นางมารยอดชีวัน   (นางเอกไม่มีนะค่ะ)
2
ตอน
1.49K
เข้าชม
30
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

ต้นน้ำ  วิรังรอง

25ปี

แผ่นดิน  เทวกุล

31ปี

ปลายฝน วิรังรอง

28ปี

จิระเดช วงษ์สุริยะ

 

(เนื้อเพลง) หญิงร้าย-ชายเลว

(ศิลปิน)  ปาน ธนพร

(อัลบั้ม) นรกในใจ

*สุดท้ายเมื่อความแตก  ถึงเวลาแยกทาง

เพื่อนกับแฟนเขาแทงข้างหลัง

มันผิดหวังไม่มีชิ้นดี

เคยสงสัยเพิ่งกระจ่างกับใจวันนี้

เปิดตัวกันอย่างดี  โดนเหยียบใจกันต่อตา

ถูกพิษของงูเห่า แล่นเข้าไปที่หัวใจ

คนเคนรัก เค้ารุมทำร้าย มันอับอายซะจนหน้าชา

เธอไม่นึก ไม่รู้สึกอะไรสินะ

จับมือกันเข้ามา บอกว่าเธอไม่ตั้งใจ

 

อยากได้ใช่มั้ย ได้เลย ถ้าคนคุ้นเคยต้องการ

เมื่อกล้าตลบหลังกันจะกลัวฉันแค้นทำไม

ถึงมันเจ็บกว่าโดนเชือดคอ แต่กล้าขอก็กล้าให้ไป

รู้หน้าไม่รู้ใจ  เมื่อที่แท้ผู้หญิงก็ร้าย ผู้ชายก็ เลว

(ขนาดคนที่เป็นเพื่อนตาย อีกหนึ่งคือคนรู้ใจ ยังเลว)

 

คูณสองของความเจ็บล้นมาเป็นน้ำตา

ความผูกพันที่เคยผ่านมา ไม่มีค่าให้ใครห้ามใจ

คน คนนี้ต้องยินดีกับเธอใช่มั้ย

ให้คนที่โหดร้าย กับอีกคนที่แย่งแฟน

*อุ่นใจไม่นึกกลัว ใกล้ตัวทั้งนั้นยิ่งรู้ว่ามันยิ่งอันตราย*

 

เสียงเพลงในร้านเหล้าเล็กๆดังวนไปมาตั้งแต่ร้านเปิดจนร้านจะปิดอยู่แล้วแต่ร่างเล็กๆที่ขอแต่เพลงนี้ตั้งแต่เริ่มเข้ามานั้งจนบัดนี้เมาจนหมดสภาพในซอกมืดๆของร้านไกลตัวเมืองออกมาพอสมควรพล่ำร้องเพลงนี้และฟูมฟายไปด้วยไม่ต้องเดาว่าอีแบบนี้คงอกหักมาแน่นอนตั้งแต่เปิดร้านมาเจ๊นิดเห็นมาจนชินชาแล้วล่ะ...แต่รายนี้ถ้าจะหนัก เพราะหากเป็นตามเนื้อเพลงเจ๊นิดก็เข้าใจมันดีว่ามันเจ็บขนาดไหนเพราะตัวเองก็เคยเจอะเจอมากับตนเองจนเป็นบ้าบอเสียผู้เสียคนไปพักใหญ่...มาจนถึงวันนี้แผลเป็นนั่นยังคงอยู่จนผู้หญิงกร้านๆแบบเธอไม่อาจไว้ใจในความรักอีกเลย...

วัยรุ่นกลุ่มใหม่ที่เพิ่งเข้ามานั่งหลังจากไปพี้ยาและอาจมีแข่งรถซิ่งกันมาด้วย

เริ่มเมียงมองร่างเล็กๆเหมือนเด็กสาวเพิ่งโตแต่ตอนเข้ามาเธอพอจะมองออกว่าคงยี่สิบต้นๆแล้วกับสภาพแว่นกรอบหนาเหมือนเด็กเนิดฯจนเจ๊นิดตองถามซ้ำยามหญิงสาวสั่งเหล้ากลมใหญ่ดื่มคนเดียว

สายตากร้านโลกเริ่มเป็นห่วงเพศเดียวกันเพราะดูออกว่าตนปิดร้านเมื่อหรยายหนูเนิดฯนี่ถูกพวกกากสังคมพวกนี้ลากลงไปกินในน้ำแบบไก่สดแน่ๆ

ในขนะนั้นเองที่แขกประจำยามชายหนุ่มหน้าดุผู้นี้เข้ามากรุงเทพฯจะแวะมาที่ร้านตนกำลังเดินเอื่อยๆลงมาจากชั้นบนซึ่งเป็น  ห้องพิเศษ  ของแขกพิเศษจริงๆของร้าน “ศาลาพักใจ” แห่งนี้  เธอรู้จักเขามานานมากๆตั้งแต่ยังมีอีกอาชีพด้วยซ้ำและเขาเองนั่นแหละที่ช่วยให้เธอกู้เงินมาเปิดร้านขายเหล้าแทนขายสิ่งอื่นเสีย

แล้วก็ปานฉุกใจคิดก่อนเขาจะเดินจากไป..

