจากยุคสมัยนั้นนิยาย เรื่องเล่าแนว Y ยังไม่เป็นที่เผยแพร่และนิยมมากนัก เลยพับปิดโครงการไปครับ

 

จากใจผู้เขียน

 

หากคุณมีความเชื่อว่า รักไม่มีแบ่งพรมแดน, รักไม่มีแบ่งยศฐาบรรดาศักดิ์, รักไม่มีแบ่งเชื้อชาติ วงศ์ตระกูล, รักไม่มีขอบเขตจำกัด, รักไม่มีรูปแบบ หรืออะไรก็ตามแต่ที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อความรัก คุณคงจะให้โอกาสเรื่องราวดังต่อไปนี้ที่ได้นำเอาบทบรรยายความรักอีกรูปแบบที่ไม่เหมือนดั่งผู้คนส่วนใหญ่ หรือเป็นความรักที่หลายคนคิดว่า ผิดประเภท รักแบบชายรักชาย

หากคุณมีความคิดว่าความรักที่ผิดประเภทแบบนี้ ไม่มีทางที่จะเป็นความรักที่ยาวนานได้ จะมีแต่เพียงเพื่อสรรหาความสุขเกี่ยวกับเซ็กซ์มาใส่ตัว คุณยิ่งควรให้โอกาสเรื่องราวต่อไปนี้ให้มากขึ้นไปอีก แล้วคุณจะได้รู้ว่าความรักที่หลายคนบอกว่าผิดประเภทนั้น มันมีส่วนที่สวยงามได้ไม่ต่างกับรักแบบชายหญิงทั่วไป

หากคุณเป็นคนที่มีความชอบแบบเดียวกับตัวละครในเรื่อง คุณยิ่งควรให้โอกาสเรื่องราวต่อไปนี้ให้มากที่สุด เพราะถ้าคุณเป็นแบบรักที่ผิดประเภท แล้วคุณไม่เชื่อมั่นในความรักของคุณว่ามันจะไม่สวยงาม จะไม่ยาวนาน คุณหวังแค่เพียงเซ็กซ์เพื่อหาความสุขใส่ตัว คุณจะต้องลองอ่านเรื่องราวของตัวละครในเรื่อง ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องเป็นเรื่องราวในประสบการณ์ชีวิตจริงของคนคนหนึ่งที่มีความประทับใจกับความรักที่ตัวละครเจ้าของเรื่องได้มอบให้กับอีกหนึ่งตัวละครในเรื่อง รวมถึงส่วนที่แต่งเสริมเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวจะจบลงเช่นไร หรือแม้กระทั่งว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไรนั้น แต่ความรักที่หลายคนเรียกว่าผิดประเภทนั้นก็เป็นสิ่งที่สวยงาม และมีคุณค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในช่วงชีวิตของคนคนหนึ่ง

ความรักมีค่า อย่าได้ดูถูกและลดค่าของความรักครับ

ด้วยรัก

 

บทนำ

 

อดีต เป็นเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของคนทุกคน เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่แสนจะดี หรือว่าเลวร้ายแค่ไหน ทุกคนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ ถ้าเป็นอดีตที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเป็นอดีตที่ไม่ดี คนที่ได้พบเจอเข้าก็จำเป็นที่จะต้องหาวิธีลืม หรือไม่ก็อยู่กับมันให้ได้ เพื่อที่จะมีชีวิตในปัจจุบันที่ดี เพื่อที่จะส่งผลไปสู่อนาคตที่สวยงาม

อดีต นอกจากจะเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วนั้น เรายังกลับไปย้อนแก้ไขอะไรไม่ได้ ถึงแม้เรื่องราวเหล่านั้นจะผ่านพ้นมาได้แค่ชั่วโมงเดียวหรือนาทีเดียวก็ตาม สำหรับหลายคนอดีตอาจจะเป็นสิ่งที่ลืมไปแล้ว แต่สำหรับบางคนอดีตเป็นสิ่งที่ส่งผลกับชีวิตของเขาทั้งชีวิต อย่างเช่นชีวิตของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา กลับเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาได้เพราะเรื่องราวในอดีตของเขา

“ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่รัก ไอ้เด็กพ่อแม่ทิ้ง” เป็นประโยคที่เราได้ยินทุกครั้งเมื่อเราทะเลาะกับเพื่อนเล่นในวัยเด็ก ซึ่งทุกครั้งที่เราได้ยินเพื่อนล้อด้วยประโยคเหล่านี้ เรามักจะเกิดความสลด หดหู่ในใจ เศร้าใจอย่างเป็นที่สุด เพราะสิ่งที่คอยตอกย้ำให้ความเจ็บปวดใจของเรานั้นยิ่งฝังลึกลงไปทุก ๆ ครั้งนั่นก็คือ ทุกคำพูดที่โดนเพื่อนล้อนั้นมันคือความจริง เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เราต้องอาศัยอยู่กับยาย โดยที่รู้เพียงว่าพ่อแม่ไปทำงานที่ต่างจังหวัดเพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว ข้อนี้นั้นเรารู้ดีว่าพ่อแม่มีความจำเป็นที่ต้องไป เพราะถ้าไม่ไปเราก็ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ที่เรามักจะต้องคล้อยตามคำล้อของเพื่อนอยู่ทุกครั้งไปนั้นก็เพราะว่า เราไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงได้พาพี่ชายและน้องชายของเราไปอยู่ด้วย ทิ้งไว้แค่เราคนเดียวที่ต้องอยู่กับยาย ข้อนี้ที่ทำให้เราขุดหลุมลึกขึ้นภายในใจ แล้วก็เอาคำว่า “ความรัก” ฝังไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

จนวันเวลาในชีวิตเด็กบ้านนอกของเราที่อาศัยอยู่กับยายอย่างค่นแค้น ค่อย ๆ ผันผ่านไป วันแล้ว วันเล่า ปนเปกันไประหว่างความสุข ความทุกข์ เราผ่านวัยเด็กเข้าสู่วัยมัธยม เราเรียนโรงเรียนใกล้บ้านจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พ่อและแม่พร้อมน้องชายได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านเดียวกันกับเรา ส่วนพี่ชายของเราตอนนั้นได้สอบผ่านเข้าไปเป็นนักเรียนตำรวจ จึงไม่ได้กลับมาอยู่บ้านด้วยกัน เรามีโอกาสได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ได้เพียงปีเดียว เพียงปีเดียวเท่านั้นที่เราได้ซึมซับเอาความอบอุ่นจากพ่อและแม่ ถึงแม้ครอบครัวจะลำบาก ยากแค้นเพียงไร แต่เราก็ยังดีใจที่มีพ่อและแม่อยู่ด้วยเสมอ ไม่ใช่เราจะไม่รักยาย แต่เราอยากให้ชีวิตเราเหมือนชีวิตคนอื่น ๆ ที่มีพ่อแม่อยู่ด้วย หลังจากปีเดียวที่ได้อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่นั้นผ่านไป นั่นหมายถึงว่าเราเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พ่อเราอยากให้เรามีโอกาสได้ไปเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง ประกอบกับเราสอบได้โควตาของสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่งของรัฐบาล เราจึงตัดสินใจไปตามคำชี้แนะของพ่อว่า การออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองจะทำให้เรามีประสบการณ์มากยิ่งขึ้นและประสบการณ์เหล่านั้นจะช่วยทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น แต่ในบางครั้งความรู้สึกลึก ๆ ของเราก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าทำไมพ่อถึงไม่อยากให้เราอยู่บ้าน หรือว่าพ่อไม่ได้รักเราอย่างที่เพื่อน ๆ คอยตอกย้ำในวัยเด็ก แต่เราไม่ใช่คนที่คิดอะไรด้านเดียว เราหวนคิดถึงเหตุผลที่พ่อบอกว่าอยากให้เราได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ได้มีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างออกไปจากการเรียนอยู่แถวบ้านเหมือนตอนประถมและมัธยม เหตุผลดังกล่าวสามารถทำให้เราใจชื้นขึ้นมาบ้างและตกลงเดินทางไปเรียนที่สถาบันแห่งนั้น แต่ถึงกระนั้น “ความรัก” ของเรายังคงถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจไม่เคยมีโอกาสได้นำออกมามอบให้กับใครสักคน เหมือนกับเพื่อนวัยรุ่นคนอื่น ๆ ที่เขามีแฟนกันแล้วเป็นส่วนใหญ่

จากเรื่องราวในอดีตที่คิดว่าพ่อแม่ได้รัก ตามคำหยอกล้อ ด่าทอ ของเพื่อน ๆ ในวัยเด็ก ทำให้เราไม่กล้าที่จะมอบหัวใจให้กับใครถึงแม้ว่าเราจะย่างเข้าสู่วัยรุ่นแล้วก็ตามที แต่เมื่อมาถึงตอนนี้เราไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยที่สมัยเด็กหรือในวัยรุ่นแรกเริ่มของเรานั้น เราไม่ได้มอบความรักให้กับใคร จนเราได้รู้จักความรักที่เรียกว่ารักแรก รักที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของคนคนหนึ่งที่จะมีได้ สามารถพูดได้เต็มปากว่าคุ้มค่าการรอคอย ถึงแม้จะไม่รู้ว่าการรอคอยนั้นจะสิ้นสุดลงที่ไหน และสิ้นสุดลงแบบใด

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว