>>
Youtube
~~
ลอง
ฟังเพลง
>>บทที่1<<
>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>>>>
แนะนำ ตัว ละคร
ท่านอ๋องน้อย อวิ๋นเซิง วังเต๋อซินหย่งชินอ๋อง
เกี้ยวสาวน้อยไม่เป็น ได้แต่รอ รอ รอ เวลานี้ ต้องลุกขึ้นมา ฮึด แล้ว
>>>>>>>>>>>>>>>>>
>>>>>>>>> ( รูปข้างล่างจ้ะ )
,, สาวน้อยผู้แปลกประหลาด ฉลาด น่ารัก
เริ่มเข้ามาในแวดวง ของเมืองหลวง
!! ฮิ ฮิ ฮิ
>>>>>>>>>>>>
~~~~ โตเป็นสาว แล้ว ~~~~
ขอบคุณทุกภาพจาก google และfb
รูปภาพ ประกอบคำบรรยาย ตัวละคร
ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
เครดิตตามภาพ เจ้าค่ะ
@@@@@@@
แนะนำ บางส่วน ตัวละคร
มู่(เฟิ่งเจิน)เฉี่ยวหลัน
มู่เทียนฮ้าว บิดา
ไป๋ซังชิง(เสี่ยวซาน) มารดา ตระกูลไป๋
มู่เฟิ่งซี น้องชาย
มู่เฟิ่งซัน น้องชาย
มู่ซาน ท่านปู่ /ลี่ ซีเสียน ท่านย่า
มู่ เทียนหลิง ท่านอาหญิง
ก่วน เสวี่ยผิง เปียวเม่ย ท่านย่า/ก่วน เสวี่ยซิน เปียวเกอ
ผิงอี้ ผิงเอ้อร์ ผิงอิง ผิงอัน /เหยียน โหยวหลุน _อู๋ เจ๋อหมิง
กง /โหว/ ป๋อ /จื่อ /หนาน/ เป็นบรรดาศักดิ์ของจีนสมัยโบราณแต่ละยุคเรียกต่างกันออกไป
ปี้เต๋อเร่อ_ปีเตอร์ บอสใหญ่สถาบัน ดวงดาว แห่งอนาคต
จู ลี่ฟาง _หวัง จื่อเจียน _ฉี ซ่งเซิน _เพื่อนในมหาวิทยาลัย
'เรื่องนี้ไม่อิง ปวศ เจาะจงช่วงใดยุคใดทั้งนั้น ใช้บรรยากาศประเพณีจีนสมัยโบราณเท่านั้น'
'ไม่ทะลุมิติ เพราะทางทีวีจีนมีข้อจำกัดไม่สร้างซีรีย์ทะลุมิติแต่จะเลี่ยงไปเหตุผลอื่น จึงเน้นที่การถอดจิต บำเพ็ญเพียร'
@@@@@@@@@@@
>>>
>>>>>>>
>
บทที่ 1 จำความ
ได้
<
<<<
>>>
ไม่ว่าอย่างไร
ชาติไหนๆ
เพราะรักษาศีล
มีจิตเมตตา
ดวงจิตจะอยู่โลกใด
ก็ไม่ต้องกังวล
นางต้องได้กายเนื้อที่ผ่องพรรณ
งดงาม
ในใต้หล้า
ความจริงในข้อนี้คือ
ความจริง
>>>
ปัญญา
บารมี
อยู่ที่จิตบำเพ็ญเพียร
จิดใจผ่องพิสุจใส
มีเมตตา
มีความขยัน
สม่ำเสมอ
คือการสั่งสมบุญ
<<<
สิ่งที่ปราถนา
คืออยากเป็นผู้ที่ข้ามภพ
ข้ามจักรวาล
อยู่ในอวกาศ
เพื่อได้เป็นผู้รู้ที่เห็นทุกสิ่งอย่าง
การเรียนรู้มาจากหลายภพ
ทำให้สามารถถอดจิต
ความทรงจำยังตามติดตัวไปด้วย
แม้เปลี่ยนภพภูมิ
เปลี่ยนโลกใบใหม่
ทั้งโลกวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า
โลกยุคอุตสาหกรรมที่เคยไปเยือนมาแล้ว
ก่อนหน้า
ชาติที่แล้ว
นางเป็นอาจารย์สอนพิเศษฟิสิกส์
และคำนวณอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเปจิ่ง
บอสใหญ่
ปี้เต่อเร่อ
เป็นบอสของสถาบันที่พวกนางได้ค้นคว้าเกี่ยวกับดวงดาวและเพื่อนในสถาบันอีกสามคน
มีจูลี่ฟาง
หวังจื่อเจียน
และฉีซ่งเซิน
นั้น
พวกเขาตามหาจานบิน
วัตถุเหนือโลก
แต่นางใช้แนวทาง
ถอดจิตและนั่งสมาธิอธิษฐาน
_@@
ข้าขออธิษฐาน
แม้ชาตินี้
โลกที่แล้วมายังไม่สมปรารถนา
ก็จะขยันอดทนตั้งมั่นบำเพ็ญเพียรต่อ
ทั้งขอให้ดวงจิตจดจำความรู้ความสามารถ
ทักษะทุกอย่าง
สติปัญญาที่ได้สั่งสมไว้
ตบะบำเพ็ญเพียร
ดวงจิตที่เห็นแสงแห่งสมาธินั้น
ดวงจิตที่สั่งสมบุญแต่ปางก่อน
ที่ระลึกได้สามชาติ
ขอให้คงอยุ่อย่าได้ลืมเลือน
.....
เพียงบำเพ็ญต่อยอดต่อไป
เพราะข้า
ไม่อยากไปเริ่มต้นเรียนที่เนิสเซอรี่
ทั้งไฮสคูล
อีกแล้ว
ยิ่งใน
ปีแรกของมหาวิทยาลัย
ช่างเหนื่อยเหลือเกิน
!,,,,,
@@@@
:
ค่ำคืนที่แสงดาวยังพร่าเลือนดวงจันทร์ยังไม่สาดส่องพื้นไม้ยังเย็นเยือกแม้มีกระถางไฟให้ไออุ่นในเรือนในเรือนซิ่งกวง
ของคฤหาสถ์ตระกูลมู่ในอำเภออูถงบ่าวรับใช้บางคนยืนรอหน้าประตูเรือนคอยรับคำสั่งบางคนเตรียมน้ำชาน้ำร้อนหลายวันหลายคืนมานี่
คุณหนูใหญ่วัยห้าขวบยังคงป่วยมีไข้แม้ฟื้นไข้แล้วยังมีแววตาเลื่อนลอยท่านย่าเรียกขานชื่อเท่าไรก็ยังไม่ขานรับ
กระทั่งวันนี้นายท่านกลับมาจากเมืองหลวงตามคำสั่งฮูหยินผู้เฒ่าที่ต้องให้เจ๋อหมิงไปตามมาให้ได้
แม้คุณหนูใหญ่จะเป็นบุตรีแต่ทั้งนายใหญ่นายผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่ารักนักหนาถึงได้มาอยู่ในคฤหาสน์ในเมืองอูถง
เพราะท่านปู่ท่านย่ารักเอ็นดูหลานสาวคนโตยิ่งนัก
ตระกูลมู่ของท่านปู่มีลูกหลานผู้ชายมากมายแต่ท่านปู่กับท่านย่าต่างตกลงจะแยกมาตั้งตระกูลเองที่นี่
เพราะทั้งสองมุ่งในทางสงบ
ท่านย่ามีวาสนาทางธรรมรับรู้แล้วว่าจะเดินทางสู่โลกนิรันดร์
ท่านปู่ท่านย่ามีบุตรสองคนคือท่านเทียนฮ้าวและท่านอาหญิงเทียนหลิงแค่สองคนนี้เท่านั้น
ท่านอาหญิงออกเรือนไปกับท่านอาเขยเป็นตระกูลชาวยุทธตระกูลใหญ่
ท่านพ่อเทียนฮ้าวเป็นหัวหน้ากองร้อยเล็กๆของกองทัพในเมืองหลวงแต่งงานกับท่านแม่ตระกูลคหบดี
ซึ่งมีท่านยายใหญ่เป็นฮูหยินท่านแม่ทัพอยู่ชายแดนส่วนท่านยายแท้ๆเป็นบุตรีคนที่สองในตระกูลจากจำนวนห้าคน
และมีท่านป้ารองที่เป็นบุตรีท่านยายใหญ่เป็นฮูหยินราชองครักษ์ในวังหลวง
เนื่องจากท่านปู่ท่านย่าแยกตระกูลออกมาและมีวาสนาทางธรรมกลายเป็นตระกูลเล็ก
ความมักใหญ่ในอำนาจลาภยศแข่งขันยิ่งหลีกหนีห่างไกลคุณหนูใหญ่จึงไม่เคยพบกับสิ่งเหล่านี้
นอกจากได้ยินในเรื่องเล่าของผู้ใหญ่และบ่าวเท่านั้น
ท่านย่ากล่าวกับบุตรชาย
"
เรียกนางสิหลันเอ๋อร์
อาเจินอาเจิน
"
ชื่ออาเจินคือชื่อที่คนในครอบครัวใช้เรียกหลานสาวมีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้
"
หือ
"
ข้าได้ยินเสียงวุ่นวายจึงพึมพำในคอท่านย่าได้ยินแม้เสียงจะเบามากกลับดีใจยิ่งนัก
"
เจ้าใหญ่พาไปหาท่านเซียนเซินหมอหลี่ที่หุบเขาเฮยหู่สักครั้งเถอะยัยหนูยังมีจิตวิญญาณไม่ผสมผสานกลับมาครบ
ท่านย่ามู่ซีเสียนนับยามสามตากำหนดรู้แน่ว่าหลานสาวคนนี้มีอายุจิตหลายร้อยปีสั่งสมบุญมาไม่น้อย
การจะไปหาท่านเซียนเซินบนยอดเขาเฮยหู่ต้องใช้ดวงจิตของผู้ที่บำเพ็ญเพียร
จึงจะแน่ใจได้ว่าท่านเซียนเซินจะอนุญาตให้เข้าไปรักษาหรือไม่
"
งั้นก็ลองดู
"
ท่านพ่อที่เพิ่งกลับมาถึงคฤหาสถ์ท่านปู่รีบเรียกจางหยางเตรียมรถม้า
ตั้งแต่วันนั้นคือวันที่นางจำความได้ในวัยห้าขวบ
ส่วนวัยก่อนหน้านั้นจำได้แค่วันที่ได้รับการเจาะหูช่วงสามขวบซึ่งเจ็บมากนอนซบหน้ากับตักท่านแม่
ท่านแม่ปลอบใจว่า
"
อยากใส่ต่างหูสวยๆก็ต้องเจาะหูก่อน
"
นางคิดแต่ว่าจะได้เจอในสิ่งสวยงามแต่ดีจังไม่ต้องไปโรงเรียนเหมือนโลกที่เคยจากมาคราวก่อน
แต่หารู้ไม่
นางต้องตื่นเช้าอยู่ดีถ้าต้องการรักษาโรคที่ติดตัวมาถึงขนาดต้องฝึกวิชายุทธแต่เช้าตรูถึงสิบปี
@@@
..........................
*
(บทแรก-
บทที่5
ต้องแก้ไขสำนวนอีกนิด รอจบเรื่อง จะเกลาไว้ท้ายสุดนะค่ะ)*<<<
>>