8 แพร่ง ตอน Hell lover
6
ตอน
2.63K
เข้าชม
34
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
3
เพิ่มลงคลัง

ปี XXXX ณ หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่งในแดนอาทิตย์อุทัย ท่ามกลางสายฝนอันชุ่มฉ่ำชาวประมงหนุ่มผู้หนึ่งเดินถือร่มมุ่งหน้าไปตามทางอันนำไปสู่เรือนของตน  แต่แล้วเขาก็พลันต้องชะงักกึก  เมื่อเห็นหญิงสาวผมยาวในชุดกิโมโนสีแดงงดงามนางหนึ่งเดินฝ่าฝนมาในทิศทางตรงข้ามโดยปราศจากร่ม

สัญชาตญาณของสุภาพบุรุษทำให้ชายหนุ่มรีบเดินจ้ำเข้าไปแบ่งกำบังน้ำฝนในมือของตนให้ฝ่ายหญิง และแล้วความงามของสตรีผู้นั้นก็ทำให้ชาวประมงหนุ่มเผลอส่งยิ้มให้เธอไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม ซึ่งหญิงสาวผู้เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนนั้นก็แย้มยิ้มกลับมาเช่นกัน

“ ข้าจะขอติดตามท่านไปตลอด... ” คือประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากของหญิงงามผู้นั้น  ซึ่งส่งผลให้ชายหนุ่มรู้สึกปลาบปลื้มใจราวกับได้สมบัติอันมีค่าที่สุดในชีวิตมาครอบครองโดยไม่ทันได้ตั้งตัวก็ไม่ปาน

ทว่าเพียง ๗ วัน หลังจากแต่งงานและอยู่กินกันแบบข้าวใหม่ปลามันที่ใครๆในหมู่บ้านก็อิจฉา  รุ่งเช้าของวันที่ ๘ ฝ่ายชายก็เหลือเพียงร่างอันไร้วิญญาณซึ่งนอนเปลือยอยู่บนที่นอนของตนเอง โดยปราศจากเงาของภรรยาผู้เลอโฉม  และสิ่งที่ชาวบ้านคนอื่นๆทั้งสงสัยและหวาดวิตกยิ่งกว่าการที่สาวงามลึกลับผู้งดงามอันเป็นคู่ขวัญของชายหนุ่มผู้วายชนม์ได้หายตัวไปอย่างลึกลับและไร้ร่องรอย ก็คือ ร่างอันดูซูบผอมผิดปกติของผู้ตาย  อันมีลักษณะผิดไปจากยามยังมีชีวิตเมื่อช่วงเย็นของวันที่เพิ่งผ่านมาราวฟ้ากับดิน...!!

.................................

ค.ศ. ๑YYY ณ โบสถ์แห่งหนึ่งในเบอร์ลินในยามดึกสงัด บาทหลวงหนุ่มผู้ย้ายมาประจำอยู่หมาดๆ เพิ่งจะสามารถหลับตาลงไปบนที่นอนแห่งใหม่ซึ่งยังไม่คุ้นเคยได้  และในคืนแรกของการค้างอ้างแรมต่างถิ่นนั้นเอง  นักบวชหนุ่มผู้หล่อเหลาก็ฝันเห็นสาวน้อยรูปงามนางหนึ่งมาเสนอสัมพันธ์สวาทให้ถึงที่นอน และด้วยเหตุที่ทั้งสติและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของมนุษย์ยามหลับอยู่ในห้วงฝันนั้น ช่างเลือนลางและไร้อำนาจกว่าตอนตื่นมากนัก  บาทหลวงหนุ่มจึงปล่อยตนเองให้ไปตามกระแสแห่งอารมณ์กามในความฝันดังกล่าวจนสำเร็จความใคร่ทั้งที่ยังหลับอยู่  จากนั้นในรุ่งเช้าของวันถัดมาบาทหลวงหนุ่มก็ถูกพบในสภาพของศพอันขาวซีดซึ่งนอนตายอยู่บนเตียงของตนเอง  โดยปราศจากร่องรอยของการทำร้ายใดๆ...!!

....................................

พ.ศ. ๒๕ZZ ในประเทศไทย ผู้คนทั้งหลายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งต่างพากันประณามเด็กหนุ่มต่างถิ่นผู้มีวัยเพียง ๑๙ ซึ่งมาแต่งงานกับเศรษฐีนีชราวัยเกือบ ๘๐ ผู้ร่ำรวยที่สุดในหมู่บ้าน

ชาวบ้านทั้งหลายต่างคะเนว่า อีกไม่นานภรรยาที่แก่จนเรียกว่าเข้าสู่ช่วงแง้มฝาโลงก็จะตายไป  และไอ้หนุ่มแมงดาปีกทองรูปหล่อนั่นก็จะกลายเป็นหนูตกถังข้าวสาร

และเพียงแค่ผ่านคืนแรกของการอยู่กินกันฉันสามีภรรยาไป งานศพก็ถูกจัดขึ้น  แต่มิใช่งานศพของเศรษฐีนีชราตามที่ทุกๆคนคาดคิด  หากกลายเป็นงานศพของไอ้หนุ่มรูปงามต่างถิ่นผู้เป็นสามีแทน  และสภาพศพอันเปลือยเปล่าของฝ่ายชายที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งบ่งชัดว่าเขาตายหลังจากมีสัมพันธ์สวาทกับภรรยารุ่นยายก่อนตายอย่างแน่นอน ก็ทำให้ชาวบ้านทุกคนสงสัยยิ่งนักว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ไอ้หนุ่มคนนี้ตายได้...?

.............................

เดือนกุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑  กลางป่าลึกในเขตแม่น้ำอะเมซอน นักวิจัยสาวผู้หนึ่งซึ่งพลัดกับพวกพ้องขณะเดินทางจนหลงเข้าไปในป่าลึก กำลังนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

เข็มทิศก็ชำรุด อาวุธติดตัวและเสบียงอาหารก็ไม่มี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือร่างกายของเธอไม่มีแรงพอจะขยับไปไหนได้อีกแล้ว  และในวินาทีของความเป็นความตายที่หนาวเหน็บและน่ากลัวนั้นเอง  หญิงสาวก็ตัดสินใจภาวนาต่อทุกสรรพสิ่งซึ่งสถิตอยู่ ณ บริเวณนั้นว่า  หากเธอสามารถรอดกลับออกไปได้ไม่ว่าจะต้องแลกกับสิ่งใดเธอก็ยอม

สิ้นคำอ้อนวอนดังกล่าว  สรรพสำเนียงอันวังเวงหวิววู่ก็ดังขึ้นที่รอบกายเธอว่า

“ ลูกของเจ้า...สายเลือดของเจ้า...จะมอบให้ข้าได้ไหม...? ”

.....................................

๑๕ ธันวาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑ ในโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อแห่งหนึ่งในประเทศไทย นักวิจัยสาวผู้รอดชีวิตมาจากป่าอะเมซอนได้ราวปาฏิหาริย์เมื่อ ๑๐ เดือนก่อน  กำลังออกแรงเบ่งสุดฤทธิ์ในห้องคลอด

ไม่มีใครรู้ว่าเธอท้องกับใคร ทราบกันแต่เพียงว่าหลังจากกลับมาที่ไทยในเดือนมิถุนายนได้ไม่กี่วัน หญิงสาวก็เข้าฝากครรภ์ที่ท้องได้ ๓ เดือนแล้วกับโรงพยาบาลแห่งนี้ทันที  ผู้คนที่รู้เรื่องจึงคาดเดากันว่า เธอน่าจะท้องกับฝรั่ง แต่ฝ่ายชายไม่ยอมรับเป็นพ่อ จึงต้องบากหน้ากลับมาคลอดลูกที่เมืองไทย  ซึ่งความเป็นไปได้ก็มีสูง เพราะหญิงสาวไม่มีทีท่าจะสนใจความเป็นไปของทารกในครรภ์เลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอมีความต้องการแค่จะคลอดเด็กในท้องให้ออกมาเป็นผู้เป็นคนได้โดยปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีใครเดาออกอีกว่าทำไม เพราะปกติวิสัยของหญิงที่ท้องไม่มีพ่อมักจะเลือกการทำแท้งเป็นทางแก้ปัญหาเสียมากกว่า

 

สุดท้ายนักวิจัยสาวก็ให้กำเนิดทารกฝาแฝดต่างเพศที่น่ารักออกมา ๑ คู่ในตอนเที่ยงคืน เธอแจ้งนามสกุลของทารกทั้งสองเป็นอักษรไทยว่า “ เฮลล์ ”  ผู้คนทั้งหลายจึงเดาว่าน่าจะเป็นนามสกุลของพ่อเด็กซึ่งอยู่ต่างประเทศ  ซึ่งหลังจากเด็กทั้งสองเข้าสู่ช่วงหย่านม นักวิจัยสาวก็ฝากทายาททั้งคู่ไว้กับแม่บ้านและเดินทางไปสานงานต่อที่ต่างประเทศทันที

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว