[SHINee SF] แมว ตอนพิเศษ 18+ │Minho x Key│

Y

[SHINee SF] แมว ตอนพิเศษ 18+ │Minho x Key│

[SHINee SF] แมว ตอนพิเศษ 18+ │Minho x Key│

Prokimlsm

Y

0
ตอน
1.77K
เข้าชม
42
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
12
เพิ่มลงคลัง

1 วันกับการเลี้ยงแมวของชเว มินโฮ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความวุ่นวายที่ 1 ฝึกแมวไม่ให้ทำลายเฟอร์นิเจอร์

 

 

 

 

 

 

 

คำแนะนำทั่วไป : การควบคุมแมวเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก เพราะฉะนั้นวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือซื้อที่ฝนเล็บเฉพาะแมวให้ หรือไม่ก็ตัดเล็บ

 

 

 

การตัดเล็บ สิ่งที่ผู้เลี้ยงควรทำคือใช้อาหารหรือขนมชิ้นโปรดหลอกล่อ แล้วค่อยๆใช้ที่ตัดเล็บสำหรับสัตว์เลี้ยงบรรจงตัดทีละนิ้วอย่างระมัดระวัง ห้ามตัดโดนส่วนที่เป็นเนื้อสีชมพูโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้แมวเลือดไหลและรู้สึกเจ็บ คุณอาจจะโดนข่วนได้

 

 

 

 

 

ที่ตัดเล็บสำหรับสัตว์ : ไม่มี (ยืมของคนมาใช้ก่อน)

 

 

 

อาหารที่ใช้หลอกล่อ : มีแล้ว

 

 

 

ความพร้อมของผู้ตัด : ติดลบ

 

 

 

 

 

 

 

เป็นเวลาเนิ่นนานที่ชเวมินโฮพยายามบีบอุ้งเท้าขาวและเพ่งหาเนื้อสีชมพูที่ว่า แต่พอจะหยิบกรรไกรตัดเล็บมาตัด ก็เล็งแล้วเล็งอีกไม่กล้าลงมือเสียที เพราะไอ้ประโยคที่ว่า 'จะทำให้เลือดไหลและรู้สึกเจ็บ' นั่นแหละที่ทำให้เขากลัว ขืนทำคีย์เลือดไหลล่ะก็ เขาคงโดนจับทุ่มออกนอกหน้าต่างแน่นอน

 

 

 

มินโฮคิดจะล้มเลิกความตั้งใจไปร้อยกว่าครั้งเห็นจะได้ แต่เมื่อหันไปมองโซฟาข้างหลังนี่สิ ร่างสูงถอนหายใจอย่างคนหมดแล้วซึ่งกำลังใจในการใช้ชีวิต มีโซฟาที่แสนจะนุ่มแท้ๆ แต่กลับต้องมานั่งอยู่บนพื้นแข็งๆ

 

 

 

เช้าวันนี้มินโฮถูกปลุกด้วยเสียงแกร๊กๆที่น่ารำคาญ เขาเดินหาที่มาอยู่นานจนพบว่าเป็นเสียงที่เกิดจากคนรักเขาเอง มินโฮเกือบเป็นลมล้มพับเมื่อเห็นว่าคีย์กำลังฝนเล็บอย่างเมามันส์อยู่บนโซฟาตัวโปรด

 

 

 

โซฟาที่เขาเลือกมาเองกับมือ เบาะหนังอย่างดีที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นกรณีพิเศษ เรื่องราคาหรือก็ไม่แพ้กระเป๋าใบโปรดของคีย์รวมกันหลาย 10 ใบ

 

 

 

แต่สภาพของมันในตอนนี้....บอกเลยว่าให้ฟรีแถมหมอนอิงเขายังไม่เอา....

 

 

 

"มิโน ปลาหมดแล้วอะ คีย์ขออีกน้า"

 

 

 

คีย์ละสายตามาจากสารคดีตามติดชีวิตปลาแซลม่อนแล้วเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน  ถึงจะดูน่ารัก แต่สำหรับมินโฮนั้น ประโยคดังกล่าวเหมือนเป็นสัญญาณหมดเวลาการตัดเล็บมากกว่า

 

 

 

ปลาดิบ 5 ถาด กับเวลาครึ่งชั่วโมง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

 

"คิบอมอ่า กินช้าๆหน่อยสิ"

 

 

 

"ก็มันอร่อยนี่นา" ร่างบางยิ้มให้และใช้อุ้งเท้าอีกข้างลูบพุงอย่างอารมณ์ดี "มิโนทำไรกับมือคีย์เหรอ เห็นจับๆบีบๆอยู่ตั้งนาน"

 

 

 

"เอ่อ..."

 

 

 

"ทำอะไรอะ" ใบหน้าขาวยื่นเข้ามาใกล้เอียงคอน้อยๆอย่างสงสัย "นวดๆให้เหรอ"

 

 

 

ภาพของคนตรงหน้าทำให้มินโฮนึกอยากจะอุ้มร่างบางเข้าห้องนอนแล้วจัดการให้หนำใจ แต่เดี๋ยวก่อน มันยังไม่ใช่ตอนนี้ เขาต้องกำจัดศัตรูตัวร้ายที่มาย่ำยีโซฟาของเขาเสียก่อน

 

 

 

"คิบอม ถ้าฉันจะตัดเล็บนี่จะยอมไหม"

 

 

 

"ไม่!"

 

 

 

มินโฮสะดุ้งเมื่อน้ำเสียงหวานรื่นหูเมื่อครู่กลับกลายเป็นตะโกนเสียงแข็ง สายตาที่เคยมองมาอย่างออดอ้อนก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน อุ้งเท้าขาวถูกเจ้าของดึงกลับคืนไปแล้วซุกซ่อนไว้ในเสื้อ ท่าทางนั้นของคีย์ทำให้มินโฮคิดจะยอมแพ้อย่างถาวร

 

 

 

แต่เมื่อตาคมหันไปเห็นสภาพของโซฟาที่เบาะหนังขาดเป็นทางยาว แถมฟองน้ำข้างในยังกระจุยกระจายไปทั่วพื้นห้อง ภาพที่แสนสะเทือนใจเหล่านั้น ทำให้ร่างสูงมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

 

"ยังไงก็ต้องตัด!"

 

 

 

"ไม่! เรื่องที่นายตัดขนหางฉันเมื่อวานฉันยังเอาคืนไม่สาสมเลยนะ อย่ามายุ่งกับเล็บฉัน!" คีย์ตะโกนลั่น ร่างบางถอยหนีไปหลบอยู่มุมห้อง ขนที่หางพองขึ้นเพราะความโกรธ

 

 

 

"ทีนายมาฝนเล็บกับโซฟาลูกรักของฉันล่ะ เอาอุ้งมือมาคิมคิบอม"

 

 

 

"หยุดนะชเวมินโฮ! ถ้าก้าวเข้ามาอีก ฉันเอานายตายแน่"

 

 

 

ร่างสูงหาได้กลัวคำขู่นั้นไม่ ความรักที่มินโฮมีให้โซฟาเป็นแรงผลักดันให้เขาสู้ต่อไป และเมื่อก้าวขาเข้าใกล้คีย์เพียงแค่ก้าวเดียว คนตัวเล็กที่นั่งขดอยู่ก็พุ่งใส่แล้วรัวตบเข้าที่ใบหน้าเขาไม่ยั้ง

 

 

 

"โอ๊ยๆๆๆคิบอม เจ็บนะ โอ๊ย! ซี๊ดด หยุดๆๆ พอได้แล้ว ฉันยอมแพ้แล้ว โอ๊ย อย่าข่วนนม อ๊าก แสบแล้วพอแล้ว ขอโทษครับเมีย จะไม่ทำอีกแล้ว ไม่ตัดแล้ว โอ๊ย!"

