นานแล้วสินะที่ผมต้องอยู่ที่นี้ นานมากจนผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนผมเคยเป็นถึงหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ มันนานมาก นานจนรู้สึกว่าเวลามันหยุดเดินไปแล้ว ผมถูกขังอยู่ภายในห้องแคบๆมาเป็นเวลาเกือบสองปีเป็นเวลาที่ผมรู้สึกทรมานมาก ทรมานจนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด ทุกๆวันผมต้องกลายเป็นเครื่องบำเรอความสุขให้กับคนที่ผมเคยรักจนหมดหัวใจ ศักดิ์ศรีของผม ศักดิ์ศรีของ จอง โฮซอก โดนคนที่ผมเคยรักจนหมดหัวใจทำลายอย่างย่อยยับ จนตอนนี้ ผมยังไม่สามารถลืมเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาได้เลย ผมมองไปนอกหน้าต่างที่ถูกล็อกอย่างแน่นหนา ปลายนิ้วของผมค่อยๆลูบไปที่กระจกใสที่เป็นสิ่งเดียวที่กั้นผมไม่ให้เจอกับโลกภายนอก มันรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจจนอยากที่จะตาย
แอ๊ดดดดด
“หึ เหม่ออะไรของนายน่ะ จอง โฮซอก?”
ผมค่อยๆลืมตามองแสงอาทิตย์ที่เล็ดลอดเข้ามาจากหน้าต่างก่อนจะค่อยลุกขึ้นนั่ง ไปแล้วสินะ ผมหันไปมองคนที่เคยนอนข้างๆผม มันเป็นแบบนี้อยู่ทุกวันที่ผมตื่นมาแล้วจะไม่เจอเข้าอยู่ข้างๆผม ตอนนี้ผมหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ครอบครัว ลูกน้อง และคนรัก เขาจอน จองกุก ผู้ชายที่ผมรักจนหมดหัวใจ ถึงแม้ว่าเขาจำทำร้ายผมยังไงผมก็ยังรักเขาอยู่ รักจนรู้สึกอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายไปซะ เพราะผทรมานที่ต้องทนเห็นเขา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมเห็นเขาแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บปวด ทั้งๆที่เขาเป็นคนพรากทุกอย่างไปจากผมแต่ผมก็ไม่สามารถเลิกรักเขาไปเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะว่าผมเป็นคนเริ่มต้นเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมาเองก็ได้ ผมฆ่าคนรักของเขา ผมฆ่าจิน คนรักของจอน จองกุก ตอนนั้นผมรักเขามาก ผมอย่างที่จะให้เขาอยู่กับผม ผมอยากให้เขารักเพียงแค่ผมคนเดียว นั้นเป็นสิ่งที่ผมคิดผิดผมฆ่าจีมิน ผมยอมปล่อยให้จอน จองกุกออกจากแก๊ง แล้วเขากลับมาทำลายผมทำลายทุกๆอย่างของผมเหมือนที่ผมทำลายคนสำคัญของเขา ผมค่อยๆก้มลงมองรอยประทับซึ่งเป็นตราของแก๊งมาเฟียของเขา เขาได้ทำตรานี้ไว้ที่หน้าท้องของผมเพื่อเป็นการบอกว่าผมเป็นเพียงแค่สิ่งของของเขา ผมอยากออกไปจากที่นี้ไปให้ไกลจากเขา ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง ถึงจะรักเขามากเท่าไรแต่ถ้ายังทำร้ายกันอยู่อย่างนี้ จอง โฮซอกเองก็ไม่แน่ใจนะว่าเขาจะทนได้จนถึงเมื่อไหร่
