สงครามรัก...อาณาจักรสวาท
19
ตอน
14.9K
เข้าชม
58
ถูกใจ
5
ความคิดเห็น
42
เพิ่มลงคลัง

 

ในยุคเเรกเริ่มเเห่งอารยธรรม ณ ดินเเดนคาสมาเนียอันอุดมด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ ที่ถูกปกคลุมด้วยเงามืดจากกลุ่มนักบวชชั่วเคร่งศาสนาผู้มีอำนาจที่อ้างตนว่าคือผู้รับองค์การจากสวรรค์ เหล่านักบวชที่อ้างตนว่าจะชี้ทางสว่างเเละนำมวลมนุษย์ไปสู่ดินเเดนศิวิไล และด้วยกองทัพอันยิ่งใหญ่ของกษัตย์ทีโอดอร์รัส กษัตย์สมุติเทพผู้เป็นใหญ่ในเจ็ดคาบสมุทรแต่ถูกครอบงำโดยเหล่านักบวชทราม ยุคมืดได้ถือบังเกิดขึ้น พวกมนุษย์ถูกบังคับ ทารุณสารพัด ถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาสเพื่อที่จะสร้างป้อมปราการและวิหารบูชาเทพให้กษัตย์ใจทมิฬ บัดนี้ความมืดที่ปกคลุมบนท้องฟ้ายามราตรียังไม่อาจมืดมิดเทียบเทียมได้กับเงาดำมืดที่กำลังครอบคลุมจิตใจของชาวมอร์ดอร์ได้ ผ่านไปหลายทศวรรศ เมื่อกษัตย์ทีโอดอร์รัส สิ้นพระชนม์ลงโอรสทั้งเจ็ดของพระองค์ต่างต่อสู้แก่งแย่งชิงบัลลังค์กันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอันยิ่งใหญ่จนสุดท้ายมีเพียง เจ้าชายเดรโกรัสโอรสองค์สุดท้อง ผู้มีสติปัญญาอันชาญฉลาด เเต่แฝงด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลยุตย์ร้ายกาจ  ได้วางเเผนสังหารพี่ชายทั้งหกและขึ้นปกครองเป็นกษัตริย์องค์ต่อมา ความร้ายกาจและโหดหียมของพระองค์ไม่ต่างไปจากพระบิดา พระองค์ไม่ได้สนความเป็นอยู่ของราษฏร เเต่กระหายสงครามเเละการทรมารผู้คนเพื่อสนองต่อการบูชาเทพเจ้าที่เหล่านักบวชเป็นเบื้องหลัง เวลาผ่านล่วงเลยไป กษัตริย์เดรโกรัสกรีฑาทัพไปยังอาณาจักรเเสนไกลผ่านทะเลทรายกว้างใหญ่ ล่องเรือตามเเม่น้ำที่ยาวสุดตา เพื่อที่จะขยายอณาเขตพระองค์ไม่สนใจต่อความทุกข์ร้อนของประชาชน เพียงเพื่ออำนาจเท่านั้น เมื่อก้าวเท้าลงกษัตริย์เดรโกรัสไม่รอช้าพระองค์เร่งจัดทัพเเละประกาศสงครามทันที่ ทหารมากมายสู้รบกันข้ามคืนข้ามวันล่วงเลยมาครบเดือนท่ามกลางความร้อนระอุบนผืนทะเลทราย ทัพของเดรโกรัสขาดเเคลนเสบียง ทหารเริ่มล้มตาย จนเหลือพลทหารไม่ถึงพัน เดรโกรัสจำต้องสั่งถอยทัพกลับด้วยความคับเเค้นใจ "ข้าขอสาบานว่าข้าเดรโกรัสกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เเห่งคาบสมุทรทั้งเจ็ดจะกลับมาเเละอาณาจักรนี้มันจะต้องเป็นของข้า ....!" แม้จะสั่งให้ถอยทัพกลับเเต่เดรโกรัสยังไม่ได้กลับไปด้วย ยังคงปักหลักอยู่ในอาณาจักรเเละสั่งให้เหล่าทหารเอกคอยสืบข่าวในอาณาจักรนี้เพื่อหาช่องทางยุตทวิธีในการทำสงคราม เวลานี้เดรโกรัสมิอาจทนอยู่กับความเเค้นที่ร้อนระอุอยู่ในจิตใจได้ "โทรมีอุส!" สิ้นเสียงเรียกของกษัตริย์ไม่กี่อึดใจ แม่ทัพหนุ่มร่างสูงโปร่ง กำยำ ถอดหมวกเหล็กออกภายใต้ให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนที่ตัดจนสั้น ริมฝีปากหยักได้รูป เเละนัยตาสีเขียวราวมรกต เขาคุกเข่าเเล้วก้มลงคำนับเเก่กษัตริย์ "มีอะไรให้เกล้ากระหม่อมรับใช้พะย่ะค่ะฝ่าบาท" เดรโกรรัสหันมาจ้องมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ชักดาบเเละโล่ของเจ้าขึ้นมาโทรมีอุส ตอนนี้มีเเต่เจ้าเท่านั้นที่จะช่วยข้าได้!" แม่ทัพหนุ่มไม่รอช้าเขารีบชักดาบคู่ใจขึ้นมา เพียงพริบตาเขากระโจนเข้าหากษัตริย์ฟาดฟันเพลงดาบอย่างดุเดือดภายในกระโจมบัดนี้ร้อนระอุดั่งไฟทั้งสองต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครจากในกระโจมบัดนี้โทรมีอุสเเละเดรโกรัสต่อสู้ท่ามกลางเหล่าทหารที่ค่อยสงเสียงเชียร์ กษัตริย์ไม่มีทีท่าว่าจะเย็นลงโทรมีอุสจึงงัดไม้ตายเเละตวัดดาบของกษัตย์จนหลุดมือปลายดาบของเขาเเนบชิดอยู่ปลายคางกษัตริย์ไร้ซึ้งเสียงโห่ร้องใดๆ เดรโกรัสยืนนิ่ง "ฮาๆๆๆๆๆ โทรมีอุส" เเม่ทัพหนุ่มชักดาบกลับเเละคุกเข่าลง "ไม่เป็นไรสหายข้ายืนขึ้นเถิด" เขาลุกขึ้นยืน “ตามข้ามา” โทรมีอุสเดินตามกษัตริย์เข้าไปในกระโจม “ข้าเหนียวตัวเต็มทีเจ้าช่วยอาบน้ำให้ข้าทีนะ”“พะย่ะค่ะฝ่าบาท” เเม่ทัพหนุ่มเดินตรงไปยังอ่างไม้โอ๊คเเละตักน้ำเติมลงไปผสมน้ำหอมเเละดอกไม้ลงในอ่างกลิ่นหอมอบอวนไปทั่วกระโจม แม่ทัพหนุ่มหยิบผ้าชุบน้ำขัดอย่างระวังที่แผ่นหลังให้เดรโกรัส รอยเเผลจากสงครามทำให้เขานึกถึงภาพความตาย ความเจ็บปวดที่โหดร้าย จากความโลภของกษัตริย์ผู้นี้ “โทรมีอุส”“พะยะค่ะฝ่าบาท”“ข้าคิดเเผนออกเเล้ว”  “เเผนอะไรรึฝ่าบาท”“ถ้ารบด้วยกำลังเเล้วมันเป็นต่องั้นก็คงต้องใช้วิถีอื่น”“วิถีอะไรรึฝ่าบาท”“โทรมีอุสข้าเคยได้ยินว่าเจ้าหญิงแห่งฮารางามนักหากเราได้นามาครอบครองและมีโอรสกับนางนั้นก็เท่ากับว่าเราได้ครองอาณาจักรนี้เช่นกัน”“แล้วฝ่าบาทจะทำเช่นไรพะยะค่ะโทรมีอุสเจ้าเป็นสหายคนเดียวที่ข้าไว้ใจตั้งแต่เด็กจนโตมีเจ้าเท่านั้นที่อยู่ข้างข้าเสมอ”“ฝ่าบาทมีบุญคุณต่อกระหม่อมแม้แต่ชีวิตกระหม่อมก็ถวายให้ได้พะยะค่ะ” เดรโกรัสนิ่งและเงียบไป ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศชวนให้อึดอัด “โทรมีอุสข้าเพิ่งได้รับข่าวจากสายที่คาสมาเนียว่าพวกนักบวชเริ่มพากันวางอำนาจ พวกมันวางแผนจะโค่นอำนาจข้า ข้าไม่อาจละทิ้งอาณาจักรเป็นเวลานานไว้ได้” “แล้วจะให้หม่อมฉันทำเช่นไรสั่งมาเถิดฝ่าบาท”“เจ้าจงลอบเข้าไปอยู่ในวังแล้วจงนำตัวเจ้าหญิงแห่งฮาราไปให้ข้าที่คาสมาเนีย ข้าจะไปรอเจ้าและว่าที่ราชินีข้าที่นั้นข้ารู้ว่าวังฮารานั้นแน่นหนานักแต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจะทำงานนี้สำเร็จ” แม่ทัพหนุ่มไม่ตอบยังคงบรรจงขัดหลังให้แก่กษัตริย์ของตน “พอแล้วหล่ะโทรมีอุส เจ้าไปทำตามที่ข้าสั่งได้แล้วที่เหลือข้าจะจัดการเอง”“พะย่ะค่ะ” โทรมีอุสก้าวออกไปไม้ทันพ้นกระโจม “อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ….เจ้ารู้โทษดีนี้ใช่มั้ย”“กระหม่อมไม่เคยพลาดพะยะค่ะ”“หึ!ดีไปได้แล้ว” แม่ทัพหนุ่มเดินกลับไปที่กระโจมของตน กลางดึกคืนนั้นเองกษัตริย์จอมโฉดเสด็จกลับอาณาจักรคาสมาเนียพร้อมเหล่าทหารเอกที่เหลือ และในคืนนั้นเองเเม่ทัพหนุ่มได้ลอบเข้าวังเพื่อจะลักพาตัวเจ้าหญิงแห่งฮารา แม่ทัพหนุ่มลอบปีนกำแพงจากทางสวนด้านหลังของวังอาศัยความมืดในคืนเดือนดับอำพรางตัว ค่ำคืนนี้อากาศเย็นสบาย ลมพัดมาเอื่อยๆนำพากลิ่นหอมอ่อนๆเข้ามาปะทะที่จมูกแม่ทัพหนุ่ม เขาค่อยๆย่องไปยังหลังพุ่มไม้ใกล้ๆ ค่อยๆแหวกพุ่มไม้หนาตรงหน้าออก เขาก็พบร่างของอิสตรีงามแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำ ณ สวนหลังวัง แม่ทัพหนุ่มไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้านางอย่างชัดเจนนักเพียงแค่ลมพัดเอากลิ่นน้ำหอมที่ตัวนางเข้ามาปะทะจมูกเข้าก็ทำเคลิ้บเคลิ้มขึ้นมา เกร้ก!  “นั้นใครน่ะ”  สาวน้อยตะโกนถามแต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับนางจึงไม่ได้สนใจและยังเพลิดเพลินกับการเล่นน้ำต่อไป แม่ทัพหนุ่มถอนหายใจ โล่งใจนึกว่าจะถูกจับได้แถมพลาดดูสิ่งสวยงามเสียแล้ว “เกือบไปแล้วไหมล่ะ ไอ้กิ่งไม่บ้ามาอยู่อะไรตรงนี้ว่ะ” เขาบนในใจด้วยความหงุดหงิดแต่ทว่า “เดี๋ยวก่อนนะ นี้มันกิ่งต้นทาเลียนี้ ห่ะได้การล่ะ” โทรมีอุสมองไปยังต้นไม้ใหญ่ด้านหลังเขานั้น มันคือต้นทาเลีย ต้นไม้นี้ยางของมันมีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอนชั่วขณะ แม่ทัพหนุ่มใช้ปลายธนูกรีดที่ต้นยางของมันฉโลมทั่วหัวลูกธนู สักพักสาวน้อยเดินขึ้นจากสระไม่ทันได้ระวังตัวโทรมีอุสอ้อมไปทางด้านหลังเอามือปิดปากนางไว้แล้วจิ้มปลายธนูที่ชโลมด้วยยางต้นทาเลียไปที่ต้นคอของนาง สาวน้อยไม่ทันระวังตัวบวกกับยางต้นทาเลียเริ่มออกฤทธิ์นางเริ่มมึนงง โทรมีอุสค่อยๆช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนแกร่ง อุ้มนางไปยังหลังพุ่มไม้ ร่างซึ่งไร้อาภรณ์ใดปกปิดแม่จะมืดมิดแต่เพียงสัมผัสก็รับรู้ได้ถึงความงดงามของเจ้าของเรือนร่าง อกอวบเต่งตึง ผิวอันเนียนนุ่ม แม่ทัพหนุ่มไม่อาจยับยั้งใจได้ เขาก้มลงประทับจูบอันร้อนแรงที่อกอวบโลมเลียที่ยอดปทุมทันอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ร่างบางครางออกมาด้วยความพอใจ เขาค่อยๆพรมจูปต่ำลงไปเรื่อยๆและค่อยๆสอดลิ้นลงไปรับความหวานจากสาวแรกแย้มดั่งดอกไม้ที่กำลังผิบานเค้าดื่มด่ำกับความหอมหวานนั้นเนินนาน จนบัดนี้แทบไม่อาจต้านทานต่ออำนาจแห่งชายได้สาวน้อยที่กำลังเคลิ้บเคลิ้มจู่ๆก็ลุกขึ้นคร่อมแม่ทัพหนุ่ม นางประกบปากอวบอิ่มของนางลงบนปากของโทรมีอุส เมื่อปลายลิ้นสัมผัสถึงความหวานแปลเปลี่ยนเป็นเร้าร้อนจนไม่อาจหยุดยั้งได้  โทรมีอุสปลดเข็มขัดและผ้านุ่งของเขาออก เขาผละจากจูบอันดูดดื่มของสาวน้อยค่อยๆประคองนางนอนลงบนหญ้านิ่มๆ “หากข้ากำลังฝันท่านคงเป็นเทพบุตรช่วยพาข้าไปยังทรวงสวรรค์ด้วยเถิด” สาวน้อยเพ้อขึ้นมา โทรมีอุสไม่รอช้า เขาค่อยๆแทรกกายแกร่งเขาไปในทรวงสววรค์บรรงเลงท่วงท่าช้าๆค่อยเป็นค่อยไป ราวกับว่ากำลังเต้นรำอยู่แล้วเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงครางของสาวน้อยถูกปิดด้วยจูบเร่าร้อนนางคงจะคิดว่าฝันอยู่เป็นแน่ แต่สำหรับโทรมีอุสนี้เป็นครั้งแรกที่แม่ทัพหนุ่มได้ร่วมรักกับสาวแรกแย้มเช่นนี้ “โอ้เทพเจ้าแห่งข้าท่านประทานของขวัญนี้ให้ตอบแทนความซื่อสัตย์ของข้าที่มีต่อกษัตริย์เดรโกรัสหรือว่ามอบนางฟ้านี้ให้ข้าเพราะข้าอาจจะตายอยู่ที่นี้ ณ วังแห่งนี้กันแน่”โทรมีอุสคิด ยิ่งคิดยิ่งทำให้เขาอยากมีความสุขอยู่กับนางฟ้าที่เทพพระเจ้าได้ประทานให้แก่เค้าให้นานที่สุด เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นราวกับว่าเวลากำลังนับถอยหลัง แม่ทัพหนุ่มยังคงดูดดื่มกับริมฝีปากอิ่มนั้นเขาครางในลำคอด้วยความพอใจ และในที่สุดทั้งสองก็ถึงยังทรวงสวรรค์พร้อมกัน ราวกับความฝัน สาวน้อยหลับใหลด้วยความเพลียแม่ทัพหนุ่มรีบล้างตัวให้นางขณะที่มึนเมาด้วยฤทธิ์ยางต้นคาเลียนางสลบไปในไม่ช้าแม่ทัพหนุ่มไม่รอช้า รีบสวมอาภรณ์ให้นางแล้วอุ้มนางไปไว้ที่ศาลาเล็กๆในสวนไม่ไกลกันนัก เขานั่งข้างๆนางจนเมื่อแสงแห่งอรุณรุ่งปรากฏเผยให้เห็นใบหน้านวลนาง ขนตาเป็นแพงอล จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากชมพูอวบอิ่ม ผิวสีน้ำผึ้งนวลเหมือนสาวชาวตะวันออกกลาง ผมดำขลับสีดำยาวนุ่มราวกับผ้าไหม แม้ในยามหลับใหลยังงดงามได้ถึงเพียงนี้ โทรมีอุสอยากจะจุมพิษนางอีกสักครั้ง แต่ทว่าเขาได้ยินเสียงคนกำลังเดินมาทางนี้ แม่ทัพรีบปีนขึ้นไปซ่อนตัวบนต้นไม้และคอยดู นางข้าหลวงรูปร่างท้วมกับสาวใช้อีกสองคนที่เดินตามเหมือนหลังกำลังมองหาบางสิ่งรึใครอยู่ “ไปดูที่ศาลา” นางข้าหลวงสั่งสาวใช้ ไม่นานนักสาวใช้คนเดิมก็วิ่งกลับมา “เจอแล้วเจ้าค่ะๆ เจอเจ้าตัวหญิงแล้วเจ้าค่ะ” นางข้าหลวงร่างท้วมไม่รอช้ารีบวิ่งตามสาวใช้คนนั้นไปทันที ว้ายเจ้าหญิงทำไม่มานอนอยู่นี้เพค่ะตื่นเถิดเพค่ะเจ้าหญิง หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้น มือเล็กๆขยี้ตาแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ “นี้เรามานอนที่ตรงนี้ได้อย่างไร จำได้ว่าเมื่อคืนออกมาว่ายน้ำนี้”“เจ้าหญิงอย่าทำแบบนี้อีกยะเพค่ะดึกๆข้างนอกอันตรายแม้จะในวังก็ตาม”“ช่างมันเถิดนม นี้เราคงจะเหนื่อยแล้วก็ง่วงมากเลยเผลอหลับไป”“เฮ้ออ เพค่ะ นี้พวกเจ้าพาเจ้าหญิงกลับขึ้นห้องซิรออะไร”“เพค่ะ!” สาวใช่ทั้งสองตอบ เจ้าหญิงเดินกลับไปพร้อมสาวใช้แล้วนางข้าหลวง แม่ทัพหนุ่มที่แอบดูอยู่บนต้นไม่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จับต้นชนปลายไม่ถูก “โอ้ซุสเหตุใดท่านจึงกลั่นแกล้งข้าด้วยวิถีนี้ นางฟ้าของข้าแท้จริงแล้วนางคือเจ้าหญิงรึนี้ !เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรฮารา…!”

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว