“อัจฉริยะจำแลง”
(หมายเหตุ - เคยลงในหนังสือขายหัวเราะ ราวปีพศ.2538) โดย อรรถกมล
ดูเหมือนว่าบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์กำลังก้าวเข้าใกล้ตำแหน่งผู้นำเทคโนโลยีของโลกในไม่ช้านี้แล้ว เมื่อทีมงานในห้องทดลองของดอกเตอร์นภดลประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของผลกระทบทางควอนตัมที่มีต่อนาโนเทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด ปัญหาที่ซิลิกอนสารกึ่งตัวนำสารกึ่งตัวนำที่ใช้สร้างไมโครชิพไม่อาจสร้างให้มีขนาดเล็กเกินกว่าห้าสิบในล้านส่วนของเมตรได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีสารชีวภาพกึ่งตัวนำ พวกเขาสามารถสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ขนาดเซลขึ้นมาได้สำเร็จในชื่อของ “นิวโรนชิพ” ชิพคอมพิวเตอร์ที่สร้างจากสารประกอบชีวภาพที่เลียนแบบเซลสมองของมนุษย์ ซึ่งเมื่อประกอบเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมซูเปอร์คอมพิวเตอร์เมนเฟรมแล้ว ขนาดของมันก็ไม่ใหญ่เกินไปกว่าปลายนิ้วก้อยเสียด้วยซ้ำ
ดอกเตอร์อุดรประธานบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ได้ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมหาศาลของบริษัทโดยปกปิดข้อมูลเป็นความลับไม่เว้นแม้แต่คณะกรรมการบริษัท ด้วยความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ล้ำลึกในใจ น่าเสียดายที่แม้จะปราดเปรื่องเพียงใดแต่ดร.อุดรก็ไม่อาจคำนวณหรือคาดการณ์ไปได้ทุกสิ่ง ในคืนหนึ่ง...ดร.อุดรก็พลันหัวใจวายเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
มรดกที่ดร.อุดรเหลือทิ้งไว้ให้กับบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ก็คือหนี้สินจำนวนมหาศาลที่ซ่อนเร้นอยู่ในกลไกระบบบัญชี จากการทุ่มเทเงินทองทรัพยากรทั้งหมดไปเพื่อการพัฒนาคอมพิวเตอร์ชีวภาพที่ใกล้จะประสบความสำเร็จสมบูรณ์ในไม่ช้านี้แล้ว แต่การปะทุของปัญหาด้านการเงินที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาก็อาจกวาดทุกสิ่งทิ้งลงทะเลไปได้อย่างง่ายดาย บัดนี้ทีมงานวิจัยของดร.นภดลรองประธานบริษัทฝ่ายวิจัยและพัฒนามีอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อไร้ซึ่งเงาผู้ที่เคยเป็นกำแพงเหล็กคอยปกป้องจากดร.อุดรประธานบริษัทผู้ทรงอิทธิพลและปราดเปรื่อง พวกเขาก็อาจถูกกล่าวหาว่าใช้เงินวิจัยนับแสนๆล้านของบริษัทในทางฉ้อฉลจากคณะกรรมการบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ และอาจต้องใช้ชีวิตที่เหลือวิจัยงานอยู่หลังกำแพงคุก ดังนั้นเองพวกเขาจึงตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่...อย่างไม่มีทางเลือก!
ในวันแรกที่บุญมา แย้มกระโทกได้งานทำเป็นนักการภารโรงในบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ เขาดีใจจนต้องรีบเขียนจดหมายไปบอกกับสำเนาหญิงสาวที่เติบโตมาด้วยกันที่บ้านนอกเมืองหลังเขาแสนกันดาลซึ่งเขาหลงรักเธอมาตั้งแต่เด็กๆด้วยความตื่นเต้น สองเดือนต่อมาเธอก็เข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อหางานทำอย่างเขาบ้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุญมาดีใจแค่ไหนที่มีคนรักมาอยู่ร่วมชายคา เขาอวดเครื่องแบบภารโรงของบริษัทให้เธอดูทันทีด้วยความภาคภูมิใจ แต่สำเนาดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรด้วยเลย ห้องเล็กๆคับแคบข้างๆตึกใหญ่ของอวตารคอมพิวเตอร์กลายเป็นดั่งสวรรค์สำหรับบุญมา แต่ไม่ใช่สำหรับ..สำเนา เธอไม่ได้เข้ากรุงมาเพียงเพื่อเป็นเมียของภารโรง
แม้บุญมาจะทะนุถนอมเธอย่างดีราวกับเป็นเจ้าหญิง แต่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นสำเนาก็หนีจากเขาไปอยู่กินกับหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างปากซอยโดยไม่รู้สึกลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
เป็นครั้งแรกที่บุญมารู้จักกับเหล้า เขาเมาไม่ได้สติจนกระทั่งตกลงไปในสระน้ำพุหน้าบริษัทในคืนนั้นเอง กว่าจะมีใครมาพบ เขาก็จมอยู่ในน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว...
“ฟื้นแล้วเหรอครับ คุณบุญมา”เสียงของชายวัยกลางคนเอ่ยกับเขาทันทีที่เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้ากังวลกับตัวเขามากมายอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านรองฯนภดล..”บุญมาพูดขึ้นด้วยสีหน้าทั้งตกใจและประหลาดใจสับสนปนเป ด้วยฐานะที่เหมือนอยู่กันคนละโลก เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้เห็นดร.นภดลมานั่งเฝ้าไข้ภารโรงอย่างเขา
“ผมดีใจจริงๆที่คุณฟื้น รู้มั้ยว่าคุณจมน้ำนานตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ จนโรงพยาบาลบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับรักษาคุณ พวกนั้นเชื่อว่าสมองของคุณคงจะตายไปแล้วเพราะขาดออกวิเจนนานเกินไป”ดร.นภดลพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเอาใจจนบุญมาทำอะไรแทบไม่ถูก
“ถ้าอย่างนั้น...ผมจะต้องตายตามสมองไป..มั้ยครับ!”เขารู้สึกว่าคำถามของเขาช่างโง่สิ้นดี
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณบุญมา คุณไม่เป็นไรแล้ว แต่...ผมจำเป็นต้องอธิบายบางอย่างกับคุณ อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่าคุณจมน้ำไปนานมากจนหมอคิดว่าสมองคุณหยุดทำงานไปแล้ว ดังนั้นผมกับทีมงานจึงจำเป็นต้องตัดสินใจผ่าตัดใส่ไบโอคอมพิวเตอร์เข้าไปเชื่อมกับสมองของคุณ!”
“อะไรนะครับ ในสมองของผม...”บุญมาร้องเสียงสูงอย่างตื่นเต้นตกใจ
“ผมขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตคุณก่อน แต่มันจำเป็นจริงๆเพราะถ้าไม่ทำแบบนี้คุณอาจกลายเป็นมนุษย์ผักที่ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวหรือแม่แต่คิดได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะไบโอคอมพิวเตอร์ที่เราฝังไว้ใต้แกนสมองของคุณไม่เพียงแต่จะทำให้คุณเป็นปรกติเท่านั้น แต่ยังจะทำให้คุณกลายเป็นมหาอัจฉริยะที่ลาดที่สุดในโลกอีกด้วย”ดร.นภดลพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงเอาใจ
“คนอย่างผมน่ะเหรอครับ จะฉลาดได้...”บุญมาย้อนถาม น้ำเสียงเหมือนจะเย้ยหยันตัวเอง
“แน่นอนครับ...คุณรู้มั้ยว่าสมองของเรามีสามชั้นด้วยกัน ชั้นในสุดคือก้านหรือแกนสมอง คือReptilian complex หรืออาร์-คอมเพล็กซ์ เป็นสมองที่เก็บข้อมูลสัญชาตญาณดิบของเราเอาไว้ มันบังคำให้เราต้อองทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดและเพื่อสืบเผ่าพันธุ์ต่อไป ถ้าคิดตามทฤษฏีจิตวิทยาของฟรอยด์มันก็คืออิด(ID)นั่นเอง สมองชั้นที่สองคือลิมบิค มันจะควบคุมความรู้สึกและอารมณ์ของเรา ความรักความสงสารหรือความเกลียดชัง ซึ่งก็คืออัตตาหรืออีโก้(EGO) ถ้าอาร์คอมเพล็กซ์ทำให้เราหวงถิ่นที่อยู่อาศัยเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาน ลิมบิคก็จะเปลี่ยนมันให้เป็นความคิดรักชาติ มันทำให้ความคิดและจิตใจของเราซับซ้อนขึ้นมากกว่าสัตว์ ส่วนสองชั้นนอกสุดหรือนีโอคอร์เท็กซ์ก็คือวิวัฒนาการของความเป็นมนุษย์ของเราที่รู้จักศึกษาเรียนรุ้และแก้ไขปัญหาทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรม โดยแบ่งออกเป็นสมองซีกซ้ายและซีกขวา...เหมือนกับหยินและหยาง มันคือส่วนที่สร้างซูเปอร์อีโก้หรืออภิปรัชญาในตัวเรา อุดมการณ์และความเสียสละ ความรักในมนุษยชาติหรือเด็กๆโดยไม่แบ่งแยกลำเอียง แต่ดูเหมือนว่าสมองส่วนนี้ของมนุษย์เราในยุคปัจจุบันยังพัฒนาไปไม่ถึงไหนเลย...คุณว่ามั๊ย”ดร.นภดลเอ่ยถามขึ้นอย่างติดตลก
บุญมาพยักหน้ารับ รู้สึกผ่อนคลายขึ้น หากเป็นเมื่อก่อนนี้เขาคงไม่เข้าใจเรื่องที่ดร.นภดลพูดมาเลยแม้แต่น้อย แต่น่าแปลกที่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจำมันได้ทุกคำพูดจนแทบว่าจะสามารถพูดทวนหรือแม้แต่พูดย้อนถอยหลังได้ทุกคำพูดโดยไม่ผิดเพี้ยนเลยด้วยซ้ำ
“นั่นสิ เรารู้กันมานานแล้วว่ามนุษย์ปัจจุบันใช้ความสามารถของสมองได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของประสิทธิภาพแท้จริง...แม้แต่บรรดาอัจฉริยะก็เถอะ ศักยภาพของสมองส่วนใหญ่ซ่อนเร้นอยู่ในระบบของจิตใต้สำนึกของเรา...หรือบางทีอาจจะรวมถึงจิตใต้สำนึกร่วมของเผ่าพันธุ์ตามทฤษฏีของดร.คาร์ล จุงนักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งนับจากฟรอยด์ หรืออาจจะหมายถึงคลังสมองของจิตแห่งจักรวาล ดังนั้นถ้าเราสามารถกระตุ้นให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มนุษย์เราทุกคนก็จะสามารถกลายเป็นอัจฉริยะที่เข้าใจสรรพสิ่งได้ทั้งจักรวาลทีเดียว นั่นแหละคือหน้าที่และการทำงานของไบโอคอมพิวเตอร์ละ...”ดร.นภดลพูดพลางประสานมือมองเขาด้วยรอยยิ้ม เหมือนกำลังชื่นชมผลงานอัจฉริยะของตนเอง
“ท่านรองหมายความว่า ตอนนี้ผมจะมีความสามารถ...เป็นอัจฉริยะ..เหรอครับ”บุญมาถาม เสียงแกมประหม่า
“ใช่แล้วครับ และตอนนี้ผมและทีมงานวิจัยคงต้องอาศัยความเป็นอัจฉริยะของคุณบุญมาเป็นที่พึ่ง..”
ดร.นภดลพูดพลางยิ้มเหมือนจะประจบ ในขณะที่บุญมาหนุ่มบ้านนอกหน้าซื่อมองเขาด้วยสีหน้างุนงงสงสัย
เพียงแค่สามเดือนทีมงานวิจัยของดร.นภดลก็สามารถดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมหาศาลเข้าสู่สมองมหัศจรรย์ของบุญมาได้หมดสิ้น บัดนี้บุญมาสามารถพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และภาษาอาหรับได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ อีกทั้งยังมีความรู้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ กฎหมาย รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจและการตลาดได้ดีในระดับปริญญาเอก บุญมาถูกผลักดันเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของอวตารคอมพิวเตอร์ด้วยการผลักดันอย่างสุดกำลังของดร.นภดล และด้วยความเป็นอัจฉริยะที่ทำให้คณะกรรมการบริษัทต้องตกใจจนตาค้าง
เอ็มดีคนใหม่ของบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์ได้ลายเป็นคนดังระดับโลกได้ในเวลาอันรวดเร็ว เขาสามารถทำให้สถานะของบริษัทที่ง่อนแง่นพุ่งทะยานกลายเป็นบริษัทที่มั่นคงและทรงอิทธิพลของโลกได้ราวกับเนรมิต จากหนุ่มบ้านนอกที่หน้าตาและการแต่งตัวสุดเห่ย บัดนี้กลายเป็นบุคคลทรงเสน่ห์ที่คนทั่วโลกชื่นชมและต้องการรู้จักใกล้ชิดด้วยคุณสมบัติทั้งด้านสติปัญญาและทรัพย์สมบัติมหาศาล เขาจึงกลายเป็นที่หมายปองของสาวสวยมากมายทั้งดารานางแบบหรือลูกหลานผู้ดีมีสกุล จนทำให้แม้แต่ดร.นภดลก็พลอยต้องยุ่งยากถูกขอร้องให้เป็นพ่อสื่อพ่อชักจากคนในวงสังคมชั้นสูงจนแทบไม่มีเวลาทำงานเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าบุญมาจะไม่ได้แสดงความสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเจ็บช้ำในอดีตก็เป็นได้
คืนนี้เป็นงานราตรีสโมสรที่เต็มไปด้วยแขกเหรื่อในสังคมชั้นสูงรวมทั้งทูตานุทูตและนักธุรกิจใหญ่จากต่างประเทศ ตั้งแต่เช้าแล้วที่ดร.นภดลต้องคอยตอบคำถามทางโทรศัพท์จากเพื่อนคุณหญิงคุณนายที่มีลูกสาวกับคำถามว่าผู้จักการหนุ่มโสดของบริษัทอวตารคอมพิวเตอร์จะมาร่วมงานหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องขอร้องแกมบังคับให้บุญมาไปร่วมงานในคืนนี้ให้ได้ เพื่อให้บรรดาลูกท่านหลานเธอทั้งหลายได้มีโอกาสทำความรู้จักกับนักบริหารหนุ่มที่โด่งดังที่สุดในโลก
ในงานเลี้ยง ใครต่อใครพากันเข้ามาแนะนำตัวและทำความรู้จักกับบุญมาอย่างมากมายโดยเฉพาะบรรดาหญิงสาวสวยมากหน้าหลายตา บุญมาจำทุกคนได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากนัก ทุกคนจึงรู้สึกประทับใจในตัวเขาเพราะคิดว่าบุญมาจำพวกเขาได้อย่างละเอียดทุกเรื่องเพราะเห็นความสำคัญ
เมื่อเดินออกจากงานราตรีสโมสรอันหรูหราในตอนเลิกงาน บุญมาเดินออกมาพร้อมกับดร.นภดล แวบหนึ่งเขาเห็นเงาตะคุ่มๆของใครคนหนึ่งใกล้ๆกับรถ และเมื่อเขาจ้องมองไป ทันใดนั้นบุญมาก็พลันร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจอย่างที่ดร.นภดลไม่เคยได้ยินมาก่อนขึ้นว่า
“นั่นสำเนาใช่มั้ย สำเนา! นี่พี่เองนะ...บุญมาไง”
ดร.นภดลหันไปมองตามทันที หญิงสาวรูปร่างเตี้ยป้อมหน้าตาธรรมดาดาษดื่นเดินสะอื้นออกมาจากมุมมืดนั้นเนื้อตัวมอมแมม พูดเสียงสั่นเครือขึ้นว่า
“พี่บุญมา สำเนาผิดไปแล้ว สำเนาขอโทษ พี่บุญมาโกรธสำเนารึเปล่า..”
อย่าไปเชื่อ!บุญมา ใครก็ดูออกทั้งนั้นว่าผู้หญิงคนนี้กลับมาเพราะเงิน ท่าทางที่แสดงออกก็มารยาตื้นๆชัดๆ......ดร.นภดลคิดในใจขึ้นด้วยความโกรธ
“ไม่เลย พี่บุญมาไม่เคยโกรธสำเนาเลย ยังจำได้มั้ย สมัยเด็กๆที่เราเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียนด้วยกัน เลี้ยงควาย เก็บผักบุ้งด้วยกัน พี่ไม่เคยลืมช่วงเวลาที่มีความสุขของเราสองคนเลย”บุญมาพูด น้ำเสียงฟุ้งฝันเปี่ยมสุขท่วมท้น เดินเข้าไปโอบกอดหญิงสาวขะมุกขะมอมที่เบื้องหน้าอย่างทะนุถนอมราวกับเป็นสิ่งสูงค่าที่แสนเปราะบาง
“จริงเหรอจ๊ะพี่ ถ้าอย่างนั้น...พี่บุญมาจะแต่งงาน กับ...”สำเนาซ่อนสายตาหลุกหลิก พูดจาเลียบเคียง
“แน่นอน! พี่ดีใจจริงๆที่ได้ยิน...พี่พูดอะไรไม่ถูกแล้ว”บุญมาอุทานขึ้นด้วยนำเสียงตื่นเต้นดีใจ
ไม่นะ...นังนี่มันกำลังหลอกเธออยู่นะบุญมา ใครๆเขาก็มองออก
ดร.นภดลอยากจะร้องตะโกนออกไปด้วยความอัดอั้นตันใจยิ่งนัก
แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในนาทีนั้นเอง ร่างของบุญมาพลันชะงักแข็งทื่อเหมือนเป็นอัมพาตขึ้นมาอย่างกะทันหัน ท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพลิดของทุกคนในบริเวณนั้น
“คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับบุญมา..”ดร.นภดลมองดูร่างที่นอนแข็งทื่อบนเตียงของบุญมาโดยไม่เคยละสายตาอันห่วงใยไปจากเขาแม้แต่แตอนที่พูดกับหมอวีระหนึ่งในทีมงานวิจัยของเขา
“เราพบการหลั่งสารฟินิลเอทิลลามีนรวมทั้งโดพามีนในสมองของเขาซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในตอนที่รู้สึกซาบซึ้งโรแมนติก แสดงว่าเขาเกิดความรักขึ้นเต็มหัวใจในขณะที่เกิดอาการผิดปรกติ..”หมอวีระอธิบายตามข้อมูลที่ตรวจสอบมา
“แสดงว่าบุญมารักผู้หญิงคนนั้นหมดหัวใจ แม้จะรู้ว่าถูกหลอก! ....นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้”ดร.นภดลพูดเสียงซังกะตาย
“หมายความว่ายังไงเหรอครับ”หมอวีระถาม
“หมายความว่า มันเกิดภาวะซูเปอร์โพซิชั่นขึ้นมาในวงจรตรรกะของคอมพิวเตอร์ชีวภาพในสมองของเขา เพราะว่าระบบประมวลผลยืนยันว่าผู้หญิงคนนั้นโกหกและไม่จริงใจกับเขา แต่เพราะความรักทำให้บุญมาไม่ยอมเชื่อและสั่งคำสั่งที่ขัดแย้งกับการประมวลผลอย่างรุนแรง ทำให้ระบบสารเคมีในสมองปั่นป่วนอย่างรุนแรง เครื่องคอมพิวเตอร์ชีวภาพจึงแฮงค์...มันหยุดการทำงานเพราะไม่ยอมรับคำสั่งไร้เหตุผลของบุญมาที่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไงล่ะ”
“ผมเข้าใจแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ แค่น้ำตาไม่กี่หยดของผู้หญิงก็ทำให้โครงการคอมพิวเตอร์ชีวภาพที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมีอันพังครืนลงมาได้”หมอวีระพูดพลางถอนใจ
“นั่นนะสิ สมัยก่อนมีนิทานเรื่องเมิ่งเจียหนีไปตามหาสามีที่ถูกเกณฑ์ไปสร้างกำแพงเมืองจีนแล้วเสียชีวิต เธอร้องไห้จนกำแพงพังทลายลงมา แต่ครั้งนี้...มันแค่น้ำตาแห่งความเสแสร้งไม่กี่หยดแท้ๆ...”
ดร.นภดลพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง
“น้ำตาของผู้หญิงนี่ช่างมีอานุภาพทำลายล้างเสียยิ่งกว่าอาวุธปรมาณูซะอีก!”
---จบ---