ก๊อกๆๆๆๆ
“เออ เอาอาหารมาให้อ่ะครับ”ผมหันไปมองที่ประตู น่าแปลกจังที่วันนี้คนที่เอาอาหารมาให้เขาวันนี้พูดแปลกๆหรือว่าจะเป็นคนละคนกันนะ ผมหันไปมองก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่มาสวมก่อนจะเดินไปเปิดประตูตามปกติ อยากรู้ไหมว่าทั้งๆที่ผมก็เปิดประตูได้ทำไมผมไม่หนีไป นั้นเป็นเพราะโซ่เส้นใหญ่ที่ล่ามขาผมไว้ มันเลยทำให้ผมไปไหนไม่ได้ ความยาวของมันก็ยาวแค่เดินจากหน้าต่างถึงประตูเท่านั้นแหละ ผมเคยลองมาหลายวิธีแล้วสุดท้ายมันก็ไร้ผล
“เออ นี่ครับ”ผมมองหน้าของคนที่เอาอาหารมาให้ผม ก่อนจะรับถาดอาหารมา คงจะเป็นคนใหม่ละมั้งหน้าไม่คุ้นเอาซะเลย หมอนั้นมองหน้าผมเล็กน้อย ผมจึงถามออกไปด้วยความสงสัย
“นายมองฉันทำไม?”ผู้ชายคนนั้นสดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวไปมา ผมมองเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง แล้วปิดประตู แต่ว่าผู้ชายคนนั้นกับจับขอบประตูไว้ ผมจึงมองหน้าอย่างสงสัย
“ผะ ผมเป็นคนที่จะเอาอาหารมาให้คณทุกวันแทนคนที่เคยเอามาให้คุณนะครับ ผมชื่อคิม แทฮองครับ!”ว่าจบหมอนั้นก็วิ่งไปทันที ผมมองตามหลังหมอนั้นไปด้วยความงุนงง อะไรของเขากันนะ ผมปิดประตูก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะนั่งลง บนเก้าอี้ไม้ ผมค่อยๆตักข้าวต้มขึ้นมากินอย่างช้าๆซึ่งมันก็เป็นแบบนี้อยู่ทุกวัน แต่มันมีบางอย่างที่แปลกไป ผมหยิบโพยอิทเล็กที่ติดอยู่ที่ชามข้าวต้มขึ้นมาก่อนจะอ่าน
‘ทานเยอะๆนะครับ’
นี่มัน ผมมองโพยอิทใบเล็กก่อนจะเก็บมันลงไปในกระเป๋าเสื้อเชิ้ต แล้วนั่งกินข้าวต้มไปเรื่อยๆเหมือนว่าไม่มีอะไรเกินขึ้น หมอนั้นเป็นเด็กใหม่สินะ ถ้าเกิดรู้ว่าฉันโดนเจ้านายของหมอนั่นทำอะไรบางหมอนั่นก็คงจะรังเกียจฉันเหมือนกับคนอื่นๆนั้นแหละ
ผมมองห้องเล็กๆห้องนี้ก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูนี่ถ้าเกิดผมไม่โดนป้าคนนั้นขอร้องละก็ผมจะไม่มีทางมาในที่แบบนี้เด็ดขาด ก็ห้องที่ผมยืนอยู่มันเป็นห้องที่อยู่บนสุดของที่นี้เลยนี้นา ผมที่พึ่งจะเข้าแก๊งมาใหม่ก็ไม่มีทางรู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ ผมมองโพยอิทที่ผมแปะไว้ ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าผมแปะทำไมอาจจะเป็นเพราะตอนที่แม่ผมป่วยผมชอบแปะโพยอิทแบบนี้ไว้ให้แม่ของผมละมั้ง มันก็ลยติดเป็นนิสัย แล้วนี้เป็นห้องขังรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะลูกน้องของหัวหน้าเคยบอกให้ผมฟังว่าหัวหน้าขังคนๆหนึ่งไว้ที่นี่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไร อย่างที่บอกผมมาใหม่อ่ะ ผมยืนรออยู่หน้าห้องสักพัก ก่อนที่ประตูจะเปิดออกมา ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเวลามันหยุดไปชั่วขณะ ผู้ชายที่ผิวขาวเนียนมองดูก็รู้ได้เลยว่าแทบไม่เคยโดน มองหน้แดด ใบหน้าคมสวยดูน่าดึงดูดทำให้ผมเผลอตกอยู่ในผวังไปชั่วขณะ ก่อนจะรับถาดอาหารจากมือผม เขาเป็นผู้ชายที่ร่างบาง บางมากจนผมรู้สึกกลัวว่าเขาจะล้มลงไป ผมมองรอยแดงที่คอของเขา ซึ่งแน่นอนผมไม่ได้ใสซื่อเกินไปจนไม่รู้ว่ารอยนั้นคืออะไรและรอยแดงเป็นจ้ำๆบนตัวของเขาคืออะไร ที่ข้อเท้าข้างขวาของเขาถือโซ่เส้นใหญ่ล่ามเอาไว้ จนข้อขาของเขาเป็นรอยสีม่วงช้ำเหมือนว่าเขาจะรู้สึกตัวว่าผมกำลังมองเขาอยู่
“นายมองฉันทำไม?”ผมรีบส่ายหัวทันที เขามองหน้าผม ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป แต่มันมีความรู้สึกบางอย่างทำให้ผมเอื้อมมือไปจับขอบประตูไว้ เขาหันกลับมามองหน้าผม
“ผะ ผมเป็นคนที่จะเอาอาหารมาให้คุณทุกวันแทนคนที่เคยเอามาให้คุณนะครับ ผมชื่อคิม แทฮยองครับ!”ว่าจบผมก็รีบวิ่งออกมาทัน ตายแล้วไอ้แทมึงพูดอะไรออกไปว่ะเนี่ย ผมหยุดวิ่งก่อนจะหอบหายใจ ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันมีความรู้สึกที่แปลกๆกับผู้ชายคนนั้นมันคืออะไรกันนะ
4 เดือนต่อมา
“ไม่เอานะแทฮยอง ถ้านายจะให้ฉันหนีไปล่ะก็นายก็ต้องไปกับฉันสิ!!!”โฮซอกพยายามดึงมือของแทฮยองให้ตามเขามา แต่ร่างสูงกลับหันมายิ้มให้กับร่างบาง
“ไม่ครับ ถ้าเกิดว่าผมหนีไปกับคุณล่ะก็เราก็จะหนีไม่รอดครับ”แทฮยองพูดก่อนจะแกะมือเรียวของโฮซอกออกจากแขนของตน แต่ร่างบางกับกระโดดกอดอีกฝ่ายไว้แน่น
“ไม่เอานะ ไม่เอา ต่อให้ฉันหนีไปได้ ถ้าไม่มีนายฉันก็อยากมีชีวิตอยู่หรอกนะ!!!”แทฮยองรับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่เสื้อของเขา เขายกมือขึ้นมากอดร่างบางของโฮซอกที่ตอนนี้กำลังสั่น เขาพยายามลูบหลังร่างบางเพื่อให้ร่างบางหยุดร้องไห้ เขาควรจะทำยังไงดี เขาไม่อย่างให้คนที่กำลังกอดเขาอยู่ต้องตาย เขาอยากที่จะให้โฮซอกมีชีวิตอยู่ต่อไป เขาอยากจะไปใช้ชีวิตกับจอง โฮซอกคนที่เขารัก เขาไม่นึกว่าหัวหน้าจะรู้เรื่องเร็วขนาดนี้
“เรารีบไปกันเถอะ”ร่างบางพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน มือที่แทฮยองจับเขาไว้นั้นทำให้เขารู้สึกอบอุ่น ราวกับว่าต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นเขาก็จะปลอดภัย พวกเขาวิ่งมาจนสุดทางก่อนจะมาเจอหน้าผา ทั้งคู่เตรียมหันหลัง แต่เมื่อหันหลังไปก็ต้องพบกับ จอน จองกุก แฮยองจับมือของโฮซอกไว้แน่น
“หึ โฮซอกนายนี่มันเลวจริงๆที่คิดจะหนีฉันไป ”จอน จองกุก ยกปืนก่อนจะลั่นไก
ปัง!!!!!!!!!
“แทฮยอง!!!”ร่างบางกรีดร้องอกมาเมื่อแทฮยองผลักเขาจนล้มลง แล้วแทฮยองโดนลูกกระสุนที่จอน จองกุก ยิงมา ร่างบางรีบพยุงร่างของแทฮยองขึ้นมาก่อนจะพยายามเขย่าให้ร่างของแทฮยองลืมตาขึ้นมา แทฮยองลืมตาขึ้นมามองหน้าของโฮซอก แทฮยองอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาขอโทษที่พาร่างบางหนีไปไม่ได้ เขารู้ดีว่าโฮซอกไม่ได้รักเขาแต่เขาก็รักโฮซอกมาก รักมากจนเขาไม่รู้จะบอกออกมาเป็นคำพูดยังไงดี โฮซอกจับมือของแทฮยองของจะเอามาแนบที่แก้มของตน ก่อนจะเขย่าไปมา
“ผม รักพี่นะครับ…”แทฮยองพยายามเคร้นคำพูดออกมา แม้เสียงของเขาจะไม่มี แต่เขาก็อยากจะให้ร่างบางได้ยิน โฮซอกพยักหน้าอย่างรับรู้ว่าสิ่งที่แทฮยองพูดคืออะไร
“ฉันก็รักนายแทฮยอง นายได้ยินไหมฉันเองก็รักนาย”แทฮยองมองหน้าร่างบางก่อนจะยิ้มออกมา ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าร่างบางคิดยังไงกับเขามันเป็นคำพูดที่เขารู้สึกดีใจที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมาเลยละ ร่างสูงของแทฮยองหลับตาลงก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยดับไป
“ไม่ ไม่ ไม่นะแทฮยอง! ลืมตาสิ ขอร้องล่ะลืมตาขึ้นมาสิแทฮยอง!!!!”ร่างบางตะโกนกรีดร้องออกมา ก่อนจะเขย่าตัวของคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างแรง
“เห็นแล้วใช่มั้ยโฮซอก ว่าการที่นายคิดจะหนีไปจากฉันมันเป็นยังไง”เสียงเยือกเย็นที่กระซิบอยู่ข้างหู ทำให้ร่างบางสั่นออกมา ไม่ใช่สั่นเพราะความกลัวแต่สั่นเพราะความโกธร ความแค้น ตอนนี้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น
“กลับไป ผมจะฆ่าคุณให้ตายทั้งเป็นมากกว่านี้ ให้มันสาสมในสิ่งที่คุณทำกับจีมิน และทำกับผม”
แสงแดดยามเช้าสาดส่องมาที่ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง ดวงตาคู่สวยมองออกไปข้างนอกอย่างเลื่อนลอย ตอนนี้เขาไม่เหลือใครแล้ว แทฮยองจากเขาไปแล้ว เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว ร่างบางหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆตัวเอง ก่อนจะหันกลับ ใช่ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะมองหน้าของจอน จองกุกได้ เขากลัวว่าตัวเองจะเผลอไปบีบคอของจอน จองกุกให้ตาย เขาไม่สามารถทำได้ ตอนนี้เขารู้สึกผิดรู้สึกผิดไปหมด ผิดที่ไปรู้จักกับแทฮยอง ผิดที่ไปยอมรับความรู้สึกของแทฮยอง ผิดที่ตัวเขาเองก็รักแทฮยองถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักแทฮยองอย่างหมดหัวใจ แต่เขารู้สึกว่าหากขาดแทฮยองไปคงเหมือนมีคนมาพรากเอาลมหายใจของเขาไป เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่าความสัมพันธ์ของเขากับแทฮยองจะทำให้แทฮยองตาย อาจจะเป็นเพราะเขามีความสุข ตลอดเวลาเกือบสองปีที่เขาอยู่ที่นี่เขาไม่เคยมีความสุขมาก่อนมีแต่ความทุกข์ที่จอน จองกุกมอบให้เขา จนกระทั้งแทฮยองเข้ามาในชีวิตของเขา แทฮยองทำให้คนที่อยากจะตายอย่างเขา รู้สึกอยากที่จะมีชีวิตต่อ หลายต่อหลายครั้งที่เขากับแทฮยองจะมาเจอกันที่ห้องของเขาห้องที่จอน จองกุกขังเขาเอาไว้ แทฮยองจะเป็นคนเอาอาหารมาให้เขาทุกวัน ทั้งๆที่แทฮยองรู้อยู่แล้วว่าจอน จองกุกกับเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แต่แทฮยองไม่เคยรังเกียจเขา จนกระทั่งผ่านมาสี่เดือน แทฮยองบอกกับเขาว่าจะพาเขาออกไปจากที่นี่ แทฮยองยอมที่จะเป็นคนทรยศ ยอมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขา มันไม่ใช่สิ่งที่แทฮยองควรจะได้รับงั้นเหรอ โฮซอกค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อมาใส่ ร่างบางเดินออกมาจากห้องของ จอน จองกุก ที่ยังหลับอยู่ ใช่เขาใส่ยานอนหลับลงไปในไวน์ของ จอน จองกุก และแอบใส่ยานอนหลับลงในของที่ทุกๆคนจะต้องกินต้องดื่ม จนทุกคนหลับกันหมด ตอนนี้เขารู้ได้เลยว่าตอนนี้ฤทธิยานอนหลับกำลังจะหมด นั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จอง โฮซอกมีอยู่ มันอยู่ในร่างกายของเขามันถูกฝังอยู่ที่ข้อมือของเขา เขากรีดข้อมือของตัวเองเพื่อนำยานั้นออกเขานำมันไปให้แม่บ้านซึ่งแม่บ้านคนนั้นเคยเป็นแม่นมของเขามาก่อนจึงทำให้มันไม่ยากอะไร เขาเคยคิดที่จะเอายานอนหลับออกมาแล้วเอาให้จอง จอนกุกกินหลายครั้งเพื่อหนีแต่เขาก็ทำไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้เขากับกล้าที่จะกรีดข้อมือของตัวเองเพื่อนำยาออกมา จอง โฮซอก เดินมาหยุดอยู่ตรงบริเวณที่แทฮยองตายใช่แล้วล่ะผ่านมาวันหนึ่งคราบรอยเลือดของแทฮยองยังคงอยู่ ร่างบางก้มลงก่อนที่มือเรียวจะค่อยๆลูบรอยเลือดของแทฮยอง
“ขอโทษนะแทฮยอง ฉันรู้ว่านายเหงาใช่มั้ย ฉันกำลังจะไปอยู่กับนายแล้วนะ”ร่างบางลุกขึ้นก่อนจะเดินไปยืนที่ปลายหน้าผา ลมเย็นๆปะทะเข้ากับร่างของเขาทำให้เขารู้สึกว่าใจที่กำลังร้อนของเขานั่นกำลังค่อยๆลงช้าๆผ่อนคลาย
“จะทำอะไรน่ะโฮซอก!”ร่างบางค่อยๆหันกลับไปมองตามเสีย จอน จองกุกกำลังยืนอยู่ไม่ห่างจากเข้า เขาเดาได้เลยว่า จอน จองกุกจะต้องวิ่งมาแน่ๆ เหงื่อที่ไหลออกมาเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี
“ว้า ฤทธิ์ยานอนหลับหมดแล้วอย่างงั้นเหรอ”ร่างบางพูดด้วยควมเสียดาย
“นายคิดจะทำอะไร จอง โฮซอก?!”จอน จองกุก ถามด้วยความกลัว เขาตื่นมาด้วยความงุนงง ก่อนจะหาคนที่น่าจะนอนอยู่ข้างตัวเขา เขาตกใจมากที่ตื่นมาไม่เห็นร่างบาง เขาจึงรีบวิ่งออกมาก่อนจะพบว่าลูกน้องของเขาทั้งหมดสลบไสลไม่ได้สติกัน เขารีบวิ่งมาที่นี่เพราะเขาเดาว่าร่างบางน่าจะมาที่นี่และก็เป็นไปตามคาด
“นาย อยากให้ฉันตายนี้ นายเป็นคนบอกฉันนี้เองว่า ‘...........................................’ใช่มั้ยล่ะจองกุก”ร่างบางเอ่ยคำพูดที่เมื่อก่อนคนตรงหน้าร่างบางพูดไว้ จอน จองกุก ชะงัดไปเล็กน้อย
“ละ แล้วนายจะทำอะไร?”
“ฉันถามนายหน่อยเถอะนะ จองกุก นายทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายไปซะตั้งแต่วัน นายเก็บฉันไว้จถึงตอนนี้ทำไม นายอยากให้ฉันทรมานงั้นเหรอ ถ้ามันเป็นอย่างงั้นฉันจะบอกนายไว้เลยนะว่า..”ร่างบางหยุดเว้นไว้ ก่อนจะมองหน้าของ จอน จองกุก แล้วพูดออกมา”ตอนนี้น่ะฉันทรมานจนเหมือนตายทั้งเป็นเลยล่ะจองกุก”
“อ่ะ”จอน จองกุกมองหน้าร่างบางก่อนที่ความทรงจำของร่างบางต่างๆจะไหลเข้ามาในหัวของเขา ราวกับว่ามันไหลเข้ามาเพื่อเตือนความทรงจำของเขากับร่างบาง ใช้จอง โฮซอกฆ่าจีมินคนสำคัญของเขา แต่ว่า จอง โฮซอกเองก็เป็นคนที่เขารัก เพราะเขารักจอง โฮซอก และกียจจอง โฮซอก ทำให้เขาอยากที่จะเก็บจอง โฮซอก ไว้ เขาไม่เคยสนว่าโฮซอกจะรู้สึกยังไง เขาสนแค่ตัวเอง เขาไม่เคยหันกลับมามองว่าคนที่เขารักจะรู้สึกยังไง
“จอน จองกุก ลาก่อนนะ”ราวกับว่าเสียงนั้นดึงเขาให้ออกมาจากผวังของเขา เขามองร่างของโฮซอกที่ค่อยๆร่วงลงจากหน้าผาสูง โดยที่ร่างบางยิ้มให้เขามันเป็นรอยยิ้มที่จอน จองกุกไม่ได้เห็นมานานรอยยิ้มสดใส รอยยิ้มที่ดูเหมือนคนที่ปลงทุกย่าง ร่างบางขยับปากออกมาเป็นคำพูดบางอย่าง ราวกับว่าภาพนั้นเป็นภาพที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขารีบวิ่งไปที่จุดที่โฮซอกเคยยืนอยู่ เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาที่เขาคิดว่ามันแตกสลายไปตั้งแต่ที่จอง โฮซอกฆ่าจีมิน ตอนนี้มันกำลังแตกสลายลงอีกครั้ง เขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ มันเป็นเรื่องโกหก มันไม่จริง มันไม่จริงที่เขาจะไม่มีร่างบางอยู่ข้างๆเขาอีกต่อไปแล้ว ไม่จริง มันไม่จริง
‘พี่รักนายนะจองกุก’
“พี่โฮซอก!!!!!!!!”
“ไม่จริง ไม่จริงพี่โฮซอก.....”ราวกับว่ามีลมเย็นๆพัดเข้ามาวูบหนึ่งมันเหมือนกับว่าลมนั้นได้พรากสิ่งสำคัญของเขาไปแล้วเขาอย่างจะบอกเหลือว่าเขารู้สึกผิด เขาอยากจะขอโทษ เขาอยากจะบอกรัก แต่มาถึงตอนนนี้มันจะมีประโยคอะไรอีกละในเมื่อจอง โฮซอกไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว คำพูดที่โฮซอกพูดทำให้เขานึกถึงตอนแรกที่เขาพูดกับโฮซอก ใช้แล้วล่ะพี่โฮซอกในเมื่อผมพรากสิ่งสำคัญของพี่ไป พี่ก็เลยพรากสิ่งสำคัญของผมไปสินะ แล้วพี่ก็รู้ว่าสิ่งสำคัญของผมนั้นคืออะไร สิ่งสำคัญของผม คนที่ผมรัก ก็คือพี่
“ผมรักพี่นะครับ.......”
ในโลกนี้มีกฎอยู่ว่าทุกอย่างต้องแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม ได้รับอะไรมาก็จงจ่ายคืนด้วยสิ่งที่เท่าเทียม...เช่นเดียวกัน หากถูกช่วงชิงอะไรไป...
...ก็จงแย่งชิงสิ่งที่เท่าเทียมกันกลับคืนมา...
“อ่ะ! ขอโทษครับ”จอน จองกุกเงยหน้าขึ้นมาขอโทษที่ตนชน ก่อนจะรู้สึกราวกับว่าเวลามันหยุดหมุนเขามองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“ไม่เป็นไรครับ”ว่าจบร่างบางก็เดินผ่านเขาไป ทำไม เขาเอ่ยเสียงเรียกร่างบางออกไป
“โฮซอก!”ร่างบางหันมามองเขาด้วยความงุนงง
“ครับ คุณรู้จักผมด้วยเหรอครับ?”ร่างบางของโฮซอกเอยปากถามด้วยความสงสัย เขาไม่เคยเจอหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อนนะแล้วทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้รู้จักชื่อเขาล่ะ
“คือว่า....”
“โฮซอก ไงรอนานเปล่า ป่ะ ไปเถอะหนังจะฉายแล้ว!”ยังไม่ทันที่ จองกุกจะเอ่ยอะไรไปมากว่านี้ก็มีผู้ชายอีกคนวิ่งเข้ามาโอบไหล่ของโฮซอกก่อนจะพูดกับร่างบาง โฮซอกหันมามองหน้าของจองกุก จองกุกยกยิ้มให้โฮซอกก่อนจะเดินออกไป จอง โฮซอกมองผู้ชายคนนั้น ไปจนลับสายตา อะไรกันผู้ชายคนนั้น
“นี่ โฮซอก มั่วแต่มองคนอื่นอยู่ได้แฟนตัวเองมีให้มองทำไมไม่มองล่ะ”แทฮยองที่ยืนอยู่ข้างๆร่างบางโว้ยวายออกมาเมื่อร่างบางไม่นใจเขา
“โอ๋ๆๆ งอนซะแล้วที่จริงคนที่ต้องงอนมันเขาไม่ใช้เหรอ เล่นมาช้าตั้งสามสิบนาที!”โฮซอกยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะจ้องหน้าแทฮยองอย่างเอาเรื่อง
“เขาขอโทดดดดด”ร่างบางมองแทฮยองที่กำลังง้อเขาด้วยการยกนิ้วก้อยขึ้นมาเหมือนเด็กๆซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่แทฮยองง้อเขา โฮซอกหลุดยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับแทฮยอง
“อ่ะ อ่ะ ยกโทษให้ก็ได้ ไปรีบไปได้แล้วเดียวหนังฉายซะก่อน”ว่าจบร่างบางก็เดินนำแทฮยองไปทันที แทฮยองรีบเดินตามโฮซอกมาก่อนจะจับมือของร่างบางไว้ โฮซอกหันมามองหน้าแทฮยองที่กำลังยิ้มกว้างให้เขา ก่อนจะจับมือของจอง โฮซอกไว้แน่น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่โฮซอกชินแล้วล่ะ เคยถามอยู่เหมือนกันว่าทำไมเวลาไปไหนด้วยกันถึงชอบจับมือเขานัก แทฮยองก็ชอบตอบเขามาว่า ก็แฟนเขาสวยอ่ะ กลัวมีคนมาจีบ ด้วยเหตุผลนี้แหละทำให้เขายอมให้คนบ้าอย่งแทฮยองจับมือเขา
“อ่ะหิมะตกล่ะแทฮยอง”ร่างบางหยุดเดินก่อนจะหันไปมองนอกกระจกใส
“ดีจังเขาว่าใครที่เห็นหิมะตกแล้วขอพรจะสมหวังนะ”เมื่อได้ยินดังนั้น โฮซอกรีบยกมือขึ้นมาก่อนจะหลับตาลงช้าๆ แทฮยองมองโฮซอกก่อนจะยิ้มออกมาเขามีความสุขมากๆที่เขาได้มาเจอกับโฮซอก เขากับโฮซอกคบกับมาได้สี่ปีกว่าๆแล้วล่ะ เขามีความสุขมากที่ได้อยู่กับคนที่ยืนขอพรอยู่ข้างๆเขาและเขาก็รักโฮซอกมากๆเลยด้วย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเจอโฮซอก มันเหมือนมีอะไรดลใจทำให้เขากล้าที่จะเดินเข้าไปทำความรู้จักกับร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆเขา แล้วก็ค่อยๆสานสัมพันธ์กับโฮซอกมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ได้เป็นแฟนกันท่ามกลางเสียงยินดี พวกเขาทั้งสองคนถือว่าเป็นคู่รักที่คบกันมานานมากเลยล่ะในความคิดของเขาอ่ะนะ โฮซอกค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะหันมายิ้มให้แทฮยอง ก่อนที่จะเดินจับมือของแทฮยองเข้าโรงหนัง
“เมื้อกี้ขอพรอะไรอ่ะ บอกเขาหน่อยดิ?”แทฮยองหันมาสะกิดร่างบาง
“อืมบอกดีไหมนะ”โฮซอกทำท่าคิดหนัก
“นะๆบอกเค้าหน่อยดิ”ร่างบางยิ้มออกมาก่อนจะกระดิกนิ้วรียกให้คนตัวสูงกว่าตัวเองย่อตัวลงมา ร่างบางกระซิบกับร่างสูง ก่อนจะเดินนำเข้าโรงหนังไปทิ้งให้แทฮยองที่กำลังอึ้งอย่ตรงนั้น เมื่อแทฮยองค่อยๆรวบรวมสติของเขากับมาได้ สิ่งที่เขาอยากได้ยินมันมากออกมาจากปากของร่างบาง
“ไชโย้!!!!!!!”
‘ฉันขอให้นายกับฉันรักกันตลอดไปยังไงล่ะ รักนะคนบ้า’
จอน จองกุกเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ตอนนี้มีหิมะตกลงมา ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรืออะไรดลใจให้เขาหันไปมองที่โรงหนังที่เขาพึ่งเดินออกมา เขาเห็นร่างบางกำลังยืนหลับตาอยู่ข้างๆนั้นมีผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยใช่ จอง โฮซอก กับ คิม แทฮยองกำลังยืนอยู่ข้างกัน ภาพที่เขาเห็นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจำเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นกับตัวเขามาก่อนได้เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้คนทั้งสองคนกลับมาพบกับเขาอีกครั้ง เขายากจะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดเหลือเกิน เขาอยากจะบอกความรู้สึกของตัวเองว่เขาคิดถึงร่างบางขนาดไหนแต่เขากับทำไม่ได้ เขารู้สึกไม่กล้าแม้แต่ที่มองหน้าของโฮซอกแม้แต่น้อย นั้นเป็นเพราะอะไรตัวเขาเองก็รู้ดี จอน จองกุก ละสายตาออกมาจากคนทั้งสอง ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ มือเรียวเล็กของใครบางคนมาสัมผัสที่ไหล่ของคนร่างสูงทำให้คนร่างสูงหันกลับมามอง
“รอนานไหมจองกุก!”จอน จองกุกส่ายหน้า ก่อนจะยกยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาที่กำลังยิ้มอย่างสดใสให้เขา คนที่เป็นแฟนของเขา..
“ไม่นานหรอกฮะ จีมินฮยอง…”
END.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราลองเขียนต่อจากเรื่อง Pay Back (vhope) ค่ะ ไม่รู้ว่าจะสนุกไหมแต่เราอยากลองแต่งให้มันจบอ่ะค่ะมันสนุกมากเลยนะค่ะ ลองไปอ่านดูนะค่ะ ส่วนเรื่องนี้เราลองแต่งขึ้นมาเล่นๆเพื่อเป็นการฝึกฝีมือ อย่าว่าเค้านะถ้าไม่สนุก