 

 

 

 

 

 

 

**หมายเหตุจากชเว มินโฮ : ในแมวบางตัวที่ดุมากๆ คุณก็ทำได้แค่ทำใจ แล้วซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ซะ ส่วนเรื่องตัดเล็บน่ะ ลืมมันไปเถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความวุ่นวายที่ 2 ห้ามแมว(ที่กลัวความสูง)ไม่ให้ขึ้นที่สูง

 

 

 

คำแนะนำทั่วไป : ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายๆเพียงแค่หาของไปวางให้เต็มพื้นที่ เมื่อแมวเห็นว่าไม่มีที่ว่างพอให้อยู่ มันก็จะเลิกกระโดดขึ้นไปเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ร่างสูงยืนกอดอกมองตู้เสื้อผ้าอย่างครุ่นคิด คำแนะนำในอินเตอร์เน็ตบอกให้เอาของขึ้นไปวางเพื่อจำกัดที่ว่าง แล้วมันต้องใช้อะไรวางถึงจะเพียงพอสำหรับตู้เสื้อผ้าขนาดยักษ์ 3 ใบกันล่ะ

 

 

 

หลังจากยกเลิกการตัดเล็บแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปคนละมุม แต่ไม่กี่นาทีต่อมามินโฮก็ต้องหัวหมุนกับการละเล่นอุ้มแมวลงจากตู้ กิจกรรมยามว่างชนิดใหม่ที่คนรักของเขาหยิบยื่นให้โดยไม่ได้ตั้งใจ เสียงโวยวายของคีย์ที่มินโฮนับได้ 4 ครั้งถ้วนตลอดเวลาไม่ถึงชั่วโมงทำให้เขาเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นไมเกรน

 

 

 

มินโฮมองซ้ายมองขวาสำรวจไปทั่วห้อง สายตาคมไปหยุดอยู่ที่กล่องรองเท้านับร้อยกล่องที่กองอยู่มุมหนึ่ง สิ่งนี้แหละที่คงจะพอช่วยเขาได้ มือหนารวบรวมกล่องเปล่าทุกกล่องที่หาได้ในห้องแต่งตัวออกมา ขายาวเหยียบบนเก้าอี้แล้วนำกล่องเหล่านั้นวางเรียงบนหลังตู้ทีล่ะกล่อง ขณะที่ทำในหัวก็พลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเช้าที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ชเวมินโฮฮฮฮฮฮฮฮ ช่วยด้วยยยย!!"

 

 

 

เสียงร้องเรียกจนปวดหู ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังนั่งทำแผลอยู่ถึงกับวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องนอน

 

 

 

"คิบอม" ตากลมโตมองซ้ายมองขวา หาคนเรียก ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนคีย์จะกำลังเผชิญกับเรื่องเดือดร้อนอยู่ "คิบอม นายอยู่ไหน"

 

 

 

......เงียบ.......

 

 

 

เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ ร่างสูงจึงเริ่มกระวนกระวาย เสี้ยววินาทีหนึ่งมินโฮคิดว่าคีย์อาจจะพลัดตกระเบียงหรือเปล่า มือหนากุมหัวใจที่เต้นโครมครามเพราะความเป็นห่วงแน่นแล้ววิ่งไปยังจุดที่คิด

 

 

 

"มินโฮฮฮฮฮฮฮ"

 

 

 

ขาเรียวที่กำลังก้าวไปที่ระเบียงหยุดชะงัก เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก เสียงที่ได้ยินมันบ่งบอกว่าคีย์ยังคงอยู่ในบ้าน มินโฮก้าวยาวๆวนไปดูทุกห้องอีกครั้ง แต่ก็ยังไร้วี่แวว

 

 

 

"คิบอมอยู่ไหน ฉันไม่เล่นนะ หัวใจฉันจะวายอยู่แล้ว ออกมา"

 

 

 

"ฉันอยู่ในห้องแต่งตัววว"

 

 

 

มินโฮเดินเข้าไปยังส่วนในสุดของบ้าน ปลายสุดของทางเดินมีห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่คีย์เอาไว้ใช้เก็บเสื้อผ้า ใบหน้าคมเริ่มแสดงอาการหงุดหงิดที่มองเข้าไปแล้วไม่เห็นจะเจอคนตัวเล็กอย่างที่เจ้าตัวบอกเลย

 

 

 

"คิบอม ฉันบอกว่าไม่เล่นไง ออกมา"

 

 

 

"ฉันไม่ได้แอบนายนะ ฉันอยู่บนตู้"

 

 

 

และเมื่อร่างสูงเงยหน้าขึ้นมอง คิ้วหนาก็ยิ่งเป็นปมมากกว่าเก่า บนตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ที่วางเรียงกัน มีเพียงหางฟูสีขาวเท่านั้นที่ห้อยลงมาจากตู้ใบกลางพอให้มินโฮรู้ว่าคีย์อยู่ข้างบน

 

 

 

"ขึ้นไปทำไม"

 

 

 

"ฉะ ฉันไม่รู้"

 

 

 

"แล้วทำไมไม่ลงมา"

 

 

 

"ละ ลงไม่ได้ ฮึก มินโฮเอาฉันลงไป ฉันขยับตัวไม่ได้ ตู้มันจะล้ม ฮืออออ"

 

 

 

มินโฮทั้งขำทั้งเครียด เขาส่ายหัวระอาก่อนจะคว้าของแถวนั้นมาใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยแมว กล่องใส่ของหลายต่อหลายใบถูกนำมาวางซ้อนกันเพื่อเหยียบขึ้นไป หลังจากได้ความสูงที่พอเหมาะ มินโฮก็ใช้มือกระตุกพวงหางนุ่มเบาๆเพื่อบอกให้คีย์รู้ว่าเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือแล้ว

 

 

 

"หันมาเร็ว"

 

 

 

"มะ ไม่ได้ ฮึก ฉันกลัว"

 

 

 

"หันก้นให้แบบนี้ ฉันจะเอานายลงมาได้ยังไง"

 

 

 

"ขยับแล้วตู้มันจะล้ม ฮือออ"

 

 

 

"ฉันจับอยู่นี่ไง ไม่ไว้ใจสามีเหรอครับ"

 

 

 

คีย์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าขาวหันมามองอย่างกล้าๆกลัวๆ ในขณะที่คีย์กำลังชั่งใจว่าจะเชื่อคำพูดนั้นดีหรือไม่ มินโฮก็อ้าแขนรอรับแล้วส่งยิ้มอบอุ่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้อีกคน

 

 

 

"มาหาสามีน้า ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก อย่างนั้นแหละ เด็กดี" ร่างสูงคอยพูดให้กำลังใจทำให้คีย์ค่อยๆหมุนตัวหันหน้ามาหาเขา มือหนาเอื้อมไปจับอุ้งเท้าแล้วดึงเบาๆเข้าหาตัว ปากอุ่นประทับลงบนหน้าผากขาวเป็นรางวัลให้คนเก่ง "เก่งที่สุดเลยครับที่รัก ทีนี้หลับตานะ เกาะไหล่ไว้แน่นๆด้วย"

 

 

 

มินโฮใช้พละกำลังทั้งหมดรวบตัวคีย์ลงมาจากหลังตู้ ถึงจะดูทุลักทุเลไปบ้าง แต่ในที่สุดแมวจอมยุ่งก็ถึงพื้นโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

 

 

 

"เฮ้อ..." ร่างบางถอนหายใจอย่างโล่งอก "ลงได้สักที ฉี่จะราดอยู่แล้ว"

 

 

 

 

 

 

 

เพียงแค่นึกถึง ก็เหมือนได้ยินเสียงโหยหวนของคีย์ที่ร้องเรียกชื่อเขามันดังขึ้นอีกครั้ง หมอนั่นทำให้เขารู้สึกหลอนเป็นบ้า

 

 

 

หลังจากแก้ปัญหาทุกอย่างเรียบร้อย มินโฮก็เดินยิ้มอารมณ์ดีมาที่ห้องนอน เขาเอนหลังพิงหัวเตียงแล้วหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาเปิด นิ้วเรียวกดลงบนแป้นพิมพ์อย่างชำนาญ ใช้เวลาไม่นานตารางการแข่งขันฟุตบอลทีมโปรดก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เขาจัดการตั้งปลุกในสมาร์ทโฟน ก่อนที่ตาคมจะหลับลงพลางคิดว่าจะงีบเอาแรงเสียหน่อย

 

 

 

แต่ทว่า ห้องมันเงียบผิดปกติไปหรือเปล่า เจ้าตัววุ่นวายที่ชอบส่งเสียงเจื้อยแจ้วรบกวนเขามันหายไปไหนอีกแล้ว

 

 

 

ร่างสูงเดินวนหาคนรักจนเกือบรอบบ้าน เขากำลังคิดว่าคีย์อาจจะออกไปไหนหรือเปล่า แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ สภาพคีย์ในตอนนี้คงไม่พร้อมจะพบใครทั้งนั้น

 

 

 

จึงเหลือเพียงที่เดียวที่ร่างบางน่าจะอยู่...

 

 

 

ภาพของหางสีขาวที่แกว่งไกวไปมาอย่างสบายอารมณ์อยู่บนหลังตู้ โดยที่พื้นมีกล่องเปล่ากระจัดกระจายไปทั่วทำให้มินโฮถอนหายใจ เขารู้สึกทั้งโล่งอกและหนักใจไปในเวลาเดียวกัน

 

 

 

"คิบอม ขึ้นไปทำไมอีก"

 

 

 

"ก็มันนอนสบายดี"

 

 

 

"ไม่กลัวความสูงแล้วเหรอ"

 

 

 

คีย์หันขวับกลับมามองเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ปากบางเบะลง ตาเรียวรีมองคนข้างล่างอย่างขอความช่วยเหลือ

 

 

 

"...ฮึก..."

 

 

 

"ไม่ต้องร้อง" มินโฮก้าวเข้าไปหาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย เขาหยิบกล่องไม้ทั้งหลายแหล่มาวางเรียงก่อนจะอุ้มแมวตัวแสบลงมาเป็นรอบที่ 5 "แล้วขึ้นไปได้ยังไงน่ะ มันน่าจะยากกว่าลงอีกไม่ใช่รึไง"

 

 

 

"ก็ตอนขึ้นมันไม่รู้ตัวนี่ เหยียบตรงนั้นปีนตรงนี้ รู้ตัวอีกทีก็ถึงหลังตู้แล้ว"

 

 

 

"อยากนอนก็ไปนอนในห้อง ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว อย่าขึ้นไปอีกล่ะ อุ้มนายลงมามันเหนื่อยรู้บ้างไหม"

 

 

 

ถึงจะบ่นพึมพำแต่คีย์ก็ยอมเดินออกมาจากห้องแต่งตัวโดยดี แต่ก่อนมินโฮจะตามออกไป ร่างสูงก็จัดการหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าขึ้นไปวางบนหลังตู้แทน หนักขนาดนี้คงพอให้แมวแสนซนของเขาเลิกปีนขึ้นไปได้สักที

 

 

 

หลังจากกำจัดพื้นที่ว่างบนตู้ได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2  มินโฮก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอน ริมฝีปากหนายิ้มกว้างเมื่อเห็นคีย์นอนขดตัวกลมอยู่บนเตียง ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือลูบหัว ในที่สุดก็เชื่อฟังเขาแล้วสินะ มือหนาคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ

 

 

 

การเป็นแมวทำให้คีย์น่ารักน่าเอ็นดูมากขึ้นไม่น้อย ถ้าไม่นับพฤติกรรมแปลกประหลาดล้านแปดที่เกิดขึ้น เขาก็คิดว่าอยากให้คีย์เป็นแบบนี้ตลอดไปอยู่เหมือนกัน

 

 

 

"ซี๊ดดดด" ร่างหนาสะดุ้งทันทีที่น้ำอุ่นกระทบผิวกาย รอยแผลถูกข่วนนับไม่ถ้วนทั่วทั้งตัวทำให้มินโฮตระหนักได้ว่า คีย์เป็นคนแบบเดิมนั่นแหละดีแล้ว

 

 

 

ตุบ!!

 

 

 

หลังจากชำระล้างคราบเหงื่อไปได้ไม่นาน มือหนาก็ต้องเอื้อมไปปิดน้ำ ใบหน้าคมทำท่าทางครุ่นคิด เมื่อครู่นี้เหมือนจะได้ยินเสียงอะไรตกหรือเปล่านะ มินโฮเงียบฟังอยู่ครู่ใหญ่ แต่เสียงนั้นก็ไม่ได้ดังขึ้นอีก

 

 

 

บางทีเขาอาจจะหูแว่วไป

 

 

 

"มินโฮฮฮฮฮฮฮ!!"

 

 

 

ร่างสูงสะดุ้งจนทำแชมพูในมือหล่น ไม่ใช่ เสียงนี้ไม่ใช่อาการหูแว่วแน่นอน ถึงจะดูเหมือนเดจาวู แต่มินโฮมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้มันกำลังเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง

 

 

 

คนถูกเรียกเปิดประตูห้องน้ำแล้วตรงไปที่ห้องแต่งตัวโดยไม่เสียเวลาคิด ภาพของกระเป๋าเดินทางที่หล่นลงมาจนเสื้อผ้ากระจายอยู่ทั่วห้องทำให้เขารู้สึกปวดหัวตุบๆ

 

 

 

"มะ มินโฮ เอาฉันลงไปที ฮือออ"

 

 

 

บางทีถ้าเขาไม่เอากระเป๋านั่นขึ้นไปวาง เขาก็คงจะไม่มีงานเพิ่มเยอะขนาดนี้ แต่จะว่าไป...ถ้าเขาไม่เอาคีย์ลงมา เขาก็คงไม่ต้องร้อนรนจนวิ่งแก้ผ้าโทงเทงออกมาจากห้องน้ำ ถ้าปล่อยคีย์ไว้บนนั้น ชีวิตเขาคงจะสงบสุขขึ้นมากทีเดียว

 

 

 

ร่างสูงคลี่ยิ้ม ความคิดเมื่อครู่ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่เป็นผลดีกับตัวเขา ถ้าปล่อยคีย์ไว้บนนั้น เขาก็จะสามารถกลับไปอาบน้ำได้อย่างสบายใจ อาจจะตามมาด้วยการเล่นเกมโปรดอีกสักรอบสองรอบ รอให้เบื่อๆไม่มีอะไรทำค่อยมาอุ้มคีย์ลงก็ยังไม่สาย

 

 

 

คิดได้ดังนั้นมินโฮกลับหันหลังแล้วเดินออกมาจากห้อง มือหนาไม่ลืมที่จะดึงประตูปิดให้อย่างเรียบร้อย เขาได้ยินเสียงคีย์โวยวายไล่หลัง แต่มันก็ไม่ได้ดังมากเหมือนตอนที่เปิดประตูทิ้งไว้ ช่างเถอะ อย่างน้อยถ้าไปอยู่ในห้องน้ำ เขาก็คงไม่ได้ยินอะไรแล้ว

 

 

 

นอนอยู่บนนั้นให้สบายนะ คิม คิบอม

 

 

 

 

 

 

 

**หมายเหตุจากชเว มินโฮ : ในแมวบางตัวที่มีความพยายามสูงมาก ก็ปล่อยมันไปเถอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความวุ่นวายที่ 3 ทำอย่างไรให้แมวเลิกตะครุบทีวี

 

 

 

คำแนะนำทั่วไป : ผู้เลี้ยงควรหาสิ่งอื่นให้เล่นเพื่อเป็นการทดแทน อาจจะเป็นของเล่นสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือเลือกใช้แอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ที่สามารถหาโหลดได้ทั้งในระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ถึงจะเป็นเวลาดึกมากแล้ว แต่ดูเหมือนแมวของเขาจะยังไม่หมดแรงเอาง่ายๆ ชเวมินโฮนั่งกลอกตาอยู่บนโซฟาตัวโปรด เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย คืนนี้จะดูบอลรู้เรื่องได้อย่างไร ในเมื่อมันมีแมวตัวใหญ่ยืนบังจอเกือบมิดอยู่แบบนั้น

 

 

 

แอพพลิเคชั่นสำหรับแมวบ้าบออะไร ไม่เห็นจะได้เรื่องสักอย่าง ก็โหลดมาให้จนหน่วยความจำในไอแพดเกือบเต็ม แต่ทำไมคีย์ถึงยังมาไล่ตะครุบบอลในทีวีอยู่อย่างนี้ล่ะ

 

 

 

"คิบอมมานั่งได้แล้วน่า ให้ฉันได้ดูอย่างสงบบ้างเถอะ"

 

 

 

เสียงหัวเราะคิกคักของคีย์ทำให้เขารู้ว่าคำขอนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้ มินโฮเอนหลังพิงโซฟาที่ยับเยินแล้วพยายามจะเอียงหัวมองทีวีในจุดที่คีย์ไม่ได้บังอยู่ แต่มันก็ช่างเป็นไปได้ยากเย็นเหลือเกิน เพราะร่างบางใช้อุ้งเท้าขาวตามตะกุยบอลไปทั่วจอ

 

 

 

เฮฮฮฮฮฮฮ!!!

 

 

 

เสียงโห่ร้องของกองเชียร์ทำให้มินโฮลุกพรวดขึ้นมา เสียงนั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าต้องมีทีมใดทีมหนึ่งทำประตูได้แล้วอย่างแน่นอน และเพราะความชอบส่วนตัวที่จะดูบอลแบบไม่มีเสียงคนพากย์มากวนใจ เขาจึงไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนยิงลูกเข้าโกล

 

 

 

"คิบอม ใครเตะเข้าอะ"

 

 

 

ปี๊ดดดดดดดด

 

 

 

มินโฮถอนหายใจอีกครั้ง เสียงนกหวีดเป่าลากยาวแบบนั้น หมดเวลาครึ่งแรกไปแล้วสินะ แมวดื้อหันมามองตาละห้อยแล้วยอมเดินมานั่งเฉยๆตามคำสั่งเมื่อหลายนาทีก่อนของเขา

 

 

 

"มิโน คุณบอลหายไปแล้วอะ"

 

 

 

ตารางคะแนนที่ขึ้นมากลางจอตอนนี้ทำให้มินโฮพอจะรับรู้ได้ว่าทีมที่เขาชอบเป็นฝ่ายนำ เสียงเฮเมื่อครู่คงจะเป็นเสียงจากกองเชียร์ฝั่งเขา แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรในการโห่ร้องดีใจกับ 1 แต้มที่นำไปนั้นเลยล่ะ

 

 

 

"มิโน อยากไล่จับบอลอีก"

 

 

 

"มันพักครึ่งอยู่"

 

 

 

"จะเอานี่"

 

 

 

คนถูกเซ้าซี้มองร่างบางด้วยสายตารำคาญ แต่ร่างสูงก็ยอมลุกไปหยิบแท็ปเล็ตที่วางอยู่ใกล้ทีวีมาให้ มือหนากดเปิดบอลคู่อื่นที่กำลังแข่งอยู่ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าคีย์

 

 

 

"เล่นในจอเล็กๆนี่ไปก่อนแล้วกัน" คนตัวเล็กยิ้มกว้าง อุ้งเท้าขาวตั้งท่าเตรียมตะปบ "แล้วแอพที่โหลดมาให้เล่น นายไม่ชอบเหรอ"

 

 

 

"มีแต่เกมจับหนูอะ จุดที่หนูโผล่ขึ้นในจอก็จุดเดิมๆ น่าเบื่อจะตาย แต่ฟุตบอลของมิโนสนุก เตะไปเตะมาไม่ซ้ำทางเดิมเลย คีย์ชอบ" คีย์ตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหมองเมื่อเอ่ยประโยคถัดมา "แต่มิโนไม่ชอบใช่ไหม คีย์ได้ยินเสียงถอนหายใจ คีย์ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะ มันควบคุมตัวเองไม่ได้"

 

 

 

เจ้าเหมียวเงยหน้ามองด้วยแววตารู้สึกผิด ถึงร่างบางจะไม่มีหูของแมว แต่มินโฮรู้สึกเหมือนคีย์กำลังทำหูลู่อยู่เลย สายตาน่าสงสารทำให้มินโฮคลายคิ้วที่ขมวดลง เขาย่อตัวนั่งที่พื้นแล้วดึงคีย์มากอด จมูกโด่งหอมฟอดเข้าที่แก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยว

 

 

 

"ฉันไม่ได้ว่าอะไร ถ้าสนุกก็เล่นไปเถอะ"

 

 

 

มินโฮนั่งมองคีย์ไล่จับบอลในไอแพดอยู่นานจนกระทั่งหมดเวลาพักครึ่ง ร่างสูงย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งบนโซฟาพลางคิดว่าคงจะได้เชียร์ทีมโปรดอย่างสบายใจเสียที

 

 

 

แต่เขาคิดผิด

 

 

 

ทันทีที่ภาพในทีวีเปลี่ยนจากโฆษณากลับเข้าสู่สนามแข่ง คีย์ก็คลานไปนั่งหน้าจออีกครั้ง และเมื่อผู้เล่นเริ่มเขี่ยบอล มินโฮก็ไม่ได้เห็นอะไรบนจออีกเลย

 

 

 

เสียงถอนหายใจยาวเยียดบ่งบอกว่ามินโฮเริ่มอยากร้องไห้ เขาหยิบแท็ปเล็ตขึ้นมาแล้วเร่งเสียงให้ดังกว่าในทีวีเพื่อเรียกให้คีย์กลับมาเล่นในนี้แทน แต่มันก็ไม่ได้ผลเลยสักนิด

 

 

 

ตาคมมองซ้ายมองขวาหาสิ่งที่น่าจะช่วยเขาได้ และแล้วมินโฮก็ค้นพบทางออกของชีวิต มือหนาเอื้อมหยิบลูกบอลพลาสติกของเล่นของลูกสุนัขขึ้นมา

 

 

 

ปี๊บๆ

 

 

 

ทันทีที่ได้ยินเสียงแหลมสูงของลูกบอลยาง คีย์ก็ละสายตาจากจอทีวีแล้วหันมาจ้องของในมือมินโฮตาเป็นมัน เมื่อเห็นว่าคีย์ค่อนข้างให้ความสนใจกับสิ่งนั้น มือใหญ่จึงปาบอลออกไปสุดแรง มันกระแทกเข้ากับผนังก่อนจะกลิ้งหายไปทางห้องครัว

 

 

 

และเมื่อมินโฮหันมาที่หน้าจออีกที เขาก็พบว่าคีย์หายตัวไปแล้ว ร่างสูงยิ้มกว้าง เขาได้ชีวิตอันสงบสุขกลับคืนมาเสียที จากนี้เขาคงจะได้เชียร์บอลอย่างมีความสุข

 

 

 

...แต่...

 

 

 

ความสุขมักสั้นเสมอ สำหรับคนอื่นอาจจะยาวกว่านี้เป็นวัน เดือน หรือปี แต่สำหรับชเวมินโฮ ความสุขเมื่อครู่มันอยู่กับเขาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

 

 

 

มินโฮก้มมองที่ปลายเท้าตัวเองเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาสัมผัส ที่ตรงนั้นเขาเห็นบอลลูกเล็กที่เขาเพิ่งจะโยนมันออกไป และสิ่งทีทำลายความสุขเขามากกว่านั้น มันคือร่างบางที่นั่งยิ้มหวานอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

 

 

 

เขาถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อย ร่างสูงดันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วขยี้หัวจนผมชี้ฟู อยากจะดุ อยากจะว่า อยากจะจับขังไว้ในห้องนอน แต่ก็ทำไม่ได้ มินโฮทำได้แค่หยิบบอลลูกนั้นขึ้นมาแล้วปาออกไปให้ไกลกว่าเดิม

 

 

 

เสียงโห่ร้องจากในทีวีเรียกให้คนบ้าบอลหันกลับมาตั้งใจดู ตาโตจดจ่ออยู่กับผู้เล่นเสื้อสีแดงที่กำลังเลี้ยงลูกไปใกล้ประตู แต่ในขณะเดียวกันนั้นผู้เล่นฝั่งตรงข้ามก็กำลังพุ่งเข้ามาหาจนร่างสูงเริ่มนั่งไม่ติด

 

 

 

"ส่งสิวะ ทางซ้ายว่างอยู่นั่นไง"

 

 

 

"มิโนๆ"

 

 

 

เสียงเรียกที่มาพร้อมแรงกระตุกที่ชายเสื้อน้อยๆทำให้มินโฮหงุดหงิด เขายื่นมือออกไปรอรับบอลของเล่นอย่างไม่ใส่ใจนัก และเมื่อคีย์เอาบอลมาวางให้ เขาก็ปามันออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 

 

ยิ่งใกล้หมดเวลา การแข่งขันก็ยิ่งดุเดือด มินโฮจึงเริ่มคิดหาวิธีให้คีย์ไปเก็บบอลได้ลำบากมากขึ้น โดยการโยนให้มันกระเด็นเข้าไปอยู่ใต้ตู้สักใบ

 

 

 

ในตอนแรกคีย์ก็คิดว่าการไล่จับบอลของจริงมันสนุกดี แต่เพราะต้องก้มเขี่ยบอลใต้ตู้อยู่หลายหน จึงทำให้ใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงจัด คีย์ปาบอลใส่หัวมินโฮเพื่อบ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจ แต่ร่างสูงที่โห่ร้องดีใจเพราะอาร์เซนอลขึ้นนำก็ทำเพียงแค่หันมามองแล้วก้มเก็บบอลโยนออกไปอีกครั้ง การกระทำนั้นส่งผลให้ความโกรธของคีย์พุ่งทะลุขีดจำกัด

 

 

 

ร่าบางพุ่งเข้าใส่คนติดบอลแล้วตะปบหน้า เล็บคมกางออกก่อนจะข่วนเข้าที่แก้มเป็นทางยาวซ้ำตำแหน่งเดิมของเมื่อวานแบบพอดิบพอดี

 

 

 

"โอ๊ย!! อะไรเนี่ยคิบอม"

 

 

 

"สักแต่ปาอยู่ได้ ทำไมนายไม่ไปเป็นคนเก็บมั่งล่ะ มันเหนื่อยรู้ไหมไอ้บ้า!"

 

 

 

"เอ้า..."

 

 

 

มินโฮได้แต่มองคีย์ที่เดินหนีเข้าห้องไปด้วยสายตางุนงง เมื่อกี้ยังเล่นกันอยู่ดีๆแท้ๆ ทำไมอยู่ๆก็มาตบเขาแบบนี้ล่ะ เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเมียหรือแมวกันแน่ ที่เป็นสัตว์ที่เข้าใจยากมากกว่ากัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

**หมายเหตุจากชเว มินโฮ : ในแมวบางตัวที่อารมณ์แปรปรวนหนักมาก เจ้าของควรย้ายตัวเองไปดูบอลในไอแพดแทน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความวุ่นวายที่ 4 ทำให้แมวเชื่อง

 

 

 

คำแนะนำทั่วไป : ผู้เลี้ยงจะต้องใช้เวลาและความอดทน การจะฝึกให้แมวเชื่อฟัง ต้องใช้ขนมที่ชอบหรือของเล่นหลอกล่อให้มันทำตามที่คุณสอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเวลา คุณจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบ

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากบอลจบมินโฮก็อาบน้ำเตรียมเข้านอน ร่างสูงใช้ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวแล้วเดินมานั่งที่ขอบเตียง เขาหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาเปิดออกแล้วทายาตามแขนขา มินโฮก้มมองรอยถลอกนับไม่ถ้วนบนร่างกายก่อนจะถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง

 

 

 

แมวชาวบ้านเขาก็ดูขี้อ้อนน่ารักกันดี แต่กับคีย์นี่สิ ทั้งอารมณ์แปรปรวน แถมยังตบเก่งชะมัด นี่แค่ไม่ถึง 2 วัน แต่เขาหมดเงินไปกับปลาและเสียพลังงานไปมากมายทีเดียว

 

 

 

"ซี๊ดดด..." นินทาในใจได้ไม่ทันไร มินโฮก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่แผ่นหลัง ไม่ต้องเห็นกับตาก็รู้ว่าฝีมือใคร "คิบอม! ฉันไปทำอะไรให้อีก"

 

 

 

"ปิดไฟสักทีฉันจะนอน"

 

 

 

"ฉันทายาอยู่ไม่เห็นรึไง"

 

 

 

"เป็นไรอะ"

 

 

 

ร่างสูงหันไปมองคนรักตาโต "โอ้โห กล้าถาม ตัวฉันจะลายเท่าม้าลายอยู่แล้ว ข่วนอยู่ได้"

 

 

 

"ก็นายอยากมาขอให้ฉันเป็นแบบนี้ทำไมล่ะ อย่ามาพูดเหมือนมันเป็นความผิดของฉันนะ"

 

 

 

"โอเคๆ ผมผิดเองครับที่รัก เดี๋ยวซื้อกระเป๋าไถ่โทษให้ โอเคไหม"

 

 

 

"จริงนะ" คีย์ลุกขึ้นนั่งแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ปิดความดีใจเอาไว้ไม่มิด

 

 

 

มินโฮเอนตัวหนีให้พ้นรัศมีมือของคีย์อย่างหวาดกลัว ทำไมท่าทางของร่างบางในตอนนี้มันช่างต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิงแบบนี้ล่ะ ไม่ใช่ว่าลุกมาเพื่อตั้งท่าเตรียมตะกุยหน้าเขาอีกหรอกนะ

 

 

 

"นี่หายหงุดหงิดแล้วเหรอ"

 

 

 

"อะไร ใครหงุดหงิด ไม่มีหรอก นายคิดไปเองแล้ว"

 

 

 

"งั้นถ้านายหายโกรธแล้วกระเป๋าก็คงยังไม่ต้องซื้อ-"

 

 

 

"อยากตายใช่ไหมห๊า!"

 

 

 

ร่างสูงกระโดดหนีเอาตัวรอดเมื่อคีย์พุ่งเข้ามาหมายจะตะปบหน้าเขา ทำไม 2 วันมานี้มินโฮรู้สึกว่าบ้านเขาช่างไม่ต่างกับค่ายฝึกทหารเอาเสียเลย

 

 

 

"ถ้าฉันซื้อกระเป๋าให้ นายจะไม่ฆ่าฉันใช่ไหม"

 

 

 

"บ้าเหรอ ใครจะไปฆ่านายลงล่ะ" ร่างเล็กคลานเข้ามากอดแขนมินโฮพร้อมกับใช้หัวถูไถไปมา "แฟนรูปหล่อแถมยังใจดีแบบนี้ จะหาได้จากที่ไหนอีก"

 

 

 

สรุปว่าชเวมินโฮสามารถทำให้แมวอย่างคีย์เชื่องได้ในเวลาไม่กี่วินาที เพียงแค่พูดคำว่า'กระเป๋า'อย่างนั้นสินะ รู้อย่างนี้เขาคงซื้อมาเตรียมไว้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาโดนตบเช้าตบเย็นแบบที่ผ่านมา

 

 

 

"แล้วกระเป๋านี่ทำให้เชื่องได้อย่างเดียวเหรอ"

 

 

 

"อะไรนะ!"

 

 

 

"เอ่อ มะ ไม่ใช่ ฉันหมายความว่า กระเป๋า 1 ใบนอกจากจะทำให้นายไม่ฆ่าฉันแล้วยังทำอะไรได้อีก"

 

 

 

"ไอ้อะไรของนายนี่มันอะไรล่ะ"

 

 

 

"ปล้ำได้ไหม"

 

 

 

"ห๊ะ! ดะ เดี๋ยว หางฉัน" คีย์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกมินโฮดันให้นอนราบลงกับที่นอนโดยไม่ทันตั้งตัว "นายจะไม่รอให้ฉันตอบก่อนเหรอ"

 

 

 

"ไม่อะ แค่ถามเป็นมารยาท"

 

 

 

"เดี๋ยวมินโฮ ตะ อือ"

 

 

 

ถ้อยคำประท้วงทุกคำถูกกลืนหายไปในลำคอ มินโฮไม่ปล่อยให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ริมฝีปากอุ่นทาบทับดูดกลืนปากอิ่มราวกับขนมชิ้นโปรด มือหนาก็ลูบไล้อยู่ที่ข้างลำตัว ปลุกปั่นความร้อนรุ่มของร่างเล็กให้ปะทุขึ้นทีละน้อย

 

 

 

อุ้งเท้าขาวออกแรงดันอกคนข้างบนให้ผละออกเมื่อรู้สึกขาดอากาศ ดวงตารีปรือปรอยมองอีกฝ่ายอย่างตำหนิ แต่มินโฮก็ไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดเลยสักนิด เขาทิ้งน้ำหนักตัวทับคีย์ไว้ไม่ให้ขัดขืน จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ข้างแก้มขาวอย่างออดอ้อน

 

 

 

"อยากกอดมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่แมวดื้อ"

 

 

 

"ไอ้โรคจิต"

 

 

 

"โรคจิตตรงไหน ถึงจะเป็นแมว แต่ก็ยังเป็นเมียฉัน เพราะฉะนั้น ฉันกินได้ ไม่ผิด"

 

 

 

พูดจบก็ประกบปากนุ่มเพื่อไม่ให้คีย์เถียงอะไรได้อีก ละเอียดชิมรสหวานที่ขอบปากอยู่นานกว่าจะสอดลิ้นชื้นเข้าไปเกี่ยวพัน มือหนาเลิกชายเสื้อตัวบางขึ้นช้าๆ ก่อนจะถอดให้พ้นทาง ปากอุ่นละออกจากริมฝีปากอมชมพูแล้วครอบครองที่ยอดอกอย่างหื่นกระหาย

 

 

 

 

ลมหายใจร่างเล็กกระตุกวูบ อกบางแอ่นเข้าหาอีกคนอย่างลืมตัว "อ๊ะ มะ มินโฮ"

 

 

 

สัมผัสอ่อนโยนนำพาให้คีย์เคลิบเคลิ้ม อุ้งเท้านุ่มยกขึ้นกอดคอคนด้านบนแน่น ออกแรงกดเล็กน้อยเพื่อให้มินโฮดูดกลืนยอดอกตัวเองเข้าไปลึกมากกว่าเดิม มือข้างหนึ่งของมินโฮเขี่ยสะกิดปลายยอดอกอีกข้างจนคีย์ครางกระเส่า อีกข้างที่ว่างก็เกี่ยวขอบกางเกงขาสั้นตัวจิ๋วลงแล้วใช้เท้าดันจนหลุดไปจากขาขาว

 

 

 

หลังจากจัดการกับเสื้อผ้าของคีย์เสร็จ เขาก็ดึงผ้าเช็ดตัวของตัวเองออก มินโฮขยับส่วนล่างที่เปลือยเปล่าทาบทับร่างของคีย์จนแนบสนิท สะโพกหนาขยับเสียดสีไปมาเพื่อให้อารมณ์ของคีย์ยิ่งเตลิดไปมากกว่าเดิม

 

 

 

"มินโฮ มะ มันร้อน"

 

 

 

ร่างสูงละออกจากหน้าอกแล้วยิ้มเอ็นดูแต่ไม่พูดอะไร ปากอุ่นพรมจูบที่กลางอกไล่ลงไปจนถึงหน้าท้อง เขาจับขาคีย์ตั้งชันขึ้น ก่อนจะเอื้อมไปหยิบเจลหล่อลื่นที่หัวเตียงมาชโลมนิ้วจนทั่ว หลังจากมันชุ่มดีแล้วนิ้วเรียวยาวก็สอดเข้าไปในตัวคีย์ช้าๆ

 

 

 

"อย่าเกร็งนะครับ"

 

 

 

เสียงทุ้มเอ่ยกับคนรักอย่างใจเย็น มินโฮโน้มตัวลงมาดูดดุนริมฝีปากคีย์เพื่อให้ร่างบางผ่อนคลาย จากหนึ่งนิ้วเพิ่มเป็นสอง สอดเข้าออกหมุนควานหาจุดที่ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกดี และเมื่อช่องทางคีย์กระตุกตอดรัด เขาก็ถอนนิ้วออกแล้วแทนที่ด้วยส่วนที่ใหญ่กว่า

 

 

 

"...อื้อ..."

 

 

 

"เจ็บเหรอ"

 

 

 

"มะ ไม่ใช่ตรงนั้น หางฉัน"

 

 

 

มินโฮก้มมองและพบว่าขาข้างนึงของตัวเองทับพวงหางสีขาวอยู่ เขาค่อยๆดันแท่งกายเข้าไปจนสุดแล้วประครองคีย์ให้เปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นมานั่งคร่อมตัก

 

 

 

"ท่านี้ไม่ทับหางแล้วนะ คิบอมทำให้ผมหน่อยสิครับ"

 

 

 

สะโพกอวบยกขึ้นจนแท่งกายร้อนเกือบหลุดออกก่อนจะทิ้งตัวลงมาอย่างเชื่องช้า คีย์ทำซ้ำอยู่อย่างนั้นจนช่องทางเริ่มคุ้นชิน ความคับแน่นแปรเปลี่ยนเป็นเสียวซ่าน ความเร็วของคีย์จึงเริ่มเพิ่มขึ้นตามแรงอารมณ์ ทางด้านร่างสูงเองก็ไม่ยอมแพ้ สะโพกหนายกขึ้นสวนกับจังหวะที่อีกคนกระแทกลงมา

 

 

 

"อ๊ะ อะ อือ"

 

 

 

"อื้ม แรงอีกสิครับ อืออ เก่งที่สุดเลยที่รัก"

 

 

 

ความร้อนแรงที่ไม่ได้ตั้งใจของคีย์ทำให้มินโฮอดที่จะชื่นชมไม่ได้ เขาเอนตัวลงนอนแล้วปล่อยให้คีย์ทำตามใจชอบ อุ้งมือขาววางอยู่บนหน้าท้องของมินโฮเพื่อช่วยพยุงตัว เอวบางส่ายร่อนพร้อมกับขยับขึ้นลงอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะระบม

 

 

 

ตาคมมองสำรวจไปทั่วทุกซอกทุกมุมของคนด้านบน ผมสีเข้มพริ้วไหวไปตามแรงกระแทก ผิวขาวเนียน อกนุ่มนิ่มที่ไม่ได้มีกล้ามเนื้อมากเกินไป ยอดอกสีน้ำตาลอ่อนขนาดกำลังน่ารัก เอวคอดกว่าผู้ชายทั่วไปแต่ไม่บางเท่าผู้หญิง สะโพกอวบเนื้อแน่นเต็มไม้เต็มมือ ทุกสัดส่วนได้รูปกำลังดี อะไรจะสวยงามไปกว่าคนตรงหน้า ไหนจะเสียงครางหวานหู ไพเราะเกินกว่าเสียงนายเอกหนังคนใดที่เขาเคยดู

 

 

 

มินโฮเผลอเลียปากตัวเองด้วยความกระหายอยาก ทั้งๆที่กำลังร่วมรักกันอยู่แท้ๆ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ ใบหน้าของคีย์ยามที่กำลังเสียวซ่าน ได้เห็นกี่ครั้งก็ยังรู้สึกอยากได้มากกว่านี้

 

 

 

"อะ อ๊ะ อื้อ หยะ อย่ามองนะ อะ อ๊ะ อ๊ะ"

 

 

 

มินโฮยิ้มเมื่อคนถูกแอบมองรู้ตัวเสียแล้ว คีย์ดึงหางตัวเองมากอดไว้เพื่อปกปิดส่วนที่น่าอายไปจากสายตาเขา

 

 

 

มันชักจะน่ารักเกินไปแล้วมั้ง คิม คิบอม

 

 

 

มินโฮลุกขึ้นนั่งแล้วดันคีย์ให้นอนลงไปกับเตียง เขาจัดท่าให้ตัวเองไม่ไปทับหางฟูก่อนจะจับขาข้างหนึ่งของคีย์พาดบ่า สะโพกหนาสวนเข้าใส่รัวเร็วจนร่างบางตัวสั่นโยน

 

 

 

"อ๊ะ มินโฮ ละ ลึก อื้อ อะ อ๊ะ อ๊า"

 

 

 

"อืมม แมวน้อยของผม"

 

 

 

เล็บแหลมคมจิกกรีดลงบนแผ่นหลังกว้างระบายอาการวูบวาบที่ท้องน้อย เสียงหวานครางระงมไม่เป็นภาษา ยิ่งได้ฟังมินโฮก็ยิ่งเร่งกระแทกแก่นกายเข้าไปในตัวคีย์แรงกว่าเดิม อุ้งมือเลื่อนลงมาดันหน้าท้องของร่างสูงไว้เพื่อไม่ให้แก่นกายใหญ่เข้ามาลึกจนเกินไป ร่างเล็กหลับตาแล้วส่ายหน้าไปมาราวกับจะขาดใจ

 

 

 

"อะ อ๊ะ อ๊ะ มิ มิน อื้อ อ๊ะ อ๊าาา"

 

 

 

"อืมม แน่นมากเลยที่รัก อะ อ่าา"

 

 

 

ขยับเข้าใส่อีกไม่กี่ครั้งร่างบางที่ทนความเสียวซ่านไม่ไหวเกร็งกระตุก ของเหลวสีขาวขุ่นพวยพุ่งออกมาจากแก่นกายขนาดพอดีตัว เห็นดังนั้นมือหนาก็คว้าแท่งร้อนของคีย์แล้วชักรูดเพื่อรีดน้ำรักให้ออกมาทุกหยาดหยด ช่องทางด้านหลังตอดรัดระรัวส่งผลให้มินโฮยิ่งเร่งความเร็วขึ้นอีก สะโพกหนากระแทกเน้นย้ำจนกระทั่งน้ำอุ่นร้อนหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของคีย์

 

 

 

มินโฮทิ้งตัวลงนอนทับคนข้างล่างอย่างหมดแรง ทั้งสองหายใจหอบราวกับเพิ่งวิ่งมาหลายกิโล ปากอุ่นกดจูบที่ขมับคนรักแล้วใช้มือเช็ดเหงื่อให้

 

 

 

"รักนะครับ ขอโทษนะที่ทำแรง"

 

 

 

"อื้อ ไม่เป็นไรหรอก"

 

 

 

"เดี๋ยวผมอาบน้ำให้นะ"

 

 

 

"ทำไมครั้งนี้แรงเยอะขนาดนี้ล่ะ"

 

 

 

"คิบอมน่ารักนี่ หมั่นเขี้ยว แค่เห็นหน้าก็มีอารมณ์อีกแล้วเนี่ย"

 

 

 

 

"อะไร ไม่เอาแล้วนะ เอวเคล็ดหมดแล้ว อ๊ะ มะ มินโฮอย่า อะ อ๊า"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลายเดือนต่อมา

 

 

 

 

 

ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง...

 

 

 

โฮ่งๆๆ

 

 

 

"อืมมม"

 

 

 

ร่างสูงเปลือยท่อนบนพลิกตัวนอนคว่ำแล้วดึงหมอนมาปิดหัว หนวกหูชะมัด เขาเพิ่งกลับมาจากเล่นคอนเดี่ยวที่แอลเอนะ ยังปรับตัวกับเวลาที่เกาหลีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ใครช่างมารบกวนกันได้ในเวลาแบบนี้ มือหนาควานสะเปะสะปะ หวังจะดึงคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างกันมากอด แต่ที่ตรงนั้นกลับว่างเปล่า

 

 

 

ตาคมปรือขึ้นมองเพื่อความแน่ใจ แต่ก็พบว่าคนรักของเขาก็ลุกออกจากที่นอนไปแล้วจริงๆ มินโฮได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากหน้าบ้าน เขาฝืนลุกจากที่นอนทั้งที่ตาแทบจะปิด ก้มเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้รอบเตียงขึ้นมาใส่ ก่อนจะก้าวออกจากห้องนอนเพื่อไปตามหาคีย์

 

 

 

เมื่อเดินออกมาจากห้องเสียงคุยก็ดังมากขึ้น มินโฮเห็นคีย์ยืนอยู่หน้าประตู ท่าทางดูยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เหมือนคนที่เหนื่อยจากการทัวร์คอนเสิร์ตมาหลายวันเลยสักนิด

 

 

 

ใครกันที่ทำให้แฟนเขายิ้มกว้างได้ขนาดนั้น

 

 

 

"คิบอม ใครมาเหรอ"

 

 

 

"พนักงานส่งของน่ะ"

 

 

 

"สั่งอะไรไปอะ"

 

 

 

"กระเป๋าไง ขอบคุณครับ" คีย์ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง เขาก้มเซ็นบางอย่างยุกยิก มือบางส่งคืนพนักงานแล้วกล่าวขอบคุณ "เออนี่มินโฮ วงเงินในบัตรเครดิตนายมันไม่พอจ่ายนะ ฉันก็เลยแอบเอาโทรศัพท์นายมาโอนเงินออนไลน์เอา ไม่ว่าใช่มะ คงไม่ว่าหรอกเนอะ ก็นายบอกเองว่าจะซื้อให้ ไถ่โทษที่ขอให้ฉันเป็นแมว"

 

 

 

มินโฮได้แต่ยืนทำตาปริบๆ เขากำลังประมวลผลสิ่งที่คีย์พูดอยู่ในหัว บัตรเครดิตของเขาวงเงินมันก็หลาย 10 ล้านวอนอยู่ แล้วนี่ก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้บัตรใบนี้รูดซื้ออะไรไปแน่ๆ แล้วทำไมวงเงินถึงเต็มล่ะ

 

 

 

"ทำไมบัตรฉันวงเงินเต็มอะ"

 

 

 

"ไม่ได้เต็ม แต่มันไม่พอ เลยต้องเอาเงินในบัญชีนายโอนไปไง"

 

 

 

"อ๋อ"

 

 

 

"นี่ใบเสร็จ ฉันไปนอนต่อล่ะ ถ้านายหิวก็หากินเอาเองนะ ไปเด็กๆ ไปนอนกอดคีย์อัปป้าบนเตียงกันดีกว่า คีย์อัปป้าคิดถึงพวกหนูมากๆเลยรู้ไหม"

 

 

 

คีย์จากไปแล้วพร้อมกับลูกหมา 2 ตัว เหลือทิ้งไว้เพียงเศษกระดาษ 1 ใบที่มินโฮถือมันไว้อย่างงงๆ

 

 

 

ใบเสร็จเหรอ อืม.. กระเป๋าสั่งทำพิเศษ ทำจากหนังท้องจระเข้ มีทองคำเป็นส่วนผสมในซิปแล้วก็สายโซ่ที่ร้อยที่จับ แถมมีค่าสลักชื่อเจ้าของที่ใต้ชื่อแบรนด์ด้วย ไอ้ของแบบนี้น่ะเหรอที่ทำให้คนอย่างคีย์ยอมเขาทุกอย่าง จะว่าไปก็คุ้มดีเนอะ ตรงนี้เป็นชื่อช่างที่ทำ ส่วนใต้นี้เป็นราคา

 

 

 

"เชี่ย!!!" ร่างสูงอุทานลั่นเมื่อเห็นตัวเลขตรงช่องที่สรุปราคาของทั้งหมด นิ้วเรียวจิ้มลงไปที่เลขตัวสุดท้ายแล้วพึมพำนับหลัก "หน่วย สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน สิบล้าน ร้อยล้าน 112,800,950 วอน!!!"

 

 

 

ตึง!!!

 

 

 

"มินโฮ ทำอะไรเสียงดังน่ะ ทำไมมานอนตรงนี้ เฮ้ย! มินโฮเป็นอะไร มินโฮ มินโฮ!!"

 

 

 

 

 

 

 

*******หมายเหตุจากชเว มินโฮ : จงอดทนทำทุกวิถีทางตามตำราเพื่อให้แมวค่อยๆไว้ใจคุณ ดีกว่าใช้ทางลัดอย่างกระเป๋าแบรนด์เนมเข้าล่อเพื่อซื้อใจแมวในทันที

 

 

 

เพราะมันไม่ใช่แค่กระเป๋าธรรมดา

 

 

 

แต่มันเป็น...

 

 

 

 

....กระเป๋าโคตรอภิมหาแพงเลยทีเดียว...

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว