กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ...  

บนสวรรค์ชั้นฟ้าเหนือประเทศไทย คนธรรพ์หนุ่มรูปงาม ใบหน้าสวยราววาดไว้กำลังสีซอไพเราะถวายพระอินทร์ แต่แววตาของเทวดาที่ทำหน้าที่เป็นนักดนตรีตนนี้ เหม่อลอยไปไกลแสนไกล.. 

ท่วงทำนองเพลงที่นิ้วเรียวพรมดีดออกมาช่างอ่อนหวาน แต่แสนเศร้า เพราะมันกลั่นมาจากความรู้สึกเหงาจับใจ ยิ่งเขาเห็นความรักอันสมหวังของเทวดานางฟ้าตกสวรรค์ตนอื่น เขายิ่งตระหนักว่าเขาอยู่ตัวคนเดียวไร้คู่มาแล้วหลายกัลป์หลายกาล..  

ใครว่าเกิดเป็นเทวดาหน้าตาดี มีพรสวรรค์ทางดนตรีแล้วจะต้องมีผู้หญิงมาชอบเสมอไป.. ไม่จริงเสียหน่อย เล่นดนตรีมันทุกวัน เก่งขึ้นเพียงใด ก็เล่นได้แต่เพลง... 

"เจ้านี่เป็นทุกข์ร้อนประการใด ? เล่นแต่เพลงเศร้าให้ข้าหม่นหมองได้ทุกเมื่อเชื่อยาม ? " เสียงพระอินทร์ผู้เป็นนายทักขึ้น สายพระเนตรทอดมายังเทวดาที่ตนได้รับมาทำงานด้วย "คงเป็นเพราะเจ้า อาสน์ของข้าเคยอ่อนดีๆ กลับแข็งตรงมุมนี้อีกแล้ว ความทุกข์ตรอมตรมของเจ้านี่มันมาจากที่ใด ฮึ ?" 

คีตเทพกรรณ คนธรรพ์ ตาโตตกใจ รีบพนมมือ "ไม่มีอันไดพระเจ้าค่ะ ข้าพระพุทธเจ้าเพียงแต่..." แล้วก็กลืนน้ำลาย.. จะบอกยังไงว่า เซ็งที่ต้องทำงานทุกวี่วันไม่มีโอกาสไปสบตาหรือจีบนางฟ้าตนใด ? 

พระอินทร์ทรงแย้มพระสรวล "ทำไม ? ขาดซึ่งสตรีให้หมายปอง เจ้าก็ไม่มีอารมณ์เล่นดนตรีเชียวหรือ ? ก็ได้ ข้าก็เบื่อดนตรีจังหวะเศร้าซึมของเจ้าเหมือนกัน" พระเนตรของพระอินทร์จ้องคีตเทพกรรณ "ข้าจะให้เจ้าลงไปบนโลกมนุษย์แล้วกัน ไปแบบครึ่งเทวดา คือมีฤทธิ์นิดหน่อย เพราะข้ามีภารกิจมอบหมายให้เจ้าทำ" 

ดวงตาคู่สวยใส ขนตางอนเกินบุรุษ ของคีตเทพกรรณเบิกกว้าง "ภะ ภารกิจอะไรพระเจ้าค่ะ " เขาเริ่ิมเหงื่อตก ตั้งแต่เกิดมาเป็นเทวดา เขาเคยโดนสั่งให้ลงไปเกิดหลายครั้ง เพื่อทำภารกิจแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าในแต่ละครั้ง สภาพเขายับเยินทั้งนั้น ทั้งอกหัก โดนทำร้าย โดนใช้งานหนัก โดนแกล้ง ... 

...ดีๆ ทั้งนั้นเลย..  

คีตเทพกรรณแอบถอนหายใจเบาๆ แต่ไม่กล้าแสดงสีหน้า เพราะพระอินทร์ผู้เป็นนายสามารถดลบันดาลชี้เป็นชี้ตายได้ เขาไม่อยากถูกถีบตกสวรรค์หากทรงกริ้ว .. 

พระอินทร์ทอดพระเนตรเห็นใบหน้าซีดเซียวของคีตเทพกรรณก็ทรงอมยิ้ม และบอกว่า 

"ภารกิจของเจ้า คือ ทำให้บุตรีของท่านท้าวพญานาควิรุณลักษณ์โคตมะ ชื่อ นางผณินวารี ยอมกลับไปอยู่เมืองบาดาล แทนการเที่ยวเล่นสนุกสนานบนโลกมนุษย์ นางนาคีตนนี้ไม่ชอบอยู่ในโลกที่มีเวทย์มนตร์ ชอบไปหาเรื่องท้าทายตื่นเต้น เจ้าจะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้นางยอมกลับโดยดี ท่านท้าวพญานาคเคยส่งบุตรชายคนอื่นไปตามนางกลับบ้านแล้ว แต่นางประเปรียวฉลาดนัก จึงหลบหนีได้เก่งจนพี่ชายของนางเอือมระอา จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน พากันเบื่อและเลิกไปเอง" 

คีตเทพกรรณยิ้มแห้งๆ ให้เขาไปพานางนาคกลับบ้าน ? เขาเนี่ยนะ เขาเล่นแต่ดนตรี ไม่ใช่อสูรหรือยักษ์มีแรงอะไรมากมายเสียหน่อย  

เขากลืนน้ำลายก่อนกราบบังคมทูลถาม "เอ่อ แล้วข้าพระพุทธเจ้าควรจะทำอย่างไรเล่าเพระเจ้าค่ะ ? หากวงวารพญานาคด้วยกันยังทำอะไรไม่ได้เลย ?" ไม่ใช่ว่าเขาอยากปฏิเสธโอกาสลงไปยืดเส้นยืดสายเปิดหูเปิดตาบนโลกมนุษย์หรอกนะ แต่ไปไล่จับตัวนางนาคหัวแข็งตัวหนึ่งนี่ เขาจะทำได้ฤา ? 

องค์อินทร์ทรงอมยิ้ม "บางทีการเข้าถึงจิตใจสตรีเพศอาจไม่ใช่ด้วยกำลังเสมอไปไงเล่า เจ้าก็ดูจะมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอยู่ และเจ้าก็มีพรสวรรค์ทางดนตรี ลองไปเกลี้ยกล่อมดูก็แล้วกัน แต่อย่าไปบอกว่าข้าสั่งให้เจ้าไป พยายามทำความรู้จักแล้วค่อยๆ หว่านล้อมนางดูเห็นจะดีกว่า เพราะนางนาคตนนี้โมโหร้ายได้เช่นกัน แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ ข้าจึงมอบหมายเจ้า" แล้วก็หันไปสั่งเทวดาร่างใหญ่อีกตนข้างกาย "เอราวัณ พาคีตเทพกรรณไปที่รอยต่อของสวรรค์ อธิบายเขาด้วยว่าเขาทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง"  

คีตเทพกรรณ ยิ้มแหย อยากปฏิเสธเหลือเกินกับภารกิจนี้..  

แต่โอกาสเป็นอิสระได้โลดแล่นบนโลกมนุษย์มันช่างเย้ายวนใจ ไม่ได้มองนางฟ้าสวยๆ ไปมองมนุษย์ผู้หญิงสวยๆ ก็ไม่เลวเหมือนกัน กรุงรัตนโกสินทร์ยุคสมัยนี้ สาวๆ หน้าตารูปร่างงดงามหมดจดไร้ที่ติด้วยฝีมือมนุษย์จนเขาเองที่เป็นเทวดายังตะลึงงัน และสารภาพว่า ชอบ ชอบมากครับ.. 

คีตเทพกรรณจึงเดินตามเอราวัณไปแต่โดยดี.. ซ่อนความตื่นเต้นไว้ในใจ .. 

---------------- 

ที่ขอบสวรรค์รอยต่อกับโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นเสมือนทางเดินลงเขาชิดหน้าผา มองไปข้างล่างเห็นแต่ก้อนเมฆ  

เอราวัณอธิบาย " คีตเทพกรรณ เจ้ามีหน้าที่ไปทำให้นางผณินวารียอมกลับไปอยู่เมืองบาดาล เจ้าควรพยายามทำให้นางเป็นเพื่อนหรือไม่ก็ทำให้นางหลงรัก เพื่อให้นางยอมไปกับเจ้าโดยง่าย อย่าใช้กำลังกับนางเพราะเจ้าจะเจ็บตัว เจ้ามีเวลาเท่าไรก็ได้ที่ต้องการ เจ้าควรรู้ไว้ว่า ผณินวารีมีความสามารถพิเศษในการแปลงร่าง นางเปลี่ยนรูปโฉมภายนอกหลอกสายตาคน ลบความจำมนุษย์ก็ได้ชั่วคราว นางจึงยังสนุกสนานโลดแล่นในโลกมนุษย์ มาเป็นร้อยปีโดยไม่มีใครรู้" 

คีตเทพกรรณอึ้ง "แล้วข้าจะตามหานางอย่างไร ? หรือรู้ได้อย่างไรว่า สตรีคนใดที่ข้าพบใช่นางหรือไม่ ?" เขาขมวดคิ้ว ท่านองค์อินทร์สั่งงานให้เขายากเกินกำลังเขาเสียแล้วหรือนี่ ? 

เอราวัณตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "นางชอบดนตรี และชอบสายน้ำ และเจ้าจะมีผู้ช่วย.." เขาแบมือออกและในมือของเขามีเต่าทองคำตัวจิ๋ว กระดองประดับหินอัญมณีมีค่า มันผงกหัวมองคีตเทพกรรณด้วยดวงตากลมโต ฉลาดเกินกว่าเต่าธรรมดา  

คีตเทพกรรณเห็นเจ้าเต่าน้อยก็มึนงง "เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร ?"  

เอราวัณยิ้มมุมปาก "เจ้านี่ชื่อ ตนุ เป็นของถวายให้องค์อินทร์ ท่านก็ทรงเลี้ยงไว้ดูเล่น แต่มันมีความสามารถมากกว่านั้น ท่านเลยประทานให้ช่วยเหลือเจ้าในภารกิจนี้" เอราวัณหน้าตาเคร่งเครียด "เจ้าต้องเอามาคืนให้อยู่ในสภาพไม่บุบสลาย เจ้าตนุ มีตัวเดียวเท่านั้นในสามโลก มันอาจจะพูดจายียวนสักหน่อย แต่มันก็มีเวทย์มนตร์ช่วยเจ้าได้" 

คีตเทพกรรณขมวดคิ้ว "ข้าก็มีเวทย์มนตร์ของข้า ใยต้องพึ่งเต่าตัวแค่นี้ ?" 

เอราวัณหัวเราะเบาๆ "พลังเวทย์มนตร์เดียวของเจ้าที่จะเหลืออยู่บนโลกมนุษย์คือ ความสามารถด้านดนตรี กับเจ้าจะฟันไม่เข้าฆ่าไม่ตาย บาดเจ็บก็หายเร็ว ไม่เจ็บป่วยใดๆ นอกจากนั้น เจ้าเต่าตนุ จะช่วยเจ้ายามคับขันเอง เพื่อให้เจ้าแฝงตัวตามหาผณินวารีได้"  

คีตเทพกรรณทำหน้าไม่เชื่อ "เต่าตัวแค่นี้เนี่ยฤา ? จะทำอะไรได้ ?"  

"อย่าดูถูกข้า เจ้าเทวดาหน้าขาว ข้าอายุมากกว่าเจ้านะ เรียกข้าพี่เดี๋ยวนี้ !" เสียงเล็กๆ ของเต่าสีทองดังขึ้น มันชูคอ ยื่นหน้ามาสู้คีตเทพกรรณที่โน้มหน้าไปหา .. "ข้ามีหน้าที่กราบบังคมทูลรายงานความประพฤติเจ้าให้องค์อินทร์ด้วยนะ จะบอกให้ เจ้าเทวดาบ้าดนตรี" 

ดวงตาใสสีทองของคนธรรพ์ กับ ดวงตาสีดำนิลกลมโตของเต่าตัวจิ๋วจ้องกัน 

ฟิ้ว !  

โอ๊ยยยย !  

กระแสไฟฟ้าแรงมากก็ฟาดเข้าใส่คนธรรพ์ตรงหน้า ! จนคีตเทพกรรณร้องโอย สะดุ้งสุดตัว ชฎาเกือบหลุดจากหัว ! 

เอราวัณหัวเราะชอบใจ ลูบหัวเจ้าตนุ "ใจเย็นๆ เดี๋ยวต้องอยู่กันอีกนาน อย่าเพิ่งแกล้งเขา" เขาสั่งคีตเทพกรรณ "ถอดชฎาและเครื่องประดับแสดงยศเทวดาของเจ้าออกให้หมด " แล้วก็ยื่นดอกไม้สีขาวขลิบทอง "เอา ดอกปาริชาติ ดมเสียแล้วก็รับเจ้าเต่านี่ไปด้วยตอนกระโดดลงไป.." 

".. ดูตาม้าตาเรือด้วย แล้วข้าจะรอฟังข่าว" 

-------------------- 

ที่คอนโดไม่ไกลจากหาดชายหาดขาวนวลของประเทศไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกำลังเล่นน้ำกับนอนอาบแดดกันอย่างเพลิดเพลิน.. 

บนเตียงนอนยับยุ่ง หญิงสาวผมยาว ผิวสีแทน อกอวบ หุ่นเป็นนักกีฬากำลังนอนกอดหมอนข้างสบายอารมณ์.. แต่แสงแดดยามสายที่เล็ดลอดมากระทบเปลือกตาและขนตายาวเป็นแพทำให้เธอจำใจลุกขึ้น แล้วบิดขี้เกียจ..  

หญิงสาวมองซ้ายมองขวา แล้วก็ยิ้มดีใจที่ตื่นมายังอยู่ในห้องตัวเอง แปลว่า เมื่อคืนเธอไม่ได้ดื่มหนักเท่าไรสินะ หญิงสาวยิ้มแล้วด้วยนิสัยขี้เกียจๆ เหมือนปกติ เธอจึงหลับตาอธิษฐาน.. 

แล้วคืนร่างเป็นงูสีเขียวอ่อนใส ตัวใหญ่ 

เจ้างูเลื้อยลงจากเตียงแล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำ 

เพราะผณินวารี นางนาคบุตรสาวพญานาคกัณหาโคตมะชอบสายน้ำ และหากไม่มีใครอยู่ด้วยก็จะคืนร่างเป็นงูยักษ์เพื่อแช่น้ำอาบน้ำให้ช่ำปอด เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เธอรักษาพลังอำนาจของเผ่าพันธุ์เธอไว้ได้บนโลกมนุษย์ 

----------------- 

นิยายเรื่องนี้ นางเอกเป็นพญานาคแปลง นิสัยจะซ่า กวนยียวน แหกคอก ทำอะไรตามใจฉัน มีความเป็นอิสระสูง ส่วนพระเอกเป็นคนธรรพ์มาจากเรื่อง เจ้าจะไม่ได้มีวันเป็นเจ้าสาว จะเป็นหนุ่มนักดนตรี มาลุ้นกันค่ะว่า คนธรรพ์จำแลงกับนางนาคเกเร ใครจะอยู่ใครจะไป.. เรื่องนี้ยั่วๆ บดๆ นางเอกกับพระเอกขี้อ่อยทั้งคู่ค่ะ 

จะค่อยๆ แต่ง ค่อยๆ ลงนะคะ 

เพียงรำเพย  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว