Vampire ล่ารัก : สองมือเล็กจับไปบนแผ่นหลังและส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีรอยเลือดติดอยู่จนแทบมองผิวเนื้อไม่เห็น พลางสะบัดศีรษะค้อนใส่คนตัวใหญ่ที่ก้าวมาหาไวปานพายุ จับต้องเรือนกายกลมกลึงอย่างแผ่วเบาอ่อนโยนด้วยสำนึกผิด
“ไม่ต้องมาทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเลยคนบ้า” มือเล็กยกขึ้นบีบจมูกโด่งคมของคนซึ่งช้อนร่างอ้อนแอ้นขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเครื่องแป้ง
“เดี๋ยวฉันทำแผลให้นะไผ่หลิว”
“มะ...อื้อ...” คำห้ามกลายเป็นเสียงร้องครางผะแผ่ว เมื่อลิ้นสากชื้นเริ่มแตะเลียไปบนผิวเนื้อนวลเนียนนุ่มเน้นส่วนที่มีเลือดอยู่ พร้อมปากอุ่นระอุขบกัดดูดดึงแผ่วเบาอ่อนโยน
มนตร์เสน่หา Lycan : “ไม่ล่ะ...นางฟ้าทำให้ฉันเหงาและหิวมาก” นิ้วยาวยกขึ้นสะบัดไปซ้ายขวาเหนือใบหน้านวลผ่องงอง้ำ
ไลอ้อนยิ้มใส่ดวงตากลมโต โน้มใบหน้าลงไปแนบกับใบหูนุ่ม ขบกัดสลับสอดแหย่เรียวลิ้นอุ่นชื้นกับช่องหูนุ่ม “ถ้ายึกยักไม่ยอมบอกดีๆ ฉันอาจต้อง...” ไม่บอกด้วยคำพูดแต่บอกด้วยฝ่ามือหนาซึ่งเคลื่อนไหวไปตามจุดอ่อนไหวไวต่อความรู้สึก
ปาวรินทร์แอ่นตัวรับความสยิวซ่านเสียว พร้อมขบกัดฟันกรอดๆ สีหน้าฮึดฮัดขัดอกขัดใจ
Vampire เจ้าเสน่ห์ : “ชักอยากรู้เสียแล้วสิ ตอนที่ฉันกัด...” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วคอ แยกปากเผยเขี้ยวขาวเป็นเงินยวงขบย้ำลากไปบนลำคอระหงพอให้สาวผิวหอมกรุ่นราวกับกลิ่นของดอกไม้ได้สะดุ้งสยิวเสียว “ดื่มด่ำกับเลือดรสหวานนุ่ม เธอจะทำยังไง”
“ปล่อยฉันนะ ไอ้แวมไพร์สารเลว” อึดอัดกับการใกล้ชิดที่เธอได้กลิ่นกายพ่อหนุ่มแวมไพร์ซึ่งไม่ได้น่าขยะแขยงอย่างที่เคยคิดไว้ อย่าพูดถึงอาวุธที่ยังมีซุกซ่อนไว้เลยศิลปะการต่อสู้แบบประชิดตัวที่ฝึกซ้อมไว้ก็ยังนำมาใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ เจ็บใจเหลือเกิน!
Lycan แสนเสน่หา : “ฉันยังป่วยอยู่นะตาหมาบ้า” ยังเข็ดเมื่อยและครั่นเนื้อครั่นตัวจนกระดิกกระเดี้ยไม่ค่อยได้ และคนที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้ก็พ่อตัวดีจอมตะกละมูมมามอย่างกับตายอดตายอยาก พอเจอกับอาหารเลิศรสก็กระหน่ำซ้ำเสียจนหมดแรงข้าวต้มและลุกไม่ขึ้นจนถึงบัดนี้
“เดี๋ยวฉันฉีดยาให้สักชุดสองชุดก็หายแล้วล่ะ”
“บ้า! คุณนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ทะลึ่งจริงๆ เลย”
“ไม่ได้บ้า ไม่ได้ทะลึ่ง จริงล้วนๆ ไม่เคยได้ยินหรือไงที่เขาบอกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่งน่ะ”
เจ้าสาว Vampire : “แม้ผมอยากสัมผัสไปทั่วทุกหนแห่งบนกายนี้ เพื่อให้เราสองคนได้ทำความรู้จักกันอย่างแนบชิดและทำให้เอมมี่สัมผัสถึงความสุขยามเราสองคนหลอมรวมเป็นหนึ่งด้วยรัก” ฝ่ามือหนานวดคลึงทรวงอกตั้งชันแผ่วเบาดุจดั่งขนนก ปลายนิ้วยาวตวัดไล้บนปลายยอดหดเกร็ง “แต่เพราะมีเวลาจำกัด ไม่ว่าจะทำอะไรต้องเร่งรีบ”
“อือ...ฉันก็รู้อยู่แล้ว คุณจะตอกย้ำทำไม ต้องทำอะไรก็ลงมือสิ” เอมมิเลียสะบัดเสียงต่อว่าอย่างกระฟัดกระเฟียด ในอกไหววูบรู้สึกเหมือนกับได้ยินก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจเต้นอยู่แตะโสตประสาทหู เพราะมิอาจสบกับสายตาคมเข้มหวานพร่างพราวได้เลยรีบเบือนใบหน้านวลผุดผ่องหนีทำให้ปากอุ่นแนบบนแก้มนุ่ม