สิเน่หาสาวพรหมจรรย์
(ชื่อเดิม ลวงรักซ่อนใจ ตีพิมพ์กับสนพ.แสนรัก)
ตัวอย่างบางส่วน
“ไม่ต้องปิดประตู ผมขี้เกียจเคาะเรียก ชอบเดินเข้าไปปลุกมากกว่า”
เสียงทุ้มดังตามมา หลังจากลลิตาตั้งท่าจะปิดประตูแล้วกดล็อคให้แน่นหนา
จะบ้าหรือไง คุณเป็นผู้ชาย แถมยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนฉันเป็นผู้หญิง มันเสียหายนะ”
ลลิตาตะเบ็งเสียงกลับมาหาคนเจ้ากี้เจ้าการ แต่กลับได้รับเสียงหัวเราะจากเขา
‘ให้ตายเถอะ ไม่รู้จักงั้นเหรอแม่คุณ เราสองคนยิ่งกว่ารู้จักกันเสียอีก’
เจ้าของร่างใหญ่โตนอนอมยิ้มขำกลับถ้อยคำที่ได้ยิน ก่อนกระชับคำสั่งเดิมให้หญิงสาวได้ปฏิบัติตาม
“หัวเราะอะไรคุณ”
เจ้าของใบหน้างอง้ำที่นึกเคืองเสียงหัวเราะจากเขาถามเสียงห้วนๆ หมุนตัวกลับมาอย่างเอาเรื่อง
‘ฮึ่ม! ถ้าพูดไม่เข้าหูล่ะก็ จะอัดให้นวมเชียว’
คนร่างเล็กกระจ้อยร่อยนึกคาดโทษคนตัวโตเอาไว้อย่างนึกแค้น เดี๋ยวแม่จะงัดเอาแม่ไม้มวยไทยสมัยมัธยมมาใช้ให้ดู
“ก็ขำคุณนะสิ คิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่หรือไงครับคุณ ถึงได้กลัวผมจะเข้าไปปล้ำ จะบอกให้นะ อย่างผมนะต้องมีเยื่อพรหมจารีเท่านั้น ผมถึงอยากนอนด้วย”
เสียงทุ้มกระเซ้ากลับแบบยียวน นึกชอบใจที่ได้ต่อปากต่อคำกับแม่นางฟ้า รู้สึกหัวใจมันกระชุ่มกระช่วยดีแท้“
คนปากสกปรก! มีสิทธิ์อะไรมาว่าวิจารณ์ฉัน ฉะ...ฉันเป็นสาวโสดอยู่นะ แล้วฉันก็ไม่สนด้วยว่าคุณอยากนอนกับผู้หญิงแบบไหน ไม่ต้องมาบอกฉัน เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ”
คนที่เพิ่งจะเสียความสาวให้กับหนุ่มนิรนามไปก็พูดไม่เต็มเสียงนัก ยิ่งทำให้อีกคนหัวเราะชอบใจ ก็แน่ล่ะเพราะพรหมจรรย์ของเธอเป็นของเขาแล้วนี่