“ตื่นได้แล้วเด็กดี” เสียงทุ้มแลดูนุ่มลึกน่าค้นหาของภาคิน ที่กำลังนั่งบนเตียงนุ่มสีฟ้าครามเหมือนน้ำทะเลที่กว้างใหญ่ สายตาคมจ้องมองเด็กน้อยแสนขี้เซ้าที่มุดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหน้า ก่อนภาคินจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจยามได้ยินเสียงบ่นงืมงัมทั้งๆที่ยังไม่ตื่น สงสัยคงจะบนเขาอยู่ในความฝันแน่ๆ
“พ่อ..น้องยังไม่ตื่นอีกเหรอ” เสียงเรียกไม่ได้ทำให้ภาคินชะงัก หนุ่มใหญ่ก้มลงคลอเคลียที่ใบหูเล็ก ไล้ไปต้นคอสูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวของลูกชายคนเล็กของบ้าน ใช่..ลูกชาย
“ให้ตายสิพ่อ..แอบลวนลามน้องอีกแล้วไม่รอพวกเราเลย” เสียงของชายอีกคนที่เข้ามาในห้องโดยไม่ขออนุญาต เมฆาเดินเข้ามาในห้องนอนของน้องชาย หลังจากพี่ภูผาเดินขึ้นมาตามเพียงแปปเดียว แต่ก็ไม่แปลกใจหนัก ที่เข้ามาเจอพ่อของตัวเองกำลังฉวยโอกาสตอนที่น้องชายหลับ ก็จะแปลกใจทำไม เพราะตัวเองก็ทำไมต่างกัน
“ทำไมฉันต้องรอพวกแกด้วย”
“โธ่ พ่อ พวกเราก็อยากร่วมวงด้วย/โธ่ พ่อ พวกเราก็อยากร่วมวงด้วยนะครับ” เสียงประสานหลังประตูคือเสียงของลูกชายฝาแฝดของเขาที่มีนิสัยไม่ได้ดีเหมือนหน้าตา
“หึ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ภูผา เมฆา วายุ พายุ ว่าพวกแกทำน้องจนหมดแรงตอนฉันไปต่างประเทศ” ภาคินแค่นเสียงหัวเราะหึๆ เขาค่อนข้างจะเจ็บใจตอนที่ได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์ตอนโทรมาหาลูกชายคนเล็กด้วยความคิดถึง โทรมาสายแต่ไม่รับสักทีทำให้ภาคินแปลกใจ จนรับรู้จากคนใช้ที่สนิท ถึงได้รู้ว่าเจ้าลูกชายตัวดีทั้งหลายกำลังกินลูกชายสุดที่รักของเขาอย่างสนุกสนาน ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ทำให้ภาคินรู้สึกพ่ายแพ้
“อึก..อื้อออ..อ่า” มือหนาสอดเข้าไปใต้ผ้าห่ม ฟ้อนเฟ้นร่างบางผ่านชุดนอนสีอ่อน แม้จะหลับ นธีร์หรือธีกลับรู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มนวลและแผ่วเบา ความต้องการถูกก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จกร่างกายที่หนาวสั่นเพราะเครื่องปรับอากาศ ตอนนี้มันกำลังร้อนด้วยความรู้สึกบางอย่างที่นธีร์ไม่เคยชินกลับมัน นธีร์บิดเร้าร่างกายหลีกหนีสัมผัส แต่กลายเป็นตอบสนองมือคู่นั้นทำให้ภาคินนั้นพอใจ
“เสียงหวานจัง ผมอารมณ์ขึ้นแล้วเนี่ย” พายุกุมทอนกายที่พองขยายคับแน่นกางเกงจนอึดอัดพลางพูดเสียงสั่น
“หื่นชะมัด พายุ”
“ทำมาเป็นพูด ไอ่นั่นของนายมันก็ตื่นแล้วน่ะ วายุ” ก้มมองกึ่งกลางลำตัวอีกฝ่าย
“แค่เสียงก็ทำเอาเกือบถึงแล้ว นายก็ไม่ต่างกันหรอก”
“พอๆ ก็ตื่นกันหมดเนี่ยแหละ” เมฆาแทรกกลางยุติการปะทะของน้องชายฝาแฝดของตัวเอง ก่อนจะนวดคลึงท่อนเนื้อที่ตื่นตัวเพียงแค่ได้ยินเสียงครางหวานๆจากน้องชายคนเล็กของบ้าน เพียงแค่ได้ยินก็คลั่งแทบแย่แล้ว
“อ๊า...ป๋า..ป๋า..อ๊า..” ร่างบางกรีดร้องเรียกหาผู้เป็นพ่ออย่างตะหนก น้ำสีขาวพุ่งออกมาจากส่วนปลายทั้งๆที่ยังไม่มีใครแตะต้อง ภาคินทำเพียงสัมผัสไปมาตามร่างกายที่บอบบางพร้อมกับหยอกเย้าด้วยคำพูดสุดแสนจะน่าอาย ช่วงเวลาที่คนอื่นๆกำลังเถียงกัน ภาคินก็จัดการมอบความสุขสันต์ให้แกเด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกคนนี้
“เด็กดีของป๋า ว่าไงครับ..” ทันทีที่นธีร์ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบใบหน้าที่หล่อเหลาของคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อเต็มดวงตา ความรู้สึกเริ่มค่อยๆตื่นเต็มที่ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร เห็นอะไร ใบหน้าค่อยๆเห่อร้อน ความอายตีตื่นขึ้นมาทำเอาร่างบางอย่างลุกหนีถ้าไม่ติดว่า มีแขนกำลังรั้งตัวเขาไว้อยู่
“ฮือออ...ฮ้า..อ่า..ป๋า..อื้อ..” ทั้งๆที่อายแต่ร่างกายกับเรียกร้อง นธีร์ขยับกายเข้ามือหน้าที่ร้อนและหยาบกร้าน เสียดสีบดเบียดเข้าหา ร้องเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงกระเส่า
“ไหนบอกป๋าสิ..อยากให้ป๋าทำอะไร..หือ?”
“จับ..ฮือ..จับมัน...จับมัน” นธีร์ดึงมือภาคินที่ป้วนเปี้ยนแถวๆสะโพกเล็กมาจับจุดอ่อนไหวกลางลำตัวของตัวเอง มือเล็กๆนั้นสั่นจนห้ามไม่อยู่ ดวงตากลมโตสั่นระริก
“จับแบบไหนดีหือ? แบบนี้” นิ้วเรียวหยาบนิ้วคลึงเบาๆ “หรือแบบนี้?” ภาคินกำรอบๆแท่งเนื้อชักขึ้นลงจนอีกฝ่ายครางลั่น ทำเอาภูผาต้องรีบเดินไปปิดประตูห้องแทบไม่ทัน ไม่ใช่กลัวคนอื่นมาเห็น แต่ไม่อยากให้ใครนอกจากพวกเขาได้ยิน เสียงร้องหวานแบบนี้
“อื้อออ..อ๊า..” เอวบางสอบเด้งขึ้นพยายามให้มันเสียดสีกับมือให้มากที่สุด ยิ่งทำยิ่งน่าอายยิ่งทำร่างสูงทั้งหลายยิ่งชอบใจ ภาคินกลั้นแกล้งอีกฝ่ายโดยไม่ยอมขยับมือ ปล่อยให้ร่างบางทุรนทุรายกับความต้องการที่ไม่อาจถูกเติมเต็มได้
“พ่อ..แกล้งเยอะไป..น้องร้องไห้แล้ว” ภูผาเดินมาข้างเตียงนั่งลงข้างๆน้องชายที่ตอนนี้กำลังร้องไห้ด้วยความทรมาน ภูผาก้มลงจูบลงมาที่หน้าผากบางไล้ลงต่ำมาที่กลีบปากสีแดงอมชมพู ไล้เล็มคล้ายกำลังชิมขนมรสเลิศที่ทำจากปาติซิเย่ชื่อดัง ถึงภูผาจะไม่ชอบของหวานสักเท่าไร แต่ของหวานตรงหน้านี้คือข้อยกเว้น
“อืมม..พี่ภู..พะ..พี่ภู..อื้ออออ” นธีร์เอ่ยเรียกพี่ชายของตนเอง ที่กำลังบดจูบตนอย่างเร่าร้อน ธีร์จูบตอบอีกฝ่ายอย่างเงอะงะไร้เดียงสา ทำให้ภูผาได้ใจสอดลิ้นเข้าไปหยอกเย้าลิ้นเล็กอย่างสนุก เมฆามองพี่ชายคนโตที่กำลังจูบร่างบางกับผู้เป็นพ่อเล่นกับแกนกายน้อยๆนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกแยกของเล่น รีบเดินอ้อมหลังภาคินไปขึ้นไปที่หัวเตียง จับมือบางที่กำเสื้อภูผาแน่นให้หลุดออกมา ริมฝีปากอุ่นๆไล้จูบตามฝ่ามือ ปลายนิ้ว และหลังมือ เมฆาแลบลิ้นออกมาเลียตามรูปทรงของนิ้ว
นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ จนนิ้วกลาง เมฆากลืนกินมันทั้งหมดช้าๆ มืออีกข้างที่เหลือเลื่อนลงมาจับท่อนเนื้อของตัวเองออกมารูดขึ้นลงปลดเปลื้องอารมณ์ที่ก่อตัว
“อื้ออ..พี่มะ..เมฆ...อื้อออ..” พูดได้ไม่กี่คำคำพูดก็ถูกกลืนหายไปในลำคอด้วยฝีมือของภูผา
“อย่าลืมฉันสิ/อย่าลืมผมสิ”แฝดพี่แฝดน้องที่น่าสงสารถูกแย่งพื้นที่จำกัดในการแทะเล็มไปหมด ทั้งสองคนมองหน้ากันเหลือบไปเห็นขาเรียวที่เหยียดแกร่ง ก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ในเมื่อไม่มีส่วนไหนพอที่จะแทรกเข้าไปแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดที่ทำให้ร่างบางพอใจ
“อ่ะ..อ่ะ..หย๊า!” ธีย์ผวาชักเท้ากลับเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ต้นขาทั้งสองข้าง พอก้มมองก็พบพี่ชายฝาแฝดของตนกำลังไล้เลีย ขบกัด ดูดดุล จนขาขาวจนเกิดรอยแดงช้ำ ตอนนี้ธีร์ไม่สามารถขยับกายได้ ร่างกายถูกตรึงไว้กับทีทำได้แต่บิดไปมาเหมือนหลีกหนีที่ไร้ผล
การกระทำที่หวาบวาบเกินบรรยายถาโถมใส่จนสติเลือนราง สิ่งที่ธีร์ทำได้มีเพียงร้องห้ามปะปนเสียงคราง และเสียงหอบ
“พอ..อื้อ..พอแล้ว..ป๋า..อ่า..พี่ภู..พี่เมฆ..อ่ะ..อื้อ..พี่วา..พี่พาย..อิ๊..ย๊า..อ๊า” ธีร์ร้องครางลั่นเรียกทุกคนอย่างยากลำบาก ความกระสันตีตื้นจนสติพร่าเบลอ และจมลงสู่ความหรรษา
ภาคิน : พอไม่ได้หรอกเด็กดี ป๋ายังไม่อิ่มเลย
ภูผา : มันไม่มีทางพอสำหรับพี่
เมฆา : สำหรับธีร์ คำว่าพอมันไม่เคยมี
วายุ : ให้พี่กินสิ แต่คงจะไม่มีทางพอหรอกถ้าเป็นธีร์
พายุ : ถ้าอยากจะให้พอ ธีร์ต้องเติมเต็มพี่ตลอดเวลานะ
นธีร์ : พอแล้ว..อ๊า..ไม่นะ..ลึกไป..อื้ออ..อ๊า!!