“คุณดินค่ะ”

ร่างสูงใหญ่หนวดเครารุงรังผมยาวละต้นคอใส่เมื้อเชิทลายสกอ็ตกับยีนเก่าๆ

หยุกช้าๆแล้วหันมามองเจ้าของร้านที่เขาคุ้นเคยดีไม่ได้เอ่ยปากถามเพียงยื่นมองหน้าของหญิงเจ้าของร้านวันไล่เรี่ยกับเขานิ่งๆ

นิดาหรือเจ๊นิด เดินมาที่ชายหนุ่มเงียบๆเช่นกันแล้วมองไปยังโต๊ะในสุดพร้อมพูดเสียงเบา

“ช่วยเอาบุญอีกสักครั้งนะคะคุฯดินปล่อยไว้อย่างนี้...อนาคตอาจมีเจ๊นิดคนที่สองเสียเปล่าๆค่ะ”

คุณดิน หรือแผ่นดิน มุ่นคิ้วเล็กๆแปลกใจมากกว่าปกตินิดาไม่ชอบยุ่งเรื่องลูกค้า...

แต่พอมองตามไปเห็นสภาพเมาสิ้นถ้าแล้ววกกลับตามสายตาเจ้าของร้านสาวเขาจึงเข้าใจ

เฮ้อ...

ความรักมันมีค่าขนาดนี้เลยหรือไร?

ผู้หญิงนี่ก็แปลกดี ชอบรักคนอื่นมากกว่าตัวเองดีแท้

............................

ในที่สุดเขาก็เห็นแก่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ที่เกินช้าๆเข้าไปหาร่างเล็กที่จัดเหล้าไปเกือบครึ่งขวดแล้ว...

เสื้อยืดสีฟ้าอ่อนๆรัดรูยร่างเล็กๆแบบมินิกับกางเกงขาสามส่วนสีขาว

ถึงเรียบๆแต่ก็ดูน่ารักสมตัวดีหากจะไม่เมาจนหมดสภาพ...

กระเป๋าผ้าแบบน่าจะทำมือเองลงไปคลุกผุ่นที่พื้นเรียบร้อยดี...

แว่นตากรอบหนาถูกเท้าเจ้าของเหยียบจนแตกเละไปแล้วเขาไม่แน่ใจว่าเธอตั้งใจหรือแค่เมาแล้วเหลอเหยียบมันเข้า

“ที่รัก...ผมมารับกลับบ้าน...ร้านจะปิดแล้วอย่างอนนานน่าไป...คิดเงินเจ้าของร้านเขาจะเก็บร้านแล้ว”

ใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมยาวๆดำสนิทตรงมากแต่ตอนนี้มันยุ่งๆไปบ้างเพราะเจ้าของเกลือกหน้าที่นองไปด้วยน้ำมูกน้ำตาไปตามพื้นโต๊ะและผมเธอก็ทำหน้าที่ต่างผ้าเช็ดหน้าที่ซับน้ำตาไปเสียแล้วใบหน้าหญิงสาวเล็กมาก...อาจเท่าฝ่ามือเขา ตาบวมจนแทบปิดจมูกและปากเจ่อแดงเพราะผิวเธอขาวมากๆ

หญิงสาวมองเขานิ่งไม่รู้ว่าจะเห็นเขาชัดไหม?

หรืออาจกำลังพยามมองเพราะแน่ละตาเธอไม่มีแว่น คงจะมองให้แน่ใจว่ารู้จักเขาหรือเปล่า

แต่อึดใจต่อมาเธอก็ชูสองแขนขึ้นแสดงให้เห็นว่าเธอรู้จักเขา...และเรียกร้องด้วยถ้าท่างว่าอยากให้เขาอุ้ม...

เอาละสิ ไอ้ดิน...งานจะเข้าเสียกระมัง เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหม?

“กลับบ้านเรา...อุ้มหน่อย”

เสียงใสๆแต่บี้เพราะร้องให้และอาจเมาด้วย

มองไปยังกลุ่ววัยรุ่นทั้งโขยงแล้วก็จำใจเล่นตามน้ำต่อไป

ไอ้อุ้มนะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะยายเมรีนี่ตัวเล็กกว่าเขามากเขาสูงร้อยเป็ดสิบหกซ.ม.หนักเก้าห้า...ยายเมรีนี่คงสูงสักร้อยห้าสิบต้นๆน้ำหนักน่าจะ...ราวๆสี่สิบกว่าๆหิ้วมือเดียวยังสบายเลย

แต่ที่แผ่นดินหนักใจคือเมาขนาดนี้จำทางกลับบ้านตัวเองถูกไหม?

 

หน้าเล็กๆเกลือกกลึ่งไปมาบนกร้ามเนื้อนั่นแน่นของหนุ่มร่างใหญ่วัยสามสามอย่างกับลูกแมว...อื่มแปลกดีเขาไม่เคยเอาใครไปเปรียบกับลูกแมวเปียกฝนเสียที...เธอคือคนแรกที่ถ้าท่างเหมือนมากเหมือนลูกแมวเปียกฝนต้องการผ้าห่มอุ่นๆ

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว