ตอน ห้อง618
NC BYUNGCHAN
สนามบิน ณ นิวยอร์กซิตี เมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองในฝันของทุกคนทุกด้าน เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการบันเทิงที่สำคัญ แถมยังมีวัฒนธรรมทางดนตรีอย่าง ฮิปฮอป อีกด้วย
วงทีนท็อปศิลปินเกาหลีมีจัดไลฟ์ทัวร์ที่นิวยอร์กแห่งนี้
“เหมือนไม่มีตอนกลางคืนเลย”
บิดขี้เกียจเบาๆเมื่อลงมาจากเครื่อง
ตัวในเล็กสมาชิกหนึ่งในนั้นสบถออกมา
ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือรองมักเน่ ริคกี้ นั้นเอง
เวลาเกาหลีกับนิวยอร์กไม่เหมือนกัน เพราะแทบจะอยู่คนละฝั่งของโลก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง พอมาถึงนิวยอร์กก็เป็นตอนเช้าเหมือนเดิมพอดี
สมาชิกทั้งหกกับสตาฟที่คอยดูแลได้พักผ่อนเพียงพอในเครื่องบินอย่างเต็มที่
ทุกคนเดินตรงไปที่รถตู้ที่ถูกจัดเตรียมไว้อยู่แล้วก่อนจจะนั่งรถเผื่อเดินทางไปที่โรงแรมสำหรับการพักผ่อนของพวกเขา
“คือทุกคนฉันมีไรจะบอก”
“ครับ”
รถจอดอยู่ถึงหน้าโรงแรม ทุกคนเตรียมตัวยกสัมภาระของตัวเองไปที่ห้อง
ต้องชะงักเล็กๆเมื่อเมเนฯของพวกเขาเรียก
“คือห้องพักอ่ะมันมีเตียงคู่ห้องนึงต้องมีคู่นึงนอนด้วยกัน”
“อ้าวทำไมละครับ”
“ห้องเดี่ยวมันเต็มแล้วจองได้แค่สองห้อง”
“ไม่มีใครออกเลยเหรอครับ”
“ไม่มีเลย โทษทีนะ พวกนายก็เคลียกันเองนะว่าใครจะนอน”
“อ้าวคุณเมเนฯครับ”
.. .
คุณเมเนฯรีบเดินหนีไปยกสัมภาระตัวเองก่อน ไม่งั้นอาจจะโดนเด็กโวยวายเรื่องห้อง ที่ช่วยไม่ได้โดนจองเต็มหมดแล้ว ฟาดฟันสุดกำลังแล้วสุดท้ายก็ได้แค่สองห้อง
โทษทีนะเด็กๆ มันก็มีกันบ้างเรื่องแบบนี้
“เอาไง”
บังมินซู พี่ใหญ่สุดในวงพูดต่อ เมื่อเห็นสมาชิกทุกคนทำสีหน้าเคร่งเคียด
“ถ้าให้ผมนอนกับแคปฮยองคงเจอลูกแตะตอนกลางคืนแน่ๆ”
อันแดเนียลรูมเมทของเขาตอบเมื่อหัวหน้าวงถาม
“ของผมคงดิ้นแข่งกันทั้งคู่”
ชางโจ มักเน่ของวงตอบต่อ
ทั้งหกคนมองหน้ากันแบบไม่รู้ต้องทำยังไงถึงจะมีคู่รูมเมทไหนยอมนอนเตียงใหญ่
“คู่ฉันนอนเอง”
“เฮ้ย”
ร่างโปร่งสบถออกมาเมื่อไม่มีใครอยากนอน นั้นคู่เขาก็จะนอนเองไม่เห็นมีอะไรมาก
ชอนจีรูทเมทของบยองฮอน ตกใจกับคำพูดของบยองฮอนไม่รู้ว่าจะเป็นคนพูดออกมา ฟาดน้ำหนักมือลงไปที่ไหล่แรงๆ
“โอ๊ย ตีทำไม”
“ไม่เอา”
“…”
“เป่ายิ้งฉุบแล้วกันๆ”
ชอนจีพูดต่อเมื่อทุกคนทำหน้าเศร้าใจคิดว่าจะรอดพ้นจากเตียงใหญ่ส่ะแล้ว
“เอาๆ รีบเป่าๆจะขึ้นไปนอน”
มินซูพูดแบบขอไปที
โอ๊ย ง่วงจะตายต้องมาดูเด็กๆเถียงกัน พี่ง่วงนอน
“จิ๊”
“จะเป่ายิ้งฉุบไปทำไมสุดท้ายก็ได้อยู่ดี”
“ก็เผื่อชนะมั๊ยล่ะ”
“ไม่อยากนอนเตียงเดียวกับเค้าหยอ”
“ไม่!”
คนปากแข็งรีบเปิดประตูเข้าห้องเมื่อเห็นสีหน้ายิ้มเจ้าเล่ของรูมเมทตัวเอง
วันนี้มือไม่ดีเฉยๆหรอกนะ!
สุดท้ายก็ได้นอนห้องเตียงใหญ่ด้วยกัน สมาชิกที่เหลืออีกสี่คนดีใจแบบออกตาออกตา ไม่ต้องมาอึดอัดนอนด้วยกันบนเตียงใหญ่
ในยามราตรีที่ชายหนุ่มทั้งสองในห้อง 618 ได้สลับผลัดกันอาบน้ำเตรียมเข้านอนหลังกลับมาจากการจัดไลฟ์ทั่วร์มาเหนื่อยๆ ก็ต้องรีบนอนหลับพักผ่อนเตรียมทัวร์ต่อในวันถัดไป
“บยองฮอน”
ร่างหวานเรียกให้แน่ใจว่าร่างโปร่งที่นอนฟุบอยู่บนเตียงเข้าสู่นิทราแล้ว
“….”
ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
สงสัยหลับแล้วสินะ
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก
เสียงเข้มนาฬิกาข้อมือข้างๆหัวนอน ดังบอกนาทีตลอดทั้งคืน
ร่างหวานที่เหมือนสะดุ้งกับฝันร้ายเล็กๆ ลืมตาขึ้นมามองนาฬิกาที่วางอยู่บนหัวนอน
03:05 AM
โอว ควรรีบนอน พรุ่งนี้อยากจะตื่นเช้าไปเดินเล่นในเมือง
ถ้าร่างกายไหวนะ (?)
หมับ
โอบแขนคนข้างๆวาดวงเข้ากอดเบาๆ
“ไอบยอง คนครับไม่ใช่หมอนข้าง”
“อ้าว ตื่นอยู่แล้ว”
“ไม่ต้องทำเนียนละเม้อเลยครับ เอามือออกไป”
“ไม่เอาไม่ออกอยากกอด”
ร่างโปร่งดึงตัวร่างหวานเข้าโอบกอดแน่นกว่าเดิม เมื่อรู้ว่าตื่นอยู่
ตื่นอยู่แล้วไง ใครสน
“อุสาได้นอนเตียงเดียวกันไม่อยากจู๋จี๋กับบยองบ้างเหรอ”
“ไม่”
“ทำไมชอนจีโหดร้ายจัง”
“กับนายคนเดียว”
“ง่ะ จะดีใจดีมั้ยเนี่ยกับเขาคนเดียว”
“ปล่อย”
“ง่ะ”
“…”
“ปล่อยก็ได้”
อ้าว วันนี้ปล่อยง่ายเฉย คือวันอื่นกว่าจะปล่อยต้องให้แกะมือออกดันหนีจนตกเตียงไปข้าง
“เฮ้ยๆทำอะไร”
“อ้าวแล้วอยู่บนเตียงเขาทำอะไรกันล่ะ”
“บยองฮอน!”
เปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นกดค่อมร่างหวานที่อยู่บนเตียง ให้อยู่ข้างล่างสุดระหว่างขาของตัวเอง
ร่างโปร่งทำหน้ายู่ใส่ ก็อยากจู๋จี๋กันบ้าง เดินทัวร์ที่ญี่ปุ่นติดกันหลายวันก็เหนื่อยแล้ว ไอคนข้างๆก็เจอคนนู้นคนนี้แกล้งตลอด รู้เปล่าว่าโคตรหึงเลย
“ไม่ชอบ”
“อะไร”
อยู่ๆคนข้างบนก็สบถออกมาทั้งๆที่ก้มหน้า แต่ในความมืดทำให้เห็นหน้าไม่ชัด ไม่รู้ว่าทำหน้าแบบไหนอยู่
มีเพียงแสงสว่างอ่อนๆจากข้างนอก ส่องทะลุเข้ามาผ่านผ้าม่าน
“ไม่ชอบที่คนอื่นมายุ่งกับนาย”
“เอ้า ยุ่งอะไร”
“มินซูอ่ะ พี่มินซูยอมให้พี่เขาแกล้งอยู่ได้”
“บยองฮอนนั้นคนในวงนะ”
“ก็มันหึงอ่ะ”
จับเข้าอ้อมกอดอีกทั้งแน่นๆแก้เขินแต่ไม่กล้าบอก ถ้าอยู่สองต่อสองอย่างนี้ถึงจะกล้าพูด
“โอ๋ๆ ไม่เอานะไม่เอาโทษทีแล้วกันแล้วหลังจะระวัง”
แปะๆ ร่างหวานที่อยู่ใต้ร่างโปร่ง เอามือตีที่หลังดังอั๊กๆแทนการปลอบใจ
“ไม่เอาอ่ะขอมากกว่านี้”
“อะไร”
อยากให้ตีแรงๆกว่านี้เหรอ ?
บ้ารึเปล่า หรือตีหลังเยอะๆกำลังสบายเหรอ
ขออะไร อะไร อะไร ?
“เฮ้ยๆ”
“ชู่ว เบาๆ”
ร่างโปร่งที่กำลังจัดการทำท่อนล่างของร่างหวานที่ดิ้นไปมา แต่ทำอะไรไม่ก็คนข้างบนแรงเยอะกว่า จับมือทั้งสองขึ้นบนหัวเตียงก่อนจะใช้อีกมือปลดกระดุกเสื้อคนข้างล่างออก
“ไม่ไหวแล้ว ขอเข้าก่อนเลยได้มั้ยอ่ะ”
“บยองฮอน!”
“น้า นะ”
ไม่ได้คิดจะขอคำตอบจากร่างหวานใต้ร่างอยู่แล้ว ยกเอวบางขึ้นอย่างไม่รอช้า
“อ่ะ..”
“อย่างเสียงดังนะ นี่ไม่ใช่ที่หอ”
ร่างหวานมองค้อนก่อนจะบีบน้ำหนักที่มือลงที่บ่าทั้งสองข้างของร่างโปร่ง
ระบายความเจ็บปวดข้างหลังลงที่มือ ฟันที่กัดเข้าหากันเพื่อที่จะเก็บเสียงไม่ให้เสียงออกมา
“ช้าๆหน่อย มัน.. เจ็บนะ”
น้ำตาสีใสค่อยๆรินไหลออกมาอย่างช้าๆ ที่เกิดจากความเจ็บปวด
ร่างโปร่งที่รู้สึกผิดที่ต้องให้คนข้างล่างอดกลั้นสิ่งที่ต้องระบายออกมา ยืนมือเข้าเปิดมาออกมาก่อนจะจุมพิษเข้า ลิ้นยาวซุกซนในช่องปากสำรวจโพรงปากหวาน เหมือนโรงงานทำขนม ก่อนจะมีเสียงอึกอือตามออกมาเป็นสัญญานบ่งบอกว่าคนข้างล่างต้องการอากาศหายใจ
“อื้อ.. อ่ะ... ”
“กัดไว้สิชอนจี”
แผละปากออกจากกันให้สูดอากาศหายใจเข้าไปลึกๆก่อนจะยืนมือให้กัดเป็นที่ระบายความเจ็บปวดที่เกิดจากการขยับขึ้นลงจากข้างล่าง
เปลี่ยนจากจุมพิษมาเป็นซุกซนแถวซอกคอ ดูดดึงเนื้อหนังให้มีรอบช้ำสีแดงสดหลายรอย
“บยองเดี๋ยวคนอื่นเห็น!”
“เห็นก็เห็นไปดิ จะได้รู้ว่าของใคร”
“บยองฮอน”
ทุกการกระทำจบลงเมื่อทั้งคู่ถึงจุดร่างโปร่งล้มนอนทับอยู่ค่อยๆดึงตัวออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นอ้อมกอดอุ่นๆ
“ถ้างี่เง่าไปก็ขอโทษ”
“…”
“ที่เป็นแบบนี้เพราะรักชอนจีมากนะ”
“ไอบ้าพูดออกมาได้เต็มปาก”
“ไม่รักเขาเหรอ”
“ทำไมชอบให้พูดอะไรแบบนี้ห๊า!”
คนโดนดุยิ้มกรุบกริบชอบใจใหญ่ที่ได้แกล้งคนปากแข็ง เพราะงี้แหละความซึนเดเระของชอนจี บยองฮอนถึงหลงรักเอา
“รักนะ ไอเตี้ย”
THE END
#ฟิคเลนนี่