สวยเดินตามชายหนุ่มชุดดำที่เธอเดาว่าน่าจะเป็นบอดิการ์ดที่ถูกว่าจ้างให้มาดูแลคุ้มกันผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้โดยเฉพาะเข้าไปภายในตัวบ้าน ระหว่างเข้ามาเธอสังเกตเห็นว่า ยังมีชายสูทรชุดดำยืนคอยสังเกตุการณ์สิ่งผิดปกติอยู่เป็นจุด จุดละสองคน เท่าที่เด็กสาวนับได้ก็น่าจะมีประมาณสามถึงสี่สุด เธอนึกแปลกใจว่าทำไมบ้านหลังใหญ่โตที่อาจจะเรียกว่าคฤหาสน์ได้เลยหลังนี้ ถึงเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยจนผิดปกติ เหมือนกับว่ามีคนคอยคิดทำการไม่ดีกับคนในบ้านนี้ถึงต้องระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
เมื่อบอดิการ์ดร่างสูงพาเธอเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน ซึ่งภายในนั้นถูกตกแต่งไว้ด้วยเฟอร์เจอร์หลากชิ้น ล้วนแต่เป็นไสตล์เดียวกันหมด คนมีความรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ที่พึ่งเคยได้พบเห็นเป็นครั้งแรก ถึงกับต้องห่อปากแสดงความชื่นชมออกมาในใจ พลางสายตาก็กวาดมองไปทั่วห้องรับแขกภายในบ้านความด้วยความสนใจ ภาพศิลปะที่แสดงถึงอิริยาบถต่างๆของคนและสัตว์หลายรูปที่แขวนไว้บนผนังอย่างลงตัว ทำให้คนที่กำลังนั่งรอเจ้าของบ้านนั่งมองอย่างเพลินตา
ผู้เป็นดั่งแขกของบ้านลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปไกล้รูปภาพใบหนึ่งแล้วจ้องมองนิ่งอย่างคนกำลังอ่านความหมายของรูปภาพที่เขียนด้วยสีน้ำมัน ซึ่งเป็นภาพของผู้หญิงที่กำลังจะตกลงจากหน้าผา ด้านล่างเป็นทะเลลึก โดยมือของเธอถูกชายคนหนึ่งจับไว้แน่น และข้อมือของชายคนนั้นถูกล่ามโซ่ล็อคกุญแจไว้ติดกับกิ่งไม้ด้านบนหน้าผา ส่วนมืออีกข้างของผู้หญิงคนนั้นถือลูกกุญแจซึ่งคนที่กำลังวิเคาะห์รูปภาพใบนั้นอย่างกำลังใช้สมาธิเดาว่าน่าจะเป็นลูกกุญแจที่ใช้ไขกุญแจของโซ่ที่ล่ามข้อมือฝ่ายชายเอาไว้ ในขณะที่เท้าของเธอถูกโซ่ล่ามแล้วถ่วงก้อนหินก้อนใหญ่
ในขณะที่ยังอ่านความหมายของภาพอยู่นั้น คนกำลังใช้สมาธิอย่างหนักก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองเธอจากทางด้านหลัง ทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง
ทันทีที่หันหลังกลับไป เด็กสาวเห็นใครบางคนกำลังจ้องมองมายังเธอนิ่ง ชายคนนั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายสมส่วน ใบหน้าคมนั้นกำลังแสดงความไม่พอใจส่งมาที่เธอโดยไม่ต้องสงสัย ใบหน้าหล่อเหลายังคงจ้องมองเธอนิ่งรอดูว่า คนที่ถือวิสาสะมายืนดูรูปของเขาก่อนได้รับอนุญาติจะมีท่าทีเช่นไร
เพราะไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครอยู่ในฐานะอะไรในบ้านหลังนี้หรือเป็นแขกผู้มาเยือนเช่นกัน ทำให้คนถูกจ้องอยู่นานแล้วรู้สึกโมโหเมื่อเขาเอาแต่จ้องมองมาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรแต่ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากเรียวปากได้รูปนั้น แบบนี้เท่ากับหาเรื่องกันทางสายตาชัดๆ
สวยส่งใบหน้าบึ้งตึงกลับไปให้คนที่มองเธอด้วยนัยตาคมดุ ก่อนอดที่จะอยากรู้ไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใครทำไมถึงต้องมองเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจออกมาแบบนั้น
"นี่นายจะจ้องฉันอยู่อีกนานมั้ย "เธอเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงแทบจะเป็นตะโกนเพราะคนที่เธอพูดด้วยยืนห่างจากเธอไกลพอสมควร การพูดเบาๆอาจจะทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ยิน เขาอาจจะเป็นใบ้หรือไม่ก็หูหนวก แต่ตาไม่บอด ถึงเอาแต่จ้องมองอย่างเดียวโดยไม่พูดไม่จา
คนร่างสูงสง่าก้าวเข้าหาคนที่ยังส่งสายตาท้าทายมายังเขาด้วยความใจเย็น ก่อนหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคนที่ตอนนี้สายตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและพร้อมรับมือทันที หากเขาคิดทำอะไรเธอในตอนนี้
สีหน้าไม่ไว้ใจนั้นยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในบุรุษแปลกหน้า และมีท่าทีระแวดระวัง กวาดมองรอบข้างเตรียมหาทางหนีทีไล่ หากชายหนุ่มรูปงามคนนี้คิดจะจับเธอใส่กระสอบแล้วเอาไปถ่วงน้ำที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีคนเห็น หรือเขาอาจจะเป็นโรคจิต พวกนิยมความรุนแรง ชอบดูหนังฆาตกรสยองขวัญแล้วเลียนแบบการฆาตกรรมนั้นเพื่อตอบสนองความชอบภายในใจที่ไม่ปกติของตัวเอง คนร่างบางคิดไปไกลจนเกือบดูไร้สาระหรือเกินความเป็นจริงไปสักหน่อย ทั้งที่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้มีเค้าว่าจะเป็นแบบที่เธอแอบคาดเดาไปเรื่อยเปื่อยเลยสักนิด
ถ้าจะให้ดูโดยรวมแล้ว ชายคนนี้ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่สง่างามเอาการเลยทีเดียว การแต่งเนื้อแต่งตัวก็ล้วนแล้วแต่เป็นเสื้อผ้าชั้นดีราคาดูแพงหูฉี่เท่ากับเงินเดือนของใครหลายคนทั้งเดือน แน่นอนเขาดูเหมือนคนคนมีฐานะและชาติตระกูลซึ่งดูจากภายนอกแล้วช่างต่างกับเธอคนละชั้นฟ้าจนเธอนึกอายตัวเองที่กล้าไปคิดกับคนร่างสูงสง่าตรงหน้าแบบนั้น
"มาทำอะไรที่นี่"คนร่างสูงสง่ายิงคำถามทันทีหลังจากได้พิจารณาคนร่างบางตรงหน้าอย่างละเอียดถ้วนถี่แล้ว
เสื้อยืดสีขาวธรรมดากับกางเกงยีนส์ขาสั้นตัวเก่าบ่งบอกว่าเด็กสาวที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคนนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าของบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นพี่ชายร่วมสายเลือดกับเขาได้เลย แล้วเด็กสาวที่แต่งตัวดูปอนๆที่กล้ามองสบตากับเขาอย่างถือดีนี้คือใครกัน
"ว่าไง ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง"เขาย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีทีท่าว่าจะตอบ
"แล้วคุณเป็นใคร เข้ามาในนี้ทำไม"
กล้าดียังไงถึงถามเขาออกมาแบบนั้น ใยเด็กนี่!
"คำๆนั้น ฉันควรจะถามเธอมากกว่า อย่าบอกนะ ว่าเธอคิดจะเข้ามาโขมยของ"
คนถูกกล่าวหาเบิกตาขึ้นเมื่อได้ยินคำดูถูกจากปากคนร่างสูง เธอพยายามเก็บอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้ เพราะไม่แน่ใจว่าชายคนนี้คือใครกันแน่และอยู่ในสถานะใดในบ้านหลังนี้
"ฉันมารอพบคุณวรากร"เธอพูดด้วยท่าทีที่ดูสงบมากขึ้น
รอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นทางสีหน้าทันทีเมื่อได้ฟังจุดประสงค์ของคนที่ยังยืนนิ่งมองตอบเขาอย่างไม่เกรงกลัว
"มาขอเงินสินะ"
"อะไรนะ!"เธอเน้นเสียงหนัก เมื่อดูเหมือนว่าเขาจะดูถูกเธอเป็นครั้งที่สอง...มันจะมากเกินไปแล้ว
คนปากร้ายเหยียดยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยขึ้น"คนเรานี่ก็นะ พอเห็นคนอื่นได้หน่อย ก็อยากจะได้บ้าง พี่ฉันน่ะเป็นคนใจดี แม้จะดูนิ่งๆ แต่ขี้สงสาร ไอ้พวกที่ชอบขอเงินคนอื่นฟรีๆเลยได้ใจ โดยใช้สารพัสข้ออ้าง ทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้ แค่นี้พี่ฉันก็ใจอ่อนยอมทำบุญไปให้ผู้ยากไร้ซะแล้ว จริงมั้ยที่ฉันว่า"
คำพูดอันแสนร้ายกาจนั้นทำให้คนที่ยืนตั้งใจฟังอยู่ขบกรามแน่น จ้องมองไปยังตัวผู้พูดด้วยสายตาเอาเรื่อง เธอไม่คิดว่าคำพูดบ้าๆพวกนี้จะออกมาจากปากของชายหนุ่มที่ดูภายนอกแล้วช่างดูมีสกุลรุนชาติผิดกับวาจาเชือดเฉือนที่เปล่งออกมานั้นอย่างสิ้นเชิง"หยุดดูถูกคนอื่นได้แล้ว ฉันไม่ได้มาขอเงิน อย่างที่นายคิดหรอกนะ และฉันก็ไม่เคยคิดอยากได้เงินใครฟรีๆ"
"แล้วเธอมาที่นี่ทำไม สาวน้อย มาเพื่ออะไรกัน อย่าบอกนะว่า..."
เพี้ยย!!..คำพูดที่กำลังจะหลุดจากปากนั้นสงบลงทันที เมื่อใบหน้าอันหล่อเหลา ถูกตบเข้าอย่างแรงจนหน้าของเขาหันตามแรงมือเล็กน้อย แก้มขาวปรากฏเป็นรอยแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คนที่ถูกทำร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัวส่งสายตาอย่างเหี้ยมเกรียม ไปให้คนที่พึ่งทำร้ายร่างกายเขา และกำลังยืนทำหน้าตกใจ หวาดกลัวกับสิ่งที่ทำลงไปนั้น
สวย...ค่อยก้าวถอยหลังช้าๆเมื่อเธอเผลอทำตามอารมณ์ชั่ววูบออกไป โดยไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งที่จะตามมาอาจทำให้เธอเดือดร้อนในภายหลัง เธอถอยร่นอย่างช้าๆรอดูท่าทีว่าเขาจะเอาคืนหรือไม่ เมื่อเห็นว่าร่างสูงก้าวตามมาด้วยความโกรธจัด เธอจึงหันหลังกลับอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมตัวที่จะหนี แต่ไม่ทันมือแกร่งที่ยื่นออกมาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้เสียก่อน
"ปล่อยฉัน"คนถูกดึงข้อมือเอาไว้แล้วคว้ามากอดจากข้างหลัง ดิ้นรนขัดขืนสุดแรงเกิด แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงอันมหาศาลของชายหนุ่มที่รัดเธอไว้อย่างแน่นหนา
"เธอกล้าดียังไง ถึงมาตบฉัน เธอคิดผิดแล้วรู้รึเปล่า"ชายหนุ่มที่กำลังมีอารมณ์โกรธจัด คลายอ้อมแขนออกแล้วหันตัวเธอให้มาเผชิญหน้ากับเขา
คนถูกบีบเรียวแขนทั้งสองข้างไว้แน่น เริ่มเบ้ปากเพราะความเจ็บปวดจากแรงมือหนานั้น แต่ก็ยังจ้องหน้าคนตั้งใจออกแรงบีบแขนเธอนิ่งอย่างไม่หลบสายตา"เอาสิ จะตบฉันคืน ก็เอาเลย ให้มันรู้ไป ว่าภายนอกที่ดูดีเป็นสุภาพบุรษแบบนาย ทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้"
"ท้าทายงั้นเหรอ"เขาเอ่ยเสียงต่ำแววตาเริ่มมีประกายลุกโชน"ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่ทำได้เจ็บแสบมากกว่าที่เธอคิด"จบคำเรียวปากอุ่นก็ฉกเข้าที่ริมฝีปากของคนที่พึ่งพูดท้าทายเขาในทันที
คนถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ ก่อนพยายามดิ้นรนเบี่ยงหน้าหนีจากการถูกริมฝีปากอุ่นร้อนนั้นครอบครอง
มือแกร่งล็อคหลังคอของคนถูกล่วงล้ำไม่ให้หนีไปไหนได้ เขาคลอเคลียร์อยู่แบบนั้น และเหมือนรสความหวานจากริิมฝีปากบางแดงธรรมชาติ ทำให้เขาไม่อยากถอนจูบออกไปโดยง่าย จนกระทั่งรับรู้ถึงความอุ่นชื้นของน้ำใสๆที่ใหลอาบแก้มของคนที่ตนได้ทำการล่วงเกิน ชายหนุ่มจึงค่อยได้สติ แล้วค่อยถอนจูบนั้นออกมาอย่างนึกเสียดายความหวาน
ใจของเขาอ่อนยวบ เมือเห็นใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา และริมฝีปากบางบวมเจ่อนั้นสั่นระริก ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นทันที นี่เขาทำบ้าอะไรกัน ทำแบบนั้นลงไปได้ยังไง
ก่อนที่จะได้เอ่ยคำขอโทษ คนที่พึ่งถูกกระทำย่ำยีก็รีบหันหลังกลับ วิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
คนที่เผลอทำเรื่องไม่สมควร มองตามร่างบางที่วิ่งลับประตูไปด้วยความรู้สึกสำนึก เขาไม่น่าเลย ไม่น่าทำแบบนั้น นี่ไม่ใช่ตัวเขา ไม่ใช่เลยสักนิด...