ผู้หญิงขัดดอก
2
ตอน
3.15K
เข้าชม
26
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
4
เพิ่มลงคลัง

ตอนที่ 1  คอย แม้รู้และมั่นใจ

ณ ประเทศอังกฤษ ห้องสี่เหลี่ยมที่ประดับด้วยเครื่องใช้สมัยใหม่ บ่งบอกถึงฐานะและความเป็นอยู่ของเจ้าของห้องได้ดี และห้องนี้น้อยคนนักที่จะได้ย่างกรายเข้ามา นอกจากสาวสวยที่เขาควง และเต็มใจขึ้นเตียงโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆเท่านั้น และใช่ว่าเจ้าของห้องจะมั่วจนไม่เลือกว่าผู้หญิงที่เขาควงมาจะผ่านศึกมามากแค่ไหนก็รับหมด มันไม่ใช่นิสัย     ชายหนุ่มอย่างเขา ผู้หญิงที่เขาควงทุกคนจะต้องมีที่มาที่ไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังปรนเปรอไฟสวาทที่กำลังลุกโหมอยู่ในขณะนี้

สาวผมทองร่างอวบอั๋น ทรวดทรงไหวสะท้าน ยามขยับโยกย้ายอยู่บนร่างแกร่ง ทำให้กายหนุ่มร้อนรุ่มเหมือนไฟสุม โดยรอลุ้นว่าเมื่อไหร่สาวร่างอวบจะพาตนไปถึงแอ่งน้ำ เพื่อดับไฟราคะที่กำลังโหมเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ยามเธอขยับโยกขึ้นและกระแทกเข้าหาความเป็นชายที่ชูชันรอการตอบรับอย่างไม่ลดละ โดยมือเรียวที่ไม่เคยหยิบจับงานหนัก ทำหน้าที่กอบกุมสิ่งที่ไหวสะท้านขึ้นลงตามแรงจังหวะที่เจ้าของกระแทกลงมา ร่างหนาตอบรับโดยการครางเสียงต่ำๆ อย่างพอใจ ลากเลื้อยไต่มือหนากอบกุมบั้นท้ายกดขยำจนเกิดรอย ผิวเนื้อเนียนเรียบถูกฟอนเฟ้นกดขยำไปด้วยแรงกระหาย ก่อนจะเลื่อนมือเรียวหนากอบกุมหน้าอกที่ใหญ่จนล้นมืออีกครั้ง

“โอ้ว...คุณใหญ่”

เสียงครางกระเส่าตอบรับสัมผัส ไม่ต่างกับชายหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมองเพดาน สายตาพร่าพราว ครางต่ำๆ เป็นการตอบรับในการตอบสนองกับสิ่งที่หญิงสาวกระทำอยู่

ร่างอวบกำลังพาตัวเองไปถึงจุดหมายที่พร่างพราวรออยู่ตรงหน้า กระแทกเข้าไปสุดแรงสองสามครั้งก่อนจะถึงที่หมายตามสิ่งที่ต้องการ ช่องทางที่แคบและแนบแน่นบีบตอดรัดแก่นกายแกร่ง ร่างกายของเขากำลังปวดร้าวด้วยแรงตอดรัดของสาวด้านบน

ธาดา หรือคุณใหญ่ที่สาวๆเรียกกัน พลิกร่างที่กำลังอ่อนปวกเปียกนอนซ้ำที่ของเขา หยิบสิ่งป้องกันที่เขาวางไว้ในลิ้นชักหัวเตียงเสมอ ก่อนจะฉีกซองและสวมมันเข้าไป

ในเมื่อเขายังไปไม่ถึงที่หมาย เกมนี้เขาจะเป็นคนเริ่มต่อ ขยับตัวเองเป็นฝ่ายควบคุมอีกครั้ง เพื่อที่จะไปถึงที่หมาย ตามผู้หญิงที่นอนแผ่หลาอย่างหมดแรง เหงื่อผุดพรายทุกอณูบนร่างกายอวบงามของคนเจ้าเนื้อ แต่แน่นไปด้วยเนื้อหนังที่ผ่านการดูแลเป็นอย่างดี กายแกร่งที่ยังพองโตถูกจับไว้มั่น จ่อตรงช่องทางคับแคบ ก่อนจะถูกส่งเข้าไปเต็มแรงครั้งเดียวจนมิด

“อ่า...คุณใหญ่” เสียงพร่าเอ่ยรับ กับการถูกทักทายครั้งใหม่

“ไม่ดีเลยทาร่า ที่ชิงไปก่อน” ต่อว่าสาวผมทองเสียงแหบพร่าอย่างไม่จริงจังนัก

“ผมต่อจนกว่าจะจบนะครับ” ยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมขยับเข้าออกช้าๆ เพื่อไม่ให้ใจร้ายกับอีกคนจนเกินไป

“คุณ ใหญ่...อือ...อ่า...” เสียงแหบพร่าสะอึกสะอื้นเรียกหา พร้อมกับเสียงครางต่ำๆ ที่ดังผสานกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีจังหวะของเนื้อกระทบเนื้อดังผสานเป็นทำนองผสานกันอย่างลงตัว ความซาบซ่านปนเสียวเริ่มต้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้คนที่มีร่างกายแกร่งเป็นคนคุมเกมทั้งหมด

“คุณใหญ่จะกลับเมืองไทยจริงๆ หรือคะ” สาวผมทองใบหน้าอวบอิ่มเอ่ยถาม เมื่อจัดการสวมเสื้อผ้าให้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว มือที่กำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตหยุดชะงัก “รู้ด้วยหรือครับ ว่าผมจะกลับเมืองไทย” ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้าแปลกใจ เพราะเขาไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้กับใครนอกจาก...ผู้ร่วมหุ้น

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น เมรีเป็นคนบอกทาร่าเองค่ะ” สาวสวยเอ่ยบอกเหมือนรู้ใจชายหนุ่มดี ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“ผมลืมไป ว่าคุณเป็นเพื่อนสนิทกับเมย์” เขาเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้

เมย์เป็นสาวสวยอีกคนที่ตามติดเขาอย่างไม่ลดละ แต่เพราะหล่อนเป็นลูกสาวเพื่อนร่วมหุ้นส่วนในเครือที่ตั้งรากฐานอยู่อังกฤษนานพอๆ กับที่ชายหนุ่ม และทาร่าหญิงสาวที่เขาชอบพอ พาขึ้นมานอนด้วย ก็เป็นเพื่อนรักกันกับเมย์ ทำให้เขารู้ประวัติของผู้หญิงคนนี้ได้ไม่ยาก  และเมื่อหล่อนเสนอตัวเข้ามาให้เขาได้ปลดปล่อยความต้องการทางธรรมชาติ ของกันและกันโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆจึงคบหล่อนไว้...

“เมย์บอกทาร่าค่ะ ว่าจะไปเที่ยวเมืองไทยกับคุณด้วย จริงหรือเปล่าคะ?” สาวสวยเอ่ยถามสีหน้าอยากรู้

แม้จะไม่ได้หวังอะไรในคำถามนั้น แต่ก็อยากรู้ว่าเพื่อนรักอย่างเมรีจะโกหกตัวเองหรือเปล่า เพราะเท่าที่รู้เพื่อนของตนก็ชอบชายหนุ่มเช่นเดียวกัน แต่ก็เก็บความรู้สึกแปลกใจเอาไว้ ว่าเพราะเหตุใดชายหนุ่มจึงยอมเลือกที่จะมีอะไรกับเธอ แทนจะเป็นเพื่อนสาว ที่ดูจะสนิทสนมกันดีกว่าเธอด้วยซ้ำ

“หรือครับ ผมเองก็เพิ่งจะรู้จากทาร่านี่แหละ”

ชายหนุ่มรู้สึกไม่ชอบใจ หากเมรีหรือเมย์ จะตามเขาไปจริงๆแต่ถึงอย่างไรเขาคงปล่อยให้หล่อน ตามติดเขาไปตลอดรอดฝั่งไม่ได้...

**************************************

เท้าเรียวงามที่แกว่งไปมาในสระที่ทำให้เกิดคลื่นน้อยๆ ให้ไหวตามแรงแกว่งอย่างเหม่อลอย ความเย็นที่ซึมซับเข้าในผิวหนังบอบบาง ไม่อาจทำให้หัวใจของสาวสวยอย่างมนธิรารู้สึกเย็นตามไปได้เลย หัวใจที่เหมือนหมดอาลัย หัวใจที่สับสนทุกระทม นั่งคิดอะไรอย่างเหม่อลอย

กี่ปีที่ตัวเองได้ผ่านพ้นชีวิตอันน่ารันทด ที่ผู้เป็นพ่อกระทำต่อลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง คงไม่มีครอบครัวไหนอีกแล้วที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้  ขายได้แม้กระทั่งลูกในไส้

ครอบครัวที่เคยอบอุ่น มีพ่อ แม่ ลูกอันเป็นที่รัก ต้องมาเปลี่ยนไปหลังจากที่แม่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน พ่อที่เคยทำงานเพื่ออุทิศแรงกายและแรงใจทำงานไม่เคยย่อท้อ ไม่เคยเอ่ยปากบ่น กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กินเหล้าเมายา แถมติดการพนันอย่างไม่หน้าเชื่อบางวันข้าวสารกรอกหม้อก็ยังไม่มี ทำให้เด็กหญิงร่างผอมบางต้องอดมื้อกินมื้อ

แล้ววันแห่งความปวดร้าวก็ก้าวเข้ามา ทำให้เด็กสาววัยสิบสี่อย่างหล่อนต้องระหกระเหิน สู่บทเรียนบทใหม่ในชีวิต รับเอาชะตากรรมที่กำลังเล่นงานโดยไม่รู้ตัว

วันเวลาเดินผ่านไปในแต่ละวันดูแสนยาวนาน แค่ความหวังน้อยนิด คิดไว้ว่าสักวันมันอาจจะเป็นความจริงขึ้นมาบ้าง ตอนนี้หล่อนแค่หวังให้ผู้เป็นพ่อกลับมารับเธอกลับไป แต่การรอคอยมันก็ดูเลือนรางเต็มที สิบปีแห่งการรอคอยมันมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแม้เงาผู้ให้กำเนิด มันช่างเจ็บปวดและทรมานใจยิ่งนัก...

 

"หนูบี! นั่งทำอะไรอยู่ คุณใหญ่กำลังจะมาถึงอยู่แล้ว" 

ร่างบางสะดุ้งกับเสียงเรียก สติสัมปชัญญะค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิม เธอรีบดึงขาเรียวเปียกน้ำของตัวเองขึ้นขอบสระทันที

เสียงเรียกที่ดังออกมามันไม่ได้ทำให้สาวสวยอย่างเธอตกใจ แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจและหัวใจเต้นแรงผิดปกติ คงเป็นเพราะชื่อของใครบางคนเท่านั้น...

ผู้ชายใบหน้าเข้ม ที่เจอครั้งแรกหล่อนถึงกับร้องไห้กอดผู้เป็นพ่อไว้แน่น เมื่อรับรู้ว่าผู้เป็นพ่อจะส่งเธอให้กับผู้ชายร่างใหญ่ที่นั่งจังก้า แววตาที่ทอดมอง ผู้เป็นพ่อของเธออย่างเหยียดหยัน คงสมเพชกับการกระทำของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าพ่อ ที่คิดจะขายแม้กระทั่งลูกสาว

แม้ชายหนุ่มจะไม่เอ่ยอะไรเลย หากแต่ผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่เอ่ย “หากคุณธาดาไม่รับลูกของผมไว้ ผมก็จะเอาไปขายซ่อง แล้วเอาเงินที่ได้มา มาใช้หนี้และเสียดอกให้คุณ” คนเป็นพ่อเอ่ยอย่างไม่รู้สึกรู้สา แต่เด็กน้อยร่างบางถึงกับเข่าอ่อนทนยืนฟังคำเอ่ยของผู้เป็นพ่อไม่ไหว ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่คิดอายใคร

จะเป็นเพราะความเป็นคนอยู่บ้างหรืออย่างไรชายหนุ่มจึงจำใจรับเด็กหญิงไว้ พร้อมกับให้เงินก้อนหนึ่งกับผู้ชายที่ได้ใช้ลูกของตัวเองเพื่อขัดดอกนับแต่นั้นก็เงียบหายไม่เคยย่างกรายมาให้เห็นอีกเลย

 

“ค่ะ” หญิงสาวตะโกนรับออกไป รีบลุกขึ้นไปหาคนต้นเสียงทันที

อาการฉีกยิ้มของสาวสวยตรงหน้า ทำให้ผู้หญิงต่างวัยอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “เป็นอะไร ยังทำใจให้ชิน ไม่ได้อีกหรือ? ”ป้าจุ้มวัยกลางคนส่งยิ้มบางๆ นางรู้ใจหญิงสาวคนนี้ดีกว่าใคร เพราะหญิงสาวตรงหน้าไม่มีใครอื่น ที่สนิทและรู้ดีเกี่ยวกับชีวิตของเธอนอกจากป้าจุ้ม หากจะมีก็คงเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัย และเรื่องไม่สบายใจส่วนมากจึงตกมาเป็นเรื่องที่ต้องมีอะไรมาบอกกล่าวเสมอ หากวันไหนเธอรู้ตัวว่ากำลังต้องการระบายออกจากใจที่หนัก นางจึงเป็นผู้รับฟังและปลอบใจที่ดีเสมอ

คนเราหากบางเวลาต้องการจะระบายความในใจ ถึงจะไม่ใช่คนใกล้ชิดดั่งเช่นญาติพี่น้องก็ตาม ใครก็ได้ที่พร้อมจะเป็นผู้ฟังที่ดี คนนั้นก็พร้อมที่เราจะปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นไว้ได้ และเพราะเหตุผลนั้นแหละ ที่ป้าจุ้มรู้ว่าหญิงสาวประหม่าแค่ไหน ผู้ที่รับหล่อนมาในฐานะผู้หญิงขัดดอกแต่กลับกัน  หล่อนได้สิทธิพิเศษกว่าใครๆ คือได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยจนจบ และก็มีเงินเดือนเหมือนลูกจ้างทั่วไป ถึงหล่อนจะทำในช่วงหลังเลิกเรียน และเสาร์ อาทิตย์ก็ตาม นี่คือความปรานีของผู้ชายคนนั้น  ที่ส่งเสียค่าใช้จ่ายในการเรียน โดยโอนเข้าบัญชีของหล่อนทุกเดือน ตลอดเวลาที่เขาไม่ได้อยู่เมืองไทย

แล้วอย่างนี้หล่อนจะพบหน้าผู้ชายคนนั้นในฐานะอะไร ตอนนี้หล่อนทำใจยังไม่ได้เลย แม้ไม่ได้เห็นหน้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ใบหน้าหล่อเข้ม ที่หล่อนไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มของเขาเลยช่วงระยะที่พบกันเมื่อสิบปีก่อน  แต่ความทรงจำรูปร่างหน้าตาของเขานั้น มันยังติดตาของหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง

"คุณใหญ่คงจะเข้าไปข้างในแล้วล่ะ"  ป้าจุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆ และหยุดเดินกะทันหัน เมื่อเห็นความผิดแปลกกับสิ่งที่จอดอยู่ด้านหน้า

รถเบนซ์ใหม่เอี่ยมมันวาวจอดอยู่หน้าตึก การกระทำของคนที่เดินอยู่ด้านหน้า ส่งผลให้คนที่เดินอยู่ด้านหลังถึงกับจิกเล็บเท้าเบรกกะทันหัน

“มีอะไรหรือคะป้าจุ้ม?" ร่างบางเอ่ยถาม เพราะหล่อนก็ยังไม่เห็นว่ามีอะไรขวางทางเดินที่ทำให้ป้าต้องหยุดกะทันหันอย่างนี้

“หนูบี...จะใจลอยไปถึงไหน” เสียงต่อว่าเบาๆ กับสายตาที่ค้อนมา แต่หญิงสาวอย่างหล่อนรู้ดีว่าที่จริงนั้น แฝงไปด้วยความห่วงใย

"คะ!" หล่อนทำตาโตอย่างไม่รู้จริงๆ ว่าที่ป้าจุ้มพูดและทำเหมือนกำลังบอกใบ้อะไร มันคืออะไร ก็สติหล่อนเพิ่งกลับมาก็ตอนที่จะชนหลังป้าจุ้มนั่นแหละ และก็ดีเท่าไหร่ที่หลอนไม่เผลอชน

“หนูบี...ป้าบอกว่าคุณใหญ่คงมาถึงแล้ว และตอนนี้คงเข้าไปข้างในแล้วละ” ป้าจุ้มพูด สายตายังค้อนหญิงสาวตรงหน้าไม่เลิก แต่มันไม่ได้จริงจังอะไรต่างคนต่างรู้ดี ความกังวลจึงไม่มีบนใบหน้าของทั้งสอง

“บีขอโทษนะคะ” ร่างบางทำหน้าเหวอ “ทำให้ป้าจุ้มพลาดที่จะเจอคุณหนูของป้าจุ้มเป็นคนแรก ขอโทษนะคะ...นะนะบีขอโทษจริงๆ นะคะ”

ร่างบางรีบสวมกอดนางทันที ด้วยความขี้เล่นขี้อ้อนของหล่อนเช่นกัน เพราะหล่อนได้ยินป้าจุ้มบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ป้าจุ้มจะเป็นคนเดินมาเปิดประตูรถให้ชายหนุ่มเอง หากวันที่เขากลับมา แต่เพราะหล่อนออกมาจากตึก ทำให้ป้าจุ้มต้องเดินออกมาตาม ทำให้พลาดที่จะพบคุณหนูสุดที่รักไป ทำให้หล่อนรู้สึกผิด นี่แหละถึงต้องไถ่โทษด้วยกิริยาและถ้อยคำหวานๆ ผสมกับความขี้อ้อนของหล่อน

“ไม่เป็นไร เรารีบเข้าข้างในกันเถอะ ทุกคนคงคอยแล้วละ”

เมื่อเจอสายตาออดอ้อนกับคำพูดหวานๆ ของหล่อน ทำให้สายตาที่ค้อนอย่างไม่จริงจังนักของผู้สูงอายุเปลี่ยนเป็นประกายอ่อนโยน ที่แฝงไปด้วยความเมตตาหญิงสาวที่มีอยู่แต่เดิมทันที แล้วทั้งสองก็ประคองเดินเข้าไปตึกใหญ่ทันที

ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกหันมอง โดยเฉพาะเจ้าของตึกที่ส่งสายตาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ฉันนึกว่าคนตาม กับคนที่ถูกไปตาม จะหายหัวไม่กลับมาข้างในแล้วเสียอีก” เสียงกระแนะกระแหนของผู้เป็นคุณหญิงเจ้าของคฤหาสน์ดังขึ้นทันทีที่สองสาวต่างวัยโผล่หน้าให้เห็น พร้อมๆ กับสายตาอีกสองคู่ของหนุ่มสาวหันมามองแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไป

ป้าจุ้มก้มหน้ารับคำ เหมือนกับบีที่ได้แต่ทำใจไม่ให้คิดมากเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องปกติที่คุณหญิงปราณีจะต่อว่าหล่อนและหาเรื่องแขวะหล่อนอยู่บ่อยครั้งหากมีโอกาส คงเป็นเพราะความหมั่นไส้ในตัวหล่อนที่ลูกชายแผ่เมตตามายังหล่อนมากเกินไปกระมัง นางจึงรู้สึกไม่ถูกชะตากับหล่อนตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเหยียบในตึกหลังนี้

“ใหญ่!เอาเด็กอะไรที่ไหนมา?” ดวงตาเบิกกว้าง พร้อมกับคำถามของผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ในตึก  
          “คือ...เด็ก...”  ชายหนุ่มเองก็ยากที่จะตอบ มองผู้เป็นแม่นิ่ง แล้วหันมามองเด็กสาวที่ยืนประหม่าอยู่ด้านหลังของเขา  
         “ว่าไง เด็กที่ไหน บอกแม่มาให้ดีๆ นะ หากคำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจ แม่จะไล่ตะเพิดออกไปเลยเชียว!” คำพูดและหน้าตาของผู้เป็นแม่บ่งบอกว่าเอาจริงอย่างที่พูดเป็นแน่
          ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเล่าตามความเป็นจริง เสียงถอนหายใจ ผู้เป็นแม่มองสีหน้าเอาเรื่อง "นี่หากมีใครเอาลูกสาวมาให้แกขัดดอก แกมิรับไว้หมดหรือไงตาใหญ่" ปากต่อว่าลูกชายแต่สายตาก็ส่งจิกเด็กสาว จนหล่อนต้องรีบหลบตาต่ำมองพื้น
          “ผมคงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วครับแม่...รบกวนคุณแม่จัดการให้ที่อยู่ที่กินเด็กคนนี้ด้วยนะครับ" น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง ทำให้ผู้เป็นแม่ยากที่จะปฏิเสธ
          “แต่แม่ไม่ให้มันอยู่ฟรีหรอกนะ" สายตาเพ่งมอง พิจารณาจากหัวจรดเท้า
           จะว่าขี้ริ้วขี้เหร่ก็ไม่ใช่.... ถึงจะไม่ค่อยพอใจอยู่บ้างแต่เมื่อมองดีๆ เด็กคนนี้ก็สวยน่ารักดี แม้จะรู้สึกพอใจ แต่ความเป็นจริงที่ได้เด็กผู้หญิงนี้มา ทำให้เจ้าของบ้านอย่างคุณหญิงปราณีมองหล่อนแค่เด็กน่าเวทนา ที่ต้องรับเลี้ยงไว้เพราะความต้องการของลูกชายเท่านั้น
           "แล้วแต่คุณแม่ เรื่องค่าใช้จ่ายผมเป็นคนออกให้เอง แม่ไม่ต้องห่วง" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนที่จะก้มลงนั่งใกล้ๆ เมื่อเห็นผู้เป็นแม่เริ่มเย็นลงบ้างแล้ว
          “หมายความว่าไงค่าใช้จ่าย?” เสียงนางดังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
          “คือ...ผมต้องการให้เธอเรียนให้จบ" ชายหนุ่มพูดเสียงราบเรียบ แต่คนสองคนที่ได้ยินถึงกับอึ้ง มองชายหนุ่มเหมือนกับว่า เขาพูดอะไรไม่ดีออกมา
         “เรียน!! นี่แกจะบ้าหรือไง เขาให้เอามาขัดดอก แล้วนี่แกจะเอามาเลี้ยง แล้วส่งเสียให้เรียน โอ๊ย!!ฉันจะเป็นลม"พูดจบร่างท้วมที่นั่งอยู่ เอามือแตะหน้าผากตัวเอง ทำท่าจะเป็นลมเสียให้ได้ กับคำพูดลูกชายที่เอ่ยออกมา
         ร้อนถึงชายหนุ่มต้องรีบเข้าไปบีบนวดผู้เป็นแม่ " โถแม่ อย่าทำแบบนี้สิครับ ผมก็แค่เห็นว่าเด็กคนนี้อยู่ในวัยที่สมควรได้รับการศึกษา แม่ก็ทำบุญกับเด็กยากจนมาเยอะ แค่ให้ที่อยู่ที่กิน มันก็ไม่น่าลำบากอะไร" เหตุผลของชายหนุ่มทำให้ผู้เป็นแม่ค้อนลูกชายตาเขียว
         “ทีอย่างนี้ทำมาเป็นรู้ดี ก็ได้ แม่จะถือเสียว่าเลี้ยงเด็กตกยากไว้ในบ้านสักคน" นางพูดอย่างจำใจ มองเด็กสาวกึ่งเวทนา
          “อย่างนี้สิครับ ถึงจะเรียกว่าคุณหญิงปราณี  รัตรังสรรค์" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างโล่งใจ

"แต่แกอย่าลืมที่พูดไว้ล่ะ" นางเอ่ยย้ำ

"คร้าบ" คนเป็นลูกชายพูดพลางก้มไปหาแก้มนวลของผู้เป็นมารดา แล้วก้มหอมแก้มนางฟอดใหญ่

ภาพตรงหน้าที่แสดงความรักของผู้เป็นลูก ที่มีต่อแม่ทำให้เด็กหญิงถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

 

แม่คะ แม่จะรู้ไหมว่าลูกสาวของแม่กำลังอ่อนแอเหลือเกิน...

สามารถกดดูนิยายทุกเรื่องในรูปแบบอีบุคได้นะคะ

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMzQwMzExIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiNDI5NDkiO30